The correlation between the effects

The correlation between the effects of base strength and basicity
of the catalyst on the catalytic activity was studied. Fig. 5 shows the
catalytic trend of CaOeLa2O3 series with its basicity. The results
illustrated the catalytic trends were parallel to the variability of
total basicity. This study was in good agreement with previous
studies by Olutoye and Hameed (2009) [39], stating that the higher
basicity shall enhance the catalytic activity.
Other than basic active site of catalyst, it is anticipated that
catalytic activity of CaOeLa2O3 can be contributed by the acidity of
CaOeLa2O3 catalyst. Hence, an esterification reaction between oleic
acid with methanol was carried out by using CL8.0 catalyst. This
study was used to examine the capability of optimized CL8.0 to act
as acid catalyst and esterifies FFA in jatropha oil to methyl ester. In
this experiment, oleic acid (as a model compound of FFA) with
9 wt.% (similar to FFA content in jatropha oil) was reacted with
methanol at same transesterification condition (160
C, 3 h, 3 wt.%
of catalyst and methanol/oil molar ratio of 25). Oleic acid was
successfully converted to methyl oleate with around 95%, which
means that CL8.0 catalyst consisted acid sites for esterification
reaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ระหว่างผลกระทบของความแข็งแรงของฐานและด่างของตัวเร่งปฏิกิริยาในการเร่งปฏิกิริยาได้ศึกษา
รูป 5
แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเร่งปฏิกิริยาของชุดCaOeLa2O3 กับด่างของ ผลแสดงให้เห็นแนวโน้มของการเร่งปฏิกิริยาถูกขนานไปกับความแปรปรวนของรวมด่าง การศึกษาครั้งนี้อยู่ในข้อตกลงที่ดีกับที่ก่อนหน้านี้การศึกษาโดย Olutoye และ Hameed (2009) [39] ระบุว่าสูงกว่าด่างจะเพิ่มการเร่งปฏิกิริยา. อื่น ๆ กว่าเว็บไซต์ที่ใช้งานพื้นฐานของตัวเร่งปฏิกิริยาก็เป็นที่คาดว่าการเร่งปฏิกิริยาของCaOeLa2O3 สามารถสนับสนุน โดยความเป็นกรดของตัวเร่งปฏิกิริยาCaOeLa2O3 ดังนั้นปฏิกิริยา esterification ระหว่างโอเลอิกกรดกับเมทานอลได้ดำเนินการโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา CL8.0 นี้การศึกษาได้ใช้ในการตรวจสอบความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพ CL8.0 ที่จะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยากรดและesterifies FFA ในน้ำมันสบู่ดำเพื่อเมทิลเอสเตอร์ ในการทดลองนี้กรดโอเลอิก (เป็นสารรูปแบบของ FFA) กับ 9 น้ำหนัก.% (คล้ายกับเนื้อหา FFA ในน้ำมันสบู่ดำ) ได้รับการตอบสนองด้วยเมทานอลที่สภาวะtransesterification เดียวกัน (160 องศาเซลเซียส 3 ชั่วโมง 3 น้ำหนัก.% ของตัวเร่งปฏิกิริยา และเมทานอล / น้ำมันอัตราส่วน 25) กรดโอเลอิกถูกแปลงประสบความสำเร็จกับเมธิล oleate มีประมาณ 95% ซึ่งหมายความว่าตัวเร่งปฏิกิริยาCL8.0 เว็บไซต์ประกอบด้วยกรด esterification ปฏิกิริยา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ระหว่างผลของความแข็งแรงของฐานดี
ของตัวเร่งปฏิกิริยาในกิจกรรมการศึกษา ภาพที่ 5 แสดงให้เห็นแนวโน้มการ caoela2o3
ชุดกับดี . แสดงแนวโน้มผล
เร่งถูกขนานกับความผันแปรของ
ดีทั้งหมด การศึกษานี้มีความสอดคล้องกับการศึกษาและก่อนหน้านี้
olutoye hameed ( 2009 ) [ 39 ]ระบุว่า ยิ่งจะเพิ่มฤทธิ์ดี
.
นอกจากเว็บไซต์การใช้งานพื้นฐานของตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งคาดว่า
ฤทธิ์ของ caoela2o3 สามารถสนับสนุนโดยความเป็นกรดของตัวเร่งปฏิกิริยา caoela2o3
. ดังนั้น ปฏิกิริยาเป็นปฏิกิริยาระหว่างกรดโอเลอิก
กับเมทานอลโดยใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา cl8.0 . การศึกษา
ถูกใช้ในการตรวจสอบความสามารถในการปรับ cl8 .แสดง 0
เป็นตัวเร่งปฏิกิริยากรด และ esterifies FFA ในน้ำมันสบู่ดำกับเมทิลเอสเตอร์ ใน
การทดลองนี้ กรดโอเลอิก ( เป็นรูปแบบผสมของ FFA )
9 % โดยน้ำหนัก ( คล้ายกับเนื้อหาในภาชนะบรรจุน้ำมันสบู่ดำ ) ทำปฏิกิริยากับเมทานอลที่สภาวะเดียวกัน
กระบวนการทรานส์เอสเทอริฟิเคชั่น ( 160
C 3 H ,
3 % โดยน้ำหนักของตัวเร่งปฏิกิริยาอัตราส่วนโมลของเมทานอลต่อน้ำมัน 25 ) กรดโอเลอิกเป็น
แปลงเรียบร้อยแล้วเมทิลโอลิเประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ซึ่งหมายความว่ามีตัวเร่งปฏิกิริยากรด
cl8.0 เว็บไซต์สำหรับปฏิกิริยาเอสเทอริฟิเคชัน