Interesting Facts The type entered

Interesting Facts The type entered squadron service in June 1917 with No. 4 Squadron of the Royal Naval Air Service, near Dunkirk. The following month, it became operational with No. 70 Squadron of the Royal Flying Corps. By February 1918, 13 squadrons were fully equipped with the Camel.
The Camel proved to have a good margin of superiority over the Albatros D.III and D.V and offered heavier armament and better performance than the Pup and Triplane. In the hands of an experienced pilot, its manoeuvrability was unmatched by any contemporary type. Its controls were light and sensitive. The Camel turned rather slowly to the left, which resulted in a nose up attitude due to the torque of the rotary engine. But the engine torque also resulted in the ability to turn to the right in half the time of other fighters,[4] although that resulted in more of a tendency towards a nose down attitude from the turn. Because of the faster turning capability to the right, to change heading 90° to the left, many pilots preferred to do it by turning 270° to the right.
Agility in combat made the Camel one of the best-remembered Allied aircraft of the First World War. RFC crew used to joke that it offered the choice between "a wooden cross, the Red Cross, or a Victoria Cross"[5] Together with the S.E.5a and the SPAD S.XIII, the Camel helped to establish the Allied aerial superiority that lasted well into 1918.
Major William Barker's Sopwith Camel (serial no. B6313, the aircraft in which he scored the majority of his victories,[6]) became the most successful fighter aircraft in the history of the RAF, shooting down 46 aircraft and balloons from September 1917 to September 1918 in 404 operational hours flying. It was dismantled in October 1918. Barker kept the dashboard watch as a memento, but was asked to return it the following day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจในการบริการกองชนิดป้อนใน 1917 มิถุนายนด้วยหมายเลข 4 กองหลวงกองทัพอากาศการบริการ ใกล้ดันเคิร์ก เดือนต่อไป เริ่มปฏิบัติกับกอง 70 หมายเลขของหน่วยบินรอยัล โดย 1918 กุมภาพันธ์ squadrons ที่ 13 ได้เพียบ ด้วยคาเมล
Camel พิสูจน์แล้วว่าได้กำไรดีของปม D.III แฟร็งเฟิร์และ dV และเสนออาวุธที่หนัก และประสิทธิภาพดีกว่าฑิมภ์และ Triplane ในมือของนักบินมีประสบการณ์ manoeuvrability ของถูกไม่ตรงตามชนิดใด ๆ ร่วมสมัย ควบคุมของถูกแสง และความไวต่อ อูฐเปิดซ้าย ซึ่งส่งผลให้จมูกค่าทัศนคติเนื่องจากแรงบิดของเครื่องยนต์โรตารี่ ค่อนข้างช้า แต่แรงบิดของเครื่องยนต์ยังส่งผลให้สามารถเปิดทางด้านขวาในเวลาครึ่งหนึ่งของนักรบอื่น ๆ, [4] แม้ว่าที่เกิดขึ้นของแนวโน้มทางจมูกลงทัศนคติจากเปิด เนื่องจากความสามารถในการเปลี่ยนเร็วต้อง เปลี่ยนหัว 90 องศาไปทางซ้าย นักบินจำนวนมากต้องทำ โดยการเปิดองศา 270 ต้องการ
ความคล่องตัวในการรบทำอูฐหนึ่งของเครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรระหว่างจดจำที่ดีที่สุดของสงครามโลกครั้งหนึ่ง ลูกเรือ RFC ใช้กระเซ้าว่า จะเสนอทางเลือกระหว่าง "ข้ามไม้ กาชาด หรือข้ามวิคตอเรีย" Together [5] S.E.5a และ S.XIII ค่า อูฐช่วยสร้างปมทางอากาศฝ่ายสัมพันธมิตรที่กินเวลาเป็น 1918.
วิชาวิลเลียมบาร์คเกอร์ของ Sopwith Camel (หมายเลขประจำสินค้า B6313 เครื่องบินที่เขาทำส่วนใหญ่ของ victories,[6]) ของเขากลายเป็น เครื่องบินรบประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ RAF ยิงเครื่องบินและบอลลูน 46 จาก 1917 กันยายนการ 1918 กันยายน 404 ปฏิบัติชั่วโมงบิน มันถูกรื้อถอนในเดือน 1918 ตุลาคม บาร์คเกอร์เก็บนาฬิกาแดชบอร์ดเป็น memento เป็น แต่ถูกขอร้องให้คืนวันต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจประเภทเข้ามาให้บริการในฝูงบินมิถุนายน 1917 ฉบับที่ 4 ด้วยฝูงบินของกองทัพเรือให้บริการทางอากาศใกล้เกอร์ก เดือนต่อมามันก็กลายเป็นงานที่มีเลขที่ 70 ฝูงบินของกองบินทหาร กุมภาพันธ์ 1918 13 กองกำลังเพียบพร้อมไปด้วยอูฐ
อูฐพิสูจน์ให้เห็นว่ามีกำไรที่ดีของความเหนือกว่าในช่วง Albatros D.III และ DV และเสนอขายอาวุธยุทโธปกรณ์หนักและประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่า Pup และ Triplane อยู่ในมือของนักบินที่มีประสบการณ์คล่องแคล่วถูกเปรียบโดยประเภทร่วมสมัยใด ควบคุมมันมีน้ำหนักเบาและมีความละเอียดอ่อน อูฐเปิดค่อนข้างช้าไปทางซ้ายซึ่งจะมีผลในจมูกขึ้นทัศนคติเนื่องจากแรงบิดของเครื่องยนต์โรตารี่ แต่แรงบิดเครื่องยนต์ยังส่งผลให้ความสามารถในการเลี้ยวขวาในครึ่งเวลาของเครื่องบินรบอื่น ๆ [4] ถึงแม้ว่ามันจะมีผลในการเพิ่มขึ้นของแนวโน้มที่มีต่อทัศนคติของจมูกลงมาจากเปิด เพราะความสามารถในการเปลี่ยนได้เร็วขึ้นไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนหัว 90 องศาไปทางซ้ายนักบินจำนวนมากที่ต้องการที่จะทำมันด้วยการเปลี่ยน 270 °ไปทางขวา
ความว่องไวในการต่อสู้ทำให้อูฐหนึ่งในดีที่สุดจำเครื่องบินพันธมิตรแรก สงครามโลกครั้งที่ ลูกเรือ RFC เคยพูดเล่นว่ามันเสนอทางเลือกระหว่าง "ไม้กางเขนกาชาดหรือวิกตอเรียครอส" [5] ร่วมกับ SE5a และ SPAD S.XIII อูฐช่วยสร้างพันธมิตรที่เหนือกว่าทางอากาศที่กินเวลานาน 1918 ดีใน
เมเจอร์วิลเลียมบาร์เกอร์อูฐโซพ (ไม่มีอนุกรม B6313. เครื่องบินที่เขายิงส่วนใหญ่ของชัยชนะของเขา [6]) กลายเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพอากาศยิง 46 เครื่องบินและลูกโป่ง จากกันยายน 1917 ถึงกันยายน 1918 ในการดำเนินงาน 404 ชั่วโมงบิน มันถูกรื้อถอนในตุลาคม 1918 บาร์คเกอร์เฝ้าแผงเป็นที่ระลึก แต่ก็ขอให้กลับมาในวันรุ่งขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ ประเภท เข้าให้บริการกองพันทหารม้าในเดือนมิถุนายนปี 1917 พร้อมด้วยหมายเลข 4 นาวาอากาศตรีของ Royal Naval Air บริการที่อยู่ใกล้กับ Dunkirk :ตรง เดือนนี้ได้กลายเป็นการปฏิบัติงานด้วย 70 กองพันทหารม้าที่มีพระบรมราชโองการบินทหาร โดยเดือน กุมภาพันธ์ 191813 squadrons ก็จัดให้บริการพร้อมด้วยการขี่อูฐขี่อูฐ.
ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นในมีส่วนต่างกำไรที่ดีของความเหนือกว่ามากกว่า beach Albatros โดย D ., iii ,และ D .อย่างเต็มที่V และเสนอขายอาวุธหนักขึ้นและ ประสิทธิภาพ การทำงานที่ดีขึ้นกว่าลูกสุนัขและ triplane อยู่ในมือของนักบินที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ความคล่องตัวของมันที่ไม่มีใครเทียบได้โดยพิมพ์แบบร่วมสมัยใดๆ การควบคุมที่มีน้ำหนักเบาและที่สำคัญ ขี่อูฐที่หันมาเป็นอย่างช้าๆไปทางซ้ายซึ่งเป็นผลทำให้อยู่ในท่าจมูกได้เนื่องจากการแรงบิดของเครื่องยนต์โรตารีได้แต่แรงบิดเครื่องยนต์ที่ยังเป็นผลทำให้ความสามารถในการเปิดไปทางขวาในช่วงของอื่นๆนักสู้[ 4 ]แม้ว่าจะเป็นผลทำให้มากขึ้นมีแนวโน้มในทางจมูกที่ลงทัศนคติจากที่ เนื่องจากมีความสามารถในการทำงานได้เร็วขึ้นไปทางขวาเพื่อเปลี่ยนมุ่งหน้าไป 90 °เพื่อไปยังด้านซ้ายให้นักบินจำนวนมากที่ต้องการจะทำอะไรโดยการหมุน 270 °ไปทางขวา.
ความคล่องตัวในการต่อสู้ทำให้ขี่อูฐที่หนึ่งในอากาศยานซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดจำได้ของสงครามโลกครั้งแรกที่ ลูกเรือ RFC ใช้ในการเล่นตลกที่จะจัดให้บริการทางเลือกที่อยู่ระหว่าง"การทำจากไม้สีแดงที่หรือวิกตอเรียข้าม"[ 5 ]พร้อมด้วย. S . S . E . 5 ที่และ spad ๑๓. S . S .ที่ขี่อูฐที่ช่วยในการสร้างความเหนือกว่าทางอากาศซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดำเนินไปอย่างดีเข้ากับ 1918 .
สำคัญของวิลเลียม Barker sopwith ขี่อูฐ( Serial No .B 6313 อากาศยานในที่ที่เขาทำคะแนนได้เสียงข้างมากในชัยชนะของเขา[ 6 ])เป็นเครื่องบินรบที่ประสบความสำเร็จในประวัติศาสตร์ของเริ่มการถ่าย ภาพ ลง 46 บอลลูนและอากาศยานตั้งแต่เดือนกันยายนปี 1917 ถึงเดือนกันยายน 1918 ใน 404 ชั่วโมงบินในการทำงาน โรงแรมได้รับการรื้อทิ้งในเดือนตุลาคม 1918 บาร์เกอร์ได้รับการดูแลรักษาให้รับชมแผงหน้าปัดเป็นที่ระลึกแต่ถูกถามว่าจะกลับไปเป็นวันต่อไปนี้: