Salt marshesthe upper fringe of sof

Salt marshes
the upper fringe of soft sediment shores is often dominated by salt marsh vegetation comprising woody perennials, succulent annuals and grasses. Saltmarshes are usually associated with temperate climates but occur throughout the world, from sub-polar regions to the tropics. On tropical shores, salt marshes are often associated whit mangroves, occupying the upper and lower intertidal zone respectively. Species composition is determined to a large extent by salinity. For example, in low salinity or brackish waters found in the upper reaches of estuaries, marsh vegetation gives way to reed beds. Plant detritus carried away from marshes also contributes to food webs in estuaries and near shore waters. Many saltmarshes have been attributed special conservation status under the Ramsar Convention on Wetland of International Importance, due to their importance as habitats for birds, especially migratory species.

The impact of an oil spill on saltmarshes depends on the time of year relative to periods of plant growth. Temperate or cold region marshes are dormant during winter months, while in the Mediterranean growth is slow during high summer temperatures. A single event is unlikely to cause more than temporary effects but longer term damage, possibly over several years, can be inflicted by repeated, chronic oiling or by aggressive clean-up activity, such as trampling, the use of heavy equipment or removal of contaminated substrate. Cleaning of a saltmarsh is difficult without risking additional damage and so it is frequently recommended to leave marshes to clean naturally. However, if burning or cutting vegetation has died back. In general, as long as the roots or bulbs of the plants are not harmed by serious oiling or excessive compaction during the clean –up, seasonal re-growth may be expected to follow.
Mangroves
Mangroves are salt-tolerant trees and shrubs growing at the margins of sheltered tropical and sub-tropical waters. Mangroves stands provide a valuable habitat for crabs, oysters and other invertebrates as well as important nursery areas for fish and shrimp. In addition, thus reducing erosion of coastlines and minimizing deposition of terrestrial sediments on adjacent seagrass bads and coral reefs.
Their location means that mangroves are highly vulnerable to oil spills. Mangroves are also considered to be extremely sensitive to contamination by oil, dependent to a large extent on the substrate in which the mangroves are growing. Mangroves typically grow in dense muddy anaerobic sediments and rely on oxygen supplied through small pores (lenticels) on aerial roots (Figure 9). Heavy oil inundation of the root systems may block this oxygen supply and may cause the mangroves to die. However, in open aerated sediments, which allow relatively free seawater exchange, the root systems draw oxygen from seawater and so have a higher tolerance to smothering by oil. In the second mechanism, the toxic components of oil, notably in light refined products, interfere whit the plants, systems for maintaining the salt balance, thereby affecting their ability to tolerate salt water. Experience has indicated that loss of mangroves due to heavy oil smothering appears to be less likely than mortality due to inundation with lighter products, including some cleaning agents, which can result localized loos of tree cover.

Organisms living within the mangrove ecosystem cam be impacted both by direct effects of the oil and also the longer term loss of habitat. Natural recovery of the complex mangrove ecosystem can take a long time and reinstatement measures may have real potential to accelerate the recovery process in such habitats.
Long term damage
An effective clean-up operation usually includes removal of bulk oil contamination, reducing the geographical extent and duration of pollution damage, and allowing natural recovery to commence. However, aggressive clean-up methods can cause additional damage and natural cleaning processes may be preferable. Over time, several factors reduce the toxicity of oil so that the contaminated substrate can support new growth (Figure10). For example, oil can be flushed away by rain and tides and as the oil weathers the volatile fractions evaporate, leaving less toxic residual oil.

As the marine environment has such a strong capacity for natural recovery, the impact of an oil spill is usually localized and transitory and there are few documented examples of long term damage. However, under certain specific circumstances, damage may be persistent and impairment of an ecosystem longer-lasting than might typically be expected. The circumstances that tend to lead to acute long term damage are associated with the persistence of oil, particularly where oil has become trapped within the sediment and is protected from normal weathering processes. Examples include sheltered habitats, such as marshes, shingle shorelines and near shore waters, especially when an oil spill coincides with storm conditions. A storm surge inundating a marsh, with the associated turbulent conditions, is likely to bring fine sediments into suspension and into contact with naturally dispersed oil. Once the storm abates, the oil incorporated within the sediment settles to the marsh floor. Similar circumstances result in oil being incorporated into fine sediments and settling in near shore waters. In both situations, anaerobic conditions slow any degradation of the oil. On shingle shorelines, the weathering of the mixture of oil and shingle can result in the formation of an asphalt pavement, which may persist for some time. Oil products that are more dense than seawater, such as very heavy oils or fire residues, fall to the seabed where they can remain undisturbed for indeterminate periods and may result in localized smothering of benthic organisms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บึงเกลือขอบบนของตะกอนชายฝั่งอ่อนมักจะถูกครอบงำด้วยเกลือพืชบึงประกอบไปด้วยไม้ยืนต้นไม้ฉ่ำต้นไม้และหญ้า saltmarshes มักจะเกี่ยวข้องกับภูมิอากาศปานกลาง แต่เกิดขึ้นทั่วโลกจากภูมิภาคย่อยขั้วโลกไปยังเขตร้อน บนชายฝั่งเขตร้อนบึงเกลือมักจะเกี่ยวข้องโกงกางเล็กน้อย,ครอบครองโซน intertidal บนและล่างตามลำดับ องค์ประกอบชนิดถูกกำหนดขอบเขตขนาดใหญ่โดยความเค็ม ตัวอย่างเช่นในความเค็มต่ำหรือน้ำกร่อยที่พบในต้นน้ำลำธารของอ้อยพืชบึงให้วิธีการเตียงกก เศษซากพืชออกไปจากบึงยังก่อให้ใยอาหารในบริเวณปากแม่น้ำและน้ำใกล้ชายฝั่งsaltmarshes จำนวนมากได้รับการบันทึกสถานะการอนุรักษ์พิเศษภายใต้อนุสัญญาแรมซาร์ในพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศเนื่องจากความสำคัญของพวกเขาเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกโดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์ที่อพยพย้ายถิ่น.

ผลกระทบของการรั่วไหลของน้ำมันใน saltmarshes ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีเมื่อเทียบกับช่วงเวลา การเจริญเติบโตของพืช บึงภูมิภาคพอสมควรหรือเย็นกำลังนอนอยู่ในช่วงฤดู​​หนาวเดือนในขณะที่ในการเจริญเติบโตเมดิเตอร์เรเนียนเป็นช้าในช่วงฤดู​​ร้อนอุณหภูมิสูง เหตุการณ์เดียวไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายในระยะมากขึ้นกว่าผลกระทบชั่วคราวอีกต่อไป แต่อาจจะเป็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสามารถแผลซ้ำเอาอกเอาใจเรื้อรังหรือโดยการทำความสะอาดขึ้นก้าวร้าวกิจกรรมเช่นการเหยียบย่ำการใช้งานของเครื่องจักรกลหนักหรือการกำจัดของการปนเปื้อน สารตั้งต้นการทำความสะอาด Saltmarsh เป็นเรื่องยากโดยไม่ต้องเสี่ยงความเสียหายเพิ่มเติมและจึงขอแนะนำบ่อยครั้งที่จะออกจากหนองน้ำในการทำความสะอาดตามธรรมชาติ แต่ถ้าการเผาไหม้หรือการตัดต้นไม้ได้ตายกลับ โดยทั่วไปตราบใดที่รากหรือหัวของพืชที่ไม่ได้รับอันตรายจากการเอาอกเอาใจที่รุนแรงหรือการบดอัดมากเกินไปในระหว่างการทำความสะอาดขึ้นตามฤดูกาลอีกครั้งการเจริญเติบโตอาจจะคาดหวังว่าจะปฏิบัติตาม.

ป่าโกงกางป่าโกงกางเป็นต้นไม้ที่ทนต่อความเค็มและพุ่มไม้เติบโตที่ขอบของเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนที่กำบัง ป่าโกงกางยืนให้ที่อยู่อาศัยที่มีค่าสำหรับปูหอยนางรมและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆ เช่นเดียวกับพื้นที่เพาะสำคัญสำหรับปลาและกุ้ง ในนอกจากนี้ซึ่งช่วยลดการพังทลายของชายฝั่งและลดการสะสมของตะกอนดินที่อาบน้ำหญ้าทะเลที่อยู่ใกล้เคียงและแนวปะการัง.
ทำเลที่ตั้งของหมายความว่าป่าชายเลนเป็นอย่างสูงที่เสี่ยงต่อการรั่วไหลของน้ำมัน ป่าโกงกางจะถือว่ายังเป็นที่มีความสำคัญมากที่จะปนเปื้อนน้ำมันขึ้นอยู่กับขอบเขตขนาดใหญ่บนพื้นผิวที่ป่าโกงกางมีการเจริญเติบโตป่าโกงกางมักจะเจริญเติบโตได้ในตะกอนแบบไร้อากาศหนาแน่นเต็มไปด้วยโคลนและพึ่งพาออกซิเจนมาผ่านรูขุมขนขนาดเล็ก (lenticels) บนรากอากาศ (รูปที่ 9) น้ำท่วมน้ำมันหนักของระบบรากอาจปิดกั้นออกซิเจนนี้และอาจทำให้เกิดป่าโกงกางที่จะตาย แต่ในตะกอนมวลเบาเปิดที่อนุญาตให้การแลกเปลี่ยนน้ำทะเลค่อนข้างฟรีระบบรากดึงออกซิเจนจากน้ำทะเลและเพื่อให้มีความอดทนที่สูงขึ้นเพื่อกลั้นน้ำมัน ในกลไกที่สององค์ประกอบที่เป็นพิษของน้ำมันที่โดดเด่นในผลิตภัณฑ์กลั่นแสงรบกวนเล็กน้อยพืชระบบการรักษาความสมดุลของเกลือจึงมีผลต่อความสามารถในการทนต่อน้ำทะเลประสบการณ์ที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าการสูญเสียของป่าโกงกางเนื่องจากการกลั้นน้ำมันหนักที่ดูเหมือนจะเป็นไปได้น้อยกว่าการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากน้ำท่วมด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบารวมทั้งสารทำความสะอาดบางอย่างที่จะส่งผลให้ลูหน่วงของต้นไม้ปกคลุม.

สิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นลูกเบี้ยว ส่งผลกระทบต่อทั้งสองโดยผลกระทบโดยตรงจากน้ำมันและการสูญเสียในระยะยาวของที่อยู่อาศัยการฟื้นตัวตามธรรมชาติของระบบนิเวศป่าชายเลนที่มีความซับซ้อนสามารถใช้เวลานานและมาตรการสถานะอาจมีศักยภาพที่แท้จริงในการเร่งกระบวนการกู้คืนในแหล่งที่อยู่อาศัยดังกล่าว.
ความเสียหายในระยะยาว
การดำเนินการทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพมักจะมีการกำจัดการปนเปื้อนของน้ำมันกลุ่มลดทางภูมิศาสตร์ ขอบเขตและระยะเวลาของความเสียหายมลพิษและช่วยให้การกู้คืนธรรมชาติที่จะเริ่ม อย่างไรก็ตามวิธีการทำความสะอาดขึ้นก้าวร้าวสามารถทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมและกระบวนการทำความสะอาดตามธรรมชาติอาจจะดีกว่า เมื่อเวลาผ่านไปหลายปัจจัยที่ลดความเป็นพิษของน้ำมันเพื่อให้พื้นผิวที่ปนเปื้อนสามารถรองรับการเจริญเติบโตใหม่ (figure10) ตัวอย่างเช่นน้ำมันสามารถล้างออกด้วยน้ำฝนและกระแสน้ำและเป็นน้ำมันสภาพอากาศเศษส่วนระเหยระเหยออกจากน้ำมันที่เหลือเป็นพิษน้อย.

เป็นสภาพแวดล้อมทางทะเลได้เช่นกำลังการผลิตที่แข็งแกร่งสำหรับการกู้คืนธรรมชาติผลกระทบของการรั่วไหลของน้ำมันโดยปกติจะเป็นภาษาท้องถิ่นและชั่วคราวและมีเอกสารตัวอย่างบางส่วนของความเสียหายในระยะยาว แต่ภายใต้สถานการณ์ที่เฉพาะเจาะจงบางอย่างอาจจะเกิดความเสียหายถาวรและการด้อยค่าของระบบนิเวศติดทนนานกว่าอาจจะเป็นที่คาดหวังสถานการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่​​ความเสียหายในระยะยาวเฉียบพลันที่เกี่ยวข้องกับการคงอยู่ของน้ำมันโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันที่ได้กลายเป็นที่ขังอยู่ภายในตะกอนและมีการป้องกันการผุกร่อนจากกระบวนการปกติ ตัวอย่างรวมถึงแหล่งที่อยู่อาศัยที่กำบังเช่นบึงชายฝั่งกรวดและน้ำใกล้ฝั่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการรั่วไหลของน้ำมันที่เกิดขึ้นพร้อมกับเงื่อนไขพายุพายุคลื่นจุกบึงที่มีเงื่อนไขป่วนที่เกี่ยวข้องมีโอกาสที่จะนำมาปรับเป็นตะกอนแขวนลอยและสัมผัสกับน้ำมันก็แยกย้ายกันไปตามธรรมชาติ เมื่อพายุ abates น้ำมันรวมภายในตะกอน settles กับพื้นบึง สถานการณ์ที่คล้ายกันส่งผลให้น้ำมันถูกรวมอยู่ในตะกอนดีและนั่งอยู่ในน้ำใกล้ฝั่ง ทั้งในสถานการณ์สภาพไร้ออกซิเจนชะลอการเสื่อมสภาพของน้ำมันใด ๆ บนชายฝั่งกรวด, ผุกร่อนของส่วนผสมของน้ำมันและกรวดที่สามารถส่งผลให้เกิดการก่อตัวของทางเท้ายางมะตอยซึ่งอาจยังคงมีอยู่บางครั้ง ผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำทะเลเช่นน้ำมันหนักมากหรือตกค้างไฟที่ตกอยู่กับพื้นดินท้องทะเลที่พวกเขาสามารถยังคงสงบเป็นระยะเวลาไม่แน่นอนและอาจส่งผลกลั้นท้องถิ่นของสิ่งมีชีวิตหน้าดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกลือ marshes
เพิ่มเติมด้านบนของชายฝั่งตะกอนอ่อนมักถูกครอบงำ ด้วยพืชเกลือมาร์ช perennials วู้ดดี้ พืชอวบน้ำ และหญ้า Saltmarshes จะเชื่อมโยงกับสภาพอากาศที่แจ่ม แต่เกิดขึ้นทั่วโลก จากภูมิภาคย่อยขั้วการเมืองร้อน บนชายฝั่งเขตร้อน marshes เกลือมักออกเกี่ยวข้องโกรฟส์ มีส่วนบน และล่างโซน intertidal ตามลำดับ องค์ประกอบสายพันธุ์ถูกกำหนดขอบเขตขนาดใหญ่ โดยเค็ม ตัวอย่าง เค็มต่ำหรือน้ำกร่อยที่พบในจนถึงด้านบนของปากแม่น้ำ พืชพรรณของมาร์ชให้ไปเตียงกก พืช detritus ทำจาก marshes ยังสนับสนุนเว็บอาหาร ในบริเวณปากแม่น้ำ และ ใกล้ชายฝั่งทะเล Saltmarshes หลายมีสถานะอนุรักษ์ attributed พิเศษภายใต้อนุสัญญาในพื้นที่ชุ่มน้ำนานาชาติของสำคัญ เนื่องจากมีความสำคัญเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอพยพพันธุ์

ผลกระทบของการรั่วไหลของน้ำมันใน saltmarshes ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีเมื่อเทียบกับระยะเวลาของการเจริญเติบโตของพืช Marshes ภูมิภาคแจ่ม หรือเย็นอยู่เฉย ๆ ในช่วงฤดูหนาวเดือน ในขณะที่ในเมดิเตอร์เรเนียนเจริญเติบโตจะช้าในช่วงอุณหภูมิในฤดูร้อนสูง เหตุการณ์เดียวไม่น่าทำมากกว่าผลชั่วคราว แต่ความเสียหายระยะยาว อาจจะผ่านหลายปี สามารถเกิดซ้ำ เรื้อรังลื่น หรือทำความสะอาด กิจกรรมเชิงรุก เช่น trampling การใช้เครื่องจักรหรือการเอาออกของพื้นผิวที่ปนเปื้อน ทำความสะอาด saltmarsh ไม่ยากซึ่งความเสียหายเพิ่มเติม และให้ มันบ่อยแนะนำให้ปล่อย marshes ทำความสะอาดตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ถ้าเขียน หรือตัด พืชเสียชีวิตกลับมา ทั่วไป ตราบใดที่รากหรือหลอดของพืชจะไม่มาปกลื่นอย่างจริงจังหรือการกระชับข้อมูลมากเกินไปในระหว่าง –up สะอาด ใหม่เจริญเติบโตตามฤดูกาลอาจจะต้องตามด้วย
โกรฟส์
โกรฟส์มีเกลือทนกับต้นไม้และพุ่มที่เจริญเติบโตที่ขอบของทะเลเขตร้อน และเขตร้อนย่อยกำบัง โกรฟส์ยืนให้อยู่อาศัยที่มีคุณค่าสำหรับปู หอยนางรม และอื่น ๆ invertebrates ตลอดจนพื้นที่เรือนเพาะชำสำคัญสำหรับปลาและกุ้ง นอกจากนี้ ลดการพังทลายของชายฝั่งอัน และลดการสะสมของตะกอนภาคพื้น bads ติดหญ้าทะเลและปะการัง
หมายถึง ตำแหน่งโกรฟส์สูงเสี่ยงต่อการหกรั่วไหลของน้ำมัน โกรฟส์ยังพิจารณาน้อยมากการปนเปื้อนน้ำมัน ขึ้นอยู่กับขอบเขตขนาดใหญ่บนพื้นผิวที่กำลังเติบโตย่าง ป่าชายเลนโดยทั่วไปเติบโตในตะกอนไม่ใช้โคลนหนาแน่น และพึ่งออกซิเจนให้ผ่าน (lenticels) รูขุมขนเล็กบนรากทางอากาศ (9 รูป) น้ำมันหนัก inundation ของระบบรากอาจบล็อคนี้จัดหาออกซิเจน และอาจทำให้ย่างตาย อย่างไรก็ตาม ในตะกอน aerated เปิด ที่อนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนน้ำทะเลค่อนข้างฟรี ระบบรากดึงออกซิเจนจากน้ำทะเล และเพื่อให้ มีความอดทนสูงกับ smothering โดยน้ำมัน ในระบบที่สอง ส่วนประกอบเป็นพิษของน้ำมัน โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่มีการรับแสง แทรกแซงออกพืช ระบบรักษาสมดุลเกลือ ผลกระทบต่อความสามารถในการทนน้ำเค็ม ประสบการณ์ได้ระบุว่า สูญเสียเนื่องจากน้ำมันหนัก smothering โกรฟส์ปรากฏจะมีแนวโน้มน้อยกว่าการตายเนื่องจาก inundation ผลิตภัณฑ์เบา รวมถึงตัวบางทำความสะอาดแทน ซึ่งสามารถทำเป็นภาษาท้องถิ่นนวดลดของต้นไม้ปะ

สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ภายในกล้องระบบนิเวศป่าชายเลนได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงผลกระทบของน้ำมัน และยังขาดทุนระยะยาวของการอยู่อาศัย ฟื้นตัวตามธรรมชาติของระบบนิเวศป่าชายเลนที่ซับซ้อนอาจใช้เวลานาน และมาตรการ reinstatement อาจเร่งการกู้คืนในดังกล่าวอยู่อาศัยจริงอาจ
ความเสียหายระยะยาว
ดำเนินการล้างมีประสิทธิภาพมักจะรวมเอาการปนเปื้อนน้ำมันจำนวนมาก ลดขอบเขตทางภูมิศาสตร์และระยะเวลาของมลพิษความเสียหาย และอนุญาตให้กู้คืนธรรมชาติเข้าไว้ อย่างไรก็ตาม วิธีล้างก้าวร้าวสามารถทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม และกระบวนการทำความสะอาดจากธรรมชาติอาจจะดีกว่า ช่วงเวลา ปัจจัยต่าง ๆ ลดความเป็นพิษของน้ำมันเพื่อให้พื้นผิวปนเปื้อนสามารถรองรับการเจริญเติบโตใหม่ (Figure10) สามารถล้างน้ำมันออกไป โดยฝนและกระแสน้ำ และเป็นน้ำมัน weathers ส่วนระเหย ระเหย ออกจากน้ำมันส่วนที่เหลือจากพิษน้อยเช่น .

กับสภาพแวดล้อมทางทะเลได้เช่นกำลังแข็งแรงสำหรับการกู้คืนธรรมชาติ ผลกระทบของการรั่วไหลของน้ำมันโดยปกติจะเป็นภาษาท้องถิ่น และอนิยม และมีเอกสารอย่างความเสียหายระยะยาว อย่างไรก็ตาม ภายใต้สถานการณ์เฉพาะบางอย่าง ความเสียหายอาจเป็นแบบถาวร และผลของการระบบนิเวศนานมากกว่าโดยทั่วไปอาจคาดหวังได้ มักจะนำไปสู่ความเสียหายระยะยาวเฉียบพลันเกี่ยวข้องกับการคงอยู่ของน้ำมัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่น้ำมันกลายเป็นติดอยู่ในตะกอน และได้รับการป้องกันจากสภาพอากาศปกติกระบวนการ ตัวอย่างรวมการอยู่อาศัยกำบัง เช่น marshes, shingle อยู่ และใกล้ชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการรั่วไหลของน้ำมันกรุณาสภาพพายุ คลื่นพายุที่ inundating กับมาร์ช กับเงื่อนไขเชี่ยวเกี่ยวข้อง มีแนวโน้มจะนำตะกอนดี เข้าระงับ และน้ำมันธรรมชาติกระจัดกระจายไปยังฝั่ง เมื่อพายุ abates ชำระน้ำมันรวมอยู่ในตะกอนที่พื้นมาร์ช สถานการณ์คล้ายผลน้ำมันเรทเป็นตะกอนละเอียด และ settling ในน่านน้ำใกล้ชายฝั่ง ในทั้งสองกรณี เงื่อนไขไม่ใช้ชะลอการสลายตัวของน้ำมัน บนชายฝั่งทะเลเซ็นชินเกิ้ล สภาพอากาศของส่วนผสมของน้ำมันและเซ็นชินเกิ้ลอาจส่งผลในการก่อตัวของการยางมะตอยบาทวิถี ซึ่งอาจคงอยู่ในบางเวลา ผลิตภัณฑ์น้ำมัน ที่มีความหนาแน่นสูงกว่าน้ำทะเล น้ำมันหนักมากเช่นไฟตก ตกไปก้นทะเลซึ่งพวกเขาสามารถอยู่อีกสำหรับรอบระยะเวลาไม่ทราบแน่ชัด และอาจส่งผล smothering ภาษาท้องถิ่นของสิ่งมีชีวิตธรรมชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งจะช่วยแอ่งน้ำเกลือบริเวณชายขอบด้านบนของชายฝั่งตะกอนแบบไม่มีแอลกอฮอล์ได้ถูกครอบงำด้วยพันธุ์ไม้หนองน้ำยืนต้นประกอบด้วยเกลือป่นเป็นป่าหญ้าและ ทัศนียภาพ ที่สวยงามพร้อมด้วย Perennials รสชาติหวานฉ่ำบ่อยครั้ง saltmarshes จะมีการเชื่อมโยงกับ สภาพ อากาศ สภาพ อากาศโดยทั่วไปแต่เกิดขึ้นตลอดทั่วทั้งโลกจากเขตพื้นที่ตำบล - รับสัญญาณเสียงในเขตร้อนได้ บนชายฝั่งเขตร้อนแอ่งน้ำเกลือจะมีการเชื่อมโยงป่าโกงกางมักไม่มากนักครอบคลุมพื้นที่บริเวณน้ำขึ้นน้ำลงด้านบนและด้านล่างตามลำดับ การเขียนสายพันธุ์มีการกำหนดขอบเขตที่กว้างใหญ่โดยน้ำเกลือ ตัวอย่างเช่นในน้ำเกลืออ่อนหรือน้ำกร่อยพบได้ในระดับบนที่ของพันธุ์ไม้หนองน้ำบริเวณปากแม่น้ำซึ่งก่อให้เป็นเตียงนอนขนาดคิงส์ไซด์รีด โรงงานเหล่านี้อาละวาดกวาดมาจากแอ่งน้ำยังช่วยให้เว็บไซต์รองอาหารในบริเวณปากแม่น้ำซึ่งก่อและผืนน้ำชายฝั่งใกล้กับsaltmarshes จำนวนมากได้รับแรงหนุนจากสถานะการอนุรักษ์พิเศษ ภายใต้ ramsar Convention ในพื้นที่ชุ่มน้ำของสายพันธุ์อพยพย้ายถิ่นมาโดยเฉพาะเนื่องจากมีความสำคัญเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกความสำคัญระหว่างประเทศ.

ผลกระทบของน้ำมันรั่วไหลบน saltmarshes จะขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีซึ่งเมื่อเทียบกับช่วงที่มีการขยายตัวโรงงาน เขตพื้นที่แอ่งน้ำเย็นหรือผ่อนหนักผ่อนเบาได้เคลื่อนไหวในระหว่างช่วงเดือนของฤดูหนาวในขณะที่อยู่ในแบบเมดิเตอร์เรเนียนที่การขยายตัวได้ช้าในระหว่างช่วงฤดูร้อนมี อุณหภูมิ สูง เหตุการณ์เดียวที่ยังไม่มีแนวโน้มจะเป็นสาเหตุให้เกิดมากกว่าผลชั่วคราวแต่ความเสียหายในระยะยาวอาจจะมากในช่วงหลายปีสามารถเกิดขึ้นโดยย้ำเรื้อรังต้องหยอดน้ำมันหรือโดยกิจกรรมทำความสะอาด - ขึ้นอย่างรุนแรงเช่นเหยาะย่างการใช้อุปกรณ์อย่างหนักหรือการปนเปื้อนสารการทำความสะอาดของ saltmarsh ได้ยากโดยไม่เป็นอันตรายและไม่เสี่ยงต่อความเสียหายเพิ่มเติมและดังนั้นจึงขอแนะนำให้แอ่งน้ำในการทำความสะอาดอย่างเป็นธรรมชาติที่พบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากการเผาหรือการตัดพันธุ์ไม้ได้ตายไปด้านหลัง โดยทั่วไปเป็นระยะยาวเป็นหลอดไฟหรือรากของพันธุ์ไม้ไม่ได้ทำร้ายใครอย่างจริงจังโดยต้องหยอดน้ำมันหรือลำเลียงมากเกินไปในระหว่างทำความสะอาด - ขึ้นตามฤดูกาลใหม่อาจเป็นที่คาดหวังว่าจะทำตาม.

ป่าโกงกางป่าโกงกางได้ต้นไม้และพุ่มไม้เกลืออย่างต่อเนื่องเมื่อเกิดข้อบกพร่องขึ้นที่ส่วนต่างกำไรของที่กำบังแบบเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนผืนน้ำ ป่าโกงกางตั้งอยู่อย่างโดดเด่นจัดให้บริการอยู่ที่มีค่าสำหรับหอยนางรมปูและ ELEPHANT CONSERVATION AND PROTECTED AREA MANAGMENT อื่นๆรวมถึงในส่วนพื้นที่สาธารณะห้องเลี้ยงเด็กที่สำคัญสำหรับปลาและกุ้ง ในการเพิ่มดังนั้นจึงช่วยลดการกัดกร่อนของแนวชายฝั่งและลดการสะสมของตะกอน ภาคพื้นดิน ใน bads seagrass อยู่ใกล้กับแนวปะการังและ.
ที่ตั้งของตนหมายถึงว่าป่าชายเลนมีความเสี่ยงต่อการล้นน้ำมัน ได้รับการพิจารณาให้เป็นป่าโกงกางเป็นอย่างมากที่สำคัญการปนเปื้อนของน้ำมันขึ้นอยู่กับในขอบเขตที่กว้างใหญ่บนผิวหน้าที่ป่าโกงกางที่มีการเติบโตขึ้นด้วยโดยทั่วไปจะขยายตัวในป่าโกงกางตะกอนโคลนเต็นแอโรบิคและอาศัยหนาแน่นในออกซิเจนให้มาตามรูขนาดเล็ก( lenticels )อยู่ในรากทางอากาศ(รูปที่ 9 ) น้ำท่วมหนักน้ำมันของระบบรากที่อาจบล็อกพาวเวอร์ซัพพลายออกซิเจนนี้และอาจจะทำให้ป่าโกงกางที่จะตาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามในตะกอนมีแก๊สน้อยกว่าเปิดให้บริการซึ่งจะช่วยให้อัตราแลกเปลี่ยนทะเลแบบไม่เสียค่าบริการเป็นอย่างมากระบบรากที่ดึงออกซิเจนจากน้ำทะเลและดังนั้นจึงมีความอดทนน้อยกว่าที่จะมาปะทะกันก็ตามโดยใช้น้ำมัน ในกลไกการที่สองส่วนประกอบที่เป็นพิษของน้ำมันโดยเฉพาะในสินค้าชั้นดีไฟรบกวนไม่มากนักพันธุ์ไม้ที่ระบบการรักษาความสมดุลเกลือซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสามารถของเขาในการทนน้ำเกลือจากประสบการณ์ได้ระบุว่าการสูญเสียของป่าชายเลนเนื่องจากในการมาปะทะกันก็ตามน้ำมันอย่างหนักจะปรากฏขึ้นในการได้มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นน้อยลงกว่าการตายเนื่องจากน้ำท่วมกับ ผลิตภัณฑ์ น้ำหนักเบารวมถึงตัวแทนการทำความสะอาดที่สามารถส่งผลให้ River Shootout Loos แปลเป็น ภาษาต่างๆ รวมของฝาครอบทรี

สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ภายใน CAM ระบบนิเวศป่าชายเลนที่ได้รับผลกระทบทั้งโดยส่งผลกระทบโดยตรงของน้ำมันและยังมีการสูญเสียอีกต่อไประยะสั้นที่มีอยู่การกู้คืนข้อมูลตามธรรมชาติของระบบนิเวศป่าชายเลนบริเวณคอมเพล็กซ์ที่สามารถใช้เวลานานและใช้มาตรการทำให้หายป่วยอาจมี ศักยภาพ ที่แท้จริงในการเร่งความเร็วตามขั้นตอนการกู้คืนให้ในถิ่น.ความเสียหายระยะสั้นระยะยาว

ซึ่งจะช่วยการทำงานทำความสะอาดได้อย่างมี ประสิทธิภาพ โดยปกติแล้วที่รวมถึงการทำให้การปนเปื้อนของน้ำมันเป็นจำนวนมากการลดระยะเวลาและขอบเขตทาง ภูมิศาสตร์ ที่มีความเสียหายเกิดมลพิษและช่วยให้การกู้คืนจากธรรมชาติในการเริ่มต้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามวิธีการทำความสะอาดชนิดรุนแรงสามารถทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติมและกระบวนการทำความสะอาดตามธรรมชาติอาจจะดีกว่า เมื่อเวลาผ่านไปหลายปัจจัยลดความเป็นพิษของน้ำมันที่ใช้การปนเปื้อนที่สามารถรองรับการขยายตัวใหม่(รูปที่ 10 ) ตัวอย่างเช่นน้ำมันสามารถถูกชะล้างโดยอยู่ห่างออกไปในกระแสน้ำและฝนตกและเกลียดชังเป็นน้ำมันที่ผันผวนเพียงเศษเสี้ยววินาทีที่ระเหยออกจากน้ำมันส่วนที่เหลือเป็นพิษต่ำ.

เป็นสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่มีความจุสูงเช่นสำหรับการกู้คืนข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติของน้ำมันรั่วไหลที่โดยปกติจะแปลเป็น ภาษาต่างๆ และชั่วคราวและมีตัวอย่างในเอกสารเพียงไม่กี่แห่งความเสียหายระยะยาว แต่ถึงอย่างไรก็ตามในบางกรณีอาจเกิดความเสียหายบางอย่างต่อเนื่องและความบกพร่องของระบบนิเวศที่ใช้งานได้ยาวนานกว่าอาจเป็นที่คาดหวังว่าโดยปกติแล้วในสถานการณ์ที่มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ความเสียหายในระยะยาวเฉียบพลันจะมีการเชื่อมโยงกับความเพียรพยายามของน้ำมันโดยเฉพาะน้ำมันที่ได้กลายเป็นติดอยู่ ภายใน ตะกอนและจะได้รับการป้องกันจากกระบวนการขูดขีดตามปกติ ตัวอย่างรวมถึงถิ่นที่กำบังเช่นแอ่งน้ำเต็มไปด้วยร่มเงาจากใบไม้โดยกรวดและอยู่ใกล้กับริมฝั่งน้ำโดยเฉพาะเมื่อน้ำมันรั่วไหลที่เข้ากันอย่างแนบแน่นกับเงื่อนไขพายุคลื่นพายุ inundating หนองน้ำที่มี สภาพ ความผันผวนที่เกี่ยวข้องมีแนวโน้มที่จะนำตะกอนชั้นดีเข้ากับระบบกันสะเทือนและเข้าสู่การติดต่อกับน้ำมันกระจายอยู่ตามธรรมชาติ เมื่อพายุ abates น้ำมันที่นำมารวมไว้ ภายใน ตะกอนที่ลอยไปที่ชั้นหนองน้ำ สภาพแวดล้อม ที่เหมือนกันทำให้น้ำมันจะถูกนำมารวมในตะกอนชั้นดีและปักหลักในผืนน้ำชายฝั่งใกล้กับ ในบางสถานการณ์ทั้งสองเงื่อนไขเต็นแอโรบิคเคลื่อนตัวช้าการเสื่อม สภาพ ของน้ำมัน ที่เต็มไปด้วยร่มเงาจากใบไม้โดยกรวดขูดขีดที่ในการผสมผสานของกรวดและน้ำมันอาจส่งผลให้การจัดตั้งการจัดตั้งที่บาทวิถียางมะตอยซึ่งอาจยังคงอยู่ในบางครั้ง ผลิตภัณฑ์ น้ำมันที่มีมากกว่ามีความหนาแน่นมากกว่าทะเลเช่นสารตกค้างหรือเพลิงไหม้จากน้ำมันอย่างหนักเป็นอย่างมากช่วงฤดูใบไม้ร่วงในพื้นดินใต้ทะเลสถานที่ซึ่งพวกเขาสามารถจะยังคงไม่ถูกรบกวนในช่วงไม่มีการจัดระดับและอาจส่งผลให้ในมาปะทะกันก็ตามในพื้นที่ของสิ่งมีชีวิต benthic