Many gardeners prune off the sucker

Many gardeners prune off the suckers as the plant grows — these are the vines that sprout from the crotch where a branch meets the main stem. Pruning the suckers is particularly important for indeterminate tomatoes, because it prevents them from growing unreasonably large, and directs more energy to the fruit.

Take care to avoid getting the leaves wet when you water the plant, as this can encourage fungal growth on the leaves.

When the plant flowers, some people find it is helpful to spray it with a dilute solution of epsom salts (1 tablespoon per gallon/4L of water), to provide a boost of magnesium, which helps the plant set fruit. The advisability of using any salt-based fertilizer is debated however.

If the plant’s leaves turn yellow, it may be that additional feeding is needed. You can side dress the plant with compost, or you can spray it with a dilute solution of fish emulsion or seaweed (mixed according to the package directions). If fish or seaweed is used, it should be sprayed on the leaves of the plant. Don’t touch the leaves after spraying, to avoid spreading any fungus to the plant. The plants should be fed no more than twice a month.

It is also helpful to spray the plant with diluted milk at least once during the growing season. Milk has natural anti-fungal and anti-mildew properties. Mix about 1 tablespoon of milk with 1 cup of water (you want about a 1:10 ratio of milk to water). Put the mix in a spray bottle and spray the leaves of the plant, making sure to get the undersides. This may be combined with feeding, and as with feeding, avoid touching the plant when the leaves are wet. This treatment can be repeated up to twice a month if fungus or mildew is a problem. Spoiled milk and powdered milk may be used.

If desired, in late summer you can also prune off branches that do not have flowers or fruit on them (do not do this in early summer, because flowers can emerge at any time). This puts the plant’s energies into the remaining flowers and fruit as the season comes to an end. If your plant still has unripe fruit on it 30-45 days before your first frost date, prune off all remaining flowers, and cut the plant off at about 5 feet from the ground. This will force the plant’s energies into the remaining fruit and give them a better chance of ripening on the vine before the frost.

The fine hairs along the stem of the tomato plant will grow into roots if they touch moist dirt. If you accidentally break a branch off, or even the whole stem, stick it back in the dirt and keep it moist. You may be able to save it! This is also how people can clone their plants to make more from a single planting.

Try to plant in a location that enjoys full sun and remember to water moderately. As a rough idea of the types of climates Tomato does best in, check to see if your local area is within USDA Hardiness Zones 3 and 14. Ensure your soil is loamy and has a ph of between 5.5 and 7.5 as Tomato is a weakly acidic soil - weakly alkaline soil loving plant. Keep in mind when planting that Tomato is thought of as tender, so remember to wait until your soil is warm and the night time temperature is well above freezing before moving outside.

See our list of companion Plants for Tomato to see which plants you should plant in close proximity to encourage growth.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชาวสวนจำนวนมากถอนออกหน่อการเติบโตของพืชซึ่งมีเถาวัลย์ที่สมในการงอกจากเป้าที่สาขาตรงลำ ตัดแต่งกิ่งหน่อที่มีความสำคัญสำหรับมะเขือเทศให้ เพราะจะป้องกันไม่ให้พวกเขาเติบใหญ่ท่อง และนำผลไม้พลังงานเพิ่มเติมดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงการใบเปียกเมื่อน้ำโรงงาน เป็นซึ่งจะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตของใบเมื่อดอกไม้พืช บางคนพบว่า การพ่น ด้วย dilute ดีเกลือ (1 ช้อนโต๊ะต่อ แกลลอน/4 ลิตรน้ำ), จะให้เพิ่มแมกนีเซียม ซึ่งช่วยให้พืชตั้งผลไม้ Advisability ของใช้ปุ๋ยการใช้เกลือเป็นการถกเถียงกันอย่างไรก็ตามถ้าใบของพืชเปิดเหลือง อาจเป็นที่ให้อาหารเพิ่มเติมจำเป็นต้อง คุณสามารถด้านข้างแต่งพืชกับปุ๋ยหมัก หรือคุณสามารถสเปรย์ ด้วย dilute ปลาอิมัลชันหรือสาหร่าย (ผสมตามคำแนะนำแพคเกจ) ถ้าใช้ปลาหรือสาหร่ายทะเล ควรพ่นที่ใบของพืช อย่าแตะใบหลังจากฉีดพ่น การหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายเชื้อราใด ๆ โรงงานจะต้อง พืชควรเลี้ยงไม่เกินสองเดือนมีความเป็นประโยชน์สเปรย์พืชกับนมเจือจางน้อยหนึ่งครั้งในระหว่างฤดูปลูก นมมีคุณสมบัติต้านเชื้อรา และโรคราน้ำค้างป้องกันธรรมชาติ ผสมน้ำประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำ 1 ถ้วย (ต้องเกี่ยวกับ 1:10 อัตราส่วนของนมน้ำ) ใส่ผสมในขวดสเปรย์ แล้วฉีดพ่นใบของพืช ทำให้แน่ใจว่าจะได้รับการรอง นี้อาจจะรวมกับอาหาร และ มีอาหาร หลีกเลี่ยงสัมผัสพืชเมื่อใบจะเปียก การรักษาสามารถทำซ้ำได้ถึงสองเดือนถ้าเชื้อราหรือโรคราน้ำค้างเป็นปัญหา นมบูดและนมผงอาจจะใช้ถ้าต้องการ ในฤดูร้อน คุณสามารถยังถอนปิดสาขาที่ไม่มีผลไม้หรือดอกไม้ที่พวกเขา (ไม่ทำนี้ในช่วงต้นฤดูร้อน เนื่องจากดอกไม้สามารถโผล่ออกมาตลอดเวลา) นี้ทำให้พลังงานของพืชเป็นดอกไม้และผลไม้เหลือเป็นฤดูกาลมาถึงจุดสิ้นสุด ถ้าโรงงานของคุณยังคงมีผลไม้สุกใน 30-45 วันก่อนวันแรกของคุณน้ำค้างแข็ง ถอนออกดอกไม้ที่เหลือทั้งหมด และตัดพืชประมาณ 5 ฟุตจากพื้นดิน นี้จะบังคับของพืชพลังงานเป็นผลไม้ที่เหลือ และให้โอกาสดีที่สุกในเถาก่อนแข็งตัวขนตามลำต้นของพืชมะเขือเทศดีจะเติบโตเป็นรากถ้าพวกเขาสัมผัสดินชื้น ถ้าคุณตั้งใจแบ่งสาขาออก หรือแม้แต่ลำต้นทั้งหมด ติดในสิ่งสกปรก และให้ชุ่มชื้น คุณอาจสามารถบันทึก นี้ยังเป็นวิธีที่คนสามารถโคลนของพืชให้มากขึ้นปลูกเดียวลองปลูกในสถานที่แห่งนี้อาทิตย์เต็ม และอย่าลืมน้ำปานกลาง เป็นความคิดหยาบชนิดของมะเขือเทศส่วนในสภาพอากาศ ตรวจสอบเพื่อดูว่า พื้นที่ของคุณอยู่ใน USDA ไฟฟ้าโซน 3 และ 14 ทำให้ดินของคุณ loamy และมีกรด ph ระหว่าง 5.5-7.5 เป็นมะเขือเทศเป็นดินกรดอ่อน - ดินเค็มอ่อนรักพืช โปรดจำไว้เมื่อปลูกมะเขือเทศที่เป็นความคิดของวิธีการชำระเงินเป็น ดังนั้น จำต้องรอจนกระทั่งดินของคุณอบอุ่น และมีอุณหภูมิเวลากลางคืนดีข้างแข็งก่อนที่จะย้ายนอกดูรายชื่อของเพื่อนพืชมะเขือเทศดูซึ่งพืชคุณควรปลูกในการส่งเสริมให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชาวสวนหลายคนตัดออกหน่อเป็นพืชเจริญเติบโต - เหล่านี้เป็นองุ่นที่งอกออกจากเป้าที่สาขาตรงตามลำต้นหลัก การตัดแต่งกิ่งหน่อเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับมะเขือเทศไม่แน่นอนเพราะมันป้องกันพวกเขาจากการเจริญเติบโตที่ใหญ่มากเกินไปและชี้นำพลังงานมากขึ้นเพื่อผลไม้. ดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับใบเปียกเมื่อคุณพืชน้ำเช่นนี้จะสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อราบนใบ . เมื่อดอกไม้พืชบางคนพบว่ามันเป็นประโยชน์ในการสเปรย์ด้วยสารละลายเจือจางของเกลือ Epsom (1 ช้อนโต๊ะต่อแกลลอน / 4L น้ำ) เพื่อให้การเพิ่มของแมกนีเซียมซึ่งจะช่วยให้ผลไม้ที่โรงงานกำหนด สมควรของการใช้ปุ๋ยตามเกลือใด ๆ ที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างไร. ถ้าใบพืชเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก็อาจเป็นไปได้ว่าการให้อาหารเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น คุณสามารถด้านการแต่งกายด้วยพืชปุ๋ยหมักหรือคุณสามารถฉีดพ่นด้วยสารละลายเจือจางของอิมัลชันปลาหรือสาหร่ายทะเล (ผสมตามทิศทางแพคเกจ) ถ้าปลาหรือสาหร่ายทะเลที่ใช้ก็ควรฉีดพ่นบนใบของพืช อย่าสัมผัสใบหลังการฉีดพ่นเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่กระจายของเชื้อราใด ๆ ไปยังโรงงาน พืชที่ควรจะเลี้ยงไม่เกินเดือนละสองครั้ง. นอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ในการฉีดพ่นพืชด้วยนมเจือจางอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงฤดูปลูก นมธรรมชาติมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและป้องกันโรคราน้ำค้าง ผสมประมาณ 1 ช้อนโต๊ะนม 1 ถ้วยน้ำ (คุณต้องการเกี่ยวกับอัตราส่วน 1:10 นมลงไปในน้ำ) ใส่ผสมในขวดสเปรย์และสเปรย์ใบของพืชทำให้แน่ใจว่าได้รับล่าง นี้อาจจะรวมกับการให้อาหารและเช่นเดียวกับการให้อาหารหลีกเลี่ยงการสัมผัสพืชเมื่อใบเปียก การรักษานี้สามารถทำซ้ำได้ถึงสองครั้งต่อเดือนถ้าเชื้อราหรือโรคราน้ำค้างปัญหา นมบูดและนมผงอาจจะใช้. หากต้องการในช่วงปลายฤดูร้อนคุณยังสามารถตัดออกสาขาที่ไม่ได้มีดอกไม้หรือผลไม้ที่พวกเขา (ไม่ทำเช่นนี้ในช่วงต้นฤดูร้อนเพราะดอกไม้สามารถโผล่ออกมาในเวลาใดก็ได้) ซึ่งจะทำให้พลังงานของพืชลงในดอกไม้และผลไม้ที่เหลือเป็นฤดูกาลมาถึงจุดสิ้นสุด ถ้าโรงงานของคุณยังคงมีผลไม้สุกที่มัน 30-45 วันก่อนวันน้ำค้างแข็งแรกของคุณ, ตัดออกดอกไม้ที่เหลือทั้งหมดและตัดโรงงานปิดที่ประมาณ 5 ฟุตจากพื้นดิน นี้จะบังคับพลังงานพืชลงไปในผลไม้ที่เหลือและให้พวกเขามีโอกาสที่ดีของการทำให้สุกบนเถาก่อนน้ำค้างแข็ง. ขนปรับตามลำต้นของต้นมะเขือเทศที่จะเติบโตเป็นรากถ้าพวกเขาสัมผัสสิ่งสกปรกชื้น ถ้าคุณตั้งใจทำลายสาขาปิดหรือแม้แต่ต้นกำเนิดทั้งติดมันกลับมาในสิ่งสกปรกและให้มันชื้น คุณอาจจะสามารถที่จะบันทึกไว้! และนี่ก็เป็นวิธีการที่คนสามารถโคลนโรงงานของพวกเขาให้มากขึ้นจากการปลูกเดียว. พยายามที่จะปลูกในสถานที่ที่สนุกกับดวงอาทิตย์เต็มและจำไปในน้ำปานกลาง ในฐานะที่เป็นความคิดที่หยาบประเภทของภูมิอากาศมะเขือเทศไม่ดีที่สุดในการตรวจสอบเพื่อดูว่าพื้นที่ท้องถิ่นของคุณอยู่ใน USDA เข้มแข็งโซนที่ 3 และ 14. ตรวจสอบให้แน่ใจดินของคุณเป็นดินร่วนปและมีค่า pH ระหว่าง 5.5 และ 7.5 เป็นมะเขือเทศเป็นที่เป็นกรดอย่างอ่อน ดิน - ดินด่างอ่อนพืชรัก เก็บไว้ในใจเมื่อปลูกว่ามะเขือเทศคิดว่าเป็นอ่อนโยนดังนั้นอย่าลืมที่จะรอจนกว่าดินของคุณมีความอบอุ่นและอุณหภูมิในเวลากลางคืนเป็นดีกว่าแช่แข็งก่อนที่จะย้ายออกไปข้างนอก. ดูรายชื่อพืชสหายของเราสำหรับมะเขือเทศเพื่อดูว่าพืชที่คุณควรปลูก ในบริเวณใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนการเจริญเติบโต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชาวสวนหลายคนพรุนออกหน่อเป็นพืชที่เติบโต - เหล่านี้เป็นเถาที่แตกหน่อจากเป้าที่สาขาตรงลำต้นหลัก การตัดหน่อเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับมะเขือเทศ ไม่แน่นอน เพราะจะป้องกันไม่ให้พวกเขาเติบโตขนาดใหญ่เกินไป , และนำพลังงานมากขึ้นกับผลไม้การดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับใบเปียกเมื่อคุณน้ำพืช นี้สามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของเชื้อราบนใบเมื่อปลูกดอกไม้ บางคนพบว่าเป็นประโยชน์ที่จะพ่นมันด้วยสารละลายเจือจางของดีเกลือ 1 ช้อนโต๊ะต่อแกลลอน 4L / น้ำ ) ให้เพิ่มแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยให้ตั้งค่า พืช ผลไม้ การใช้ปุ๋ยตามการให้คำปรึกษาของเกลือใด ๆคือ ถกเถียงกัน แต่อย่างไรก็ตามถ้าใบของพืชเปลี่ยนเป็นสีเหลือง อาจจะให้อาหารเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็น คุณสามารถด้านชุดปลูกด้วยปุ๋ยหมัก หรือสามารถฉีดพ่นด้วยสารละลายเจือจางของอิมัลชันปลาหรือสาหร่ายผสม ( ตามแพคเกจเส้นทาง ) ถ้าปลาหรือสาหร่ายที่ใช้ ควรฉีดพ่นบนใบของพืช อย่าแตะใบหลังการฉีดพ่นเชื้อราแพร่กระจายใด ๆเพื่อหลีกเลี่ยงการปลูกพืช พืชควรจะได้รับไม่เกินเดือนละ 2 ครั้งนอกจากนี้ยังเป็นประโยชน์ที่จะพ่นพืชเจือจางนมอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงฤดูปลูก . นมมีธรรมชาติ anti fungal และคุณสมบัติต้านเชื้อรา . ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมนมกับน้ำ 1 ถ้วย ( คุณต้องการเกี่ยวกับสัดส่วนของนมกับน้ำ 1 : 10 ) ใส่ผสมในขวดสเปรย์และสเปรย์ใบของพืช ทำให้แน่ใจว่าได้รับ undersides . นี้อาจจะรวมกับอาหาร กับอาหาร หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับพืช เมื่อใบไม้เปียก การรักษานี้สามารถทำซ้ำได้ถึงเดือนละ 2 ครั้ง ถ้าเชื้อราหรือโรคราน้ำค้าง คือปัญหา เอาแต่ใจ นม และนมผง อาจใช้ถ้าต้องการในช่วงปลายฤดูร้อน นอกจากนี้คุณยังสามารถตัดปิดสาขาที่ไม่มีดอกไม้หรือผลไม้นั้น ( ไม่ได้ทำในช่วงต้นฤดูร้อน เพราะดอกไม้สามารถออกมาได้ตลอดเวลา ) นี้จะทำให้พลังงานของโรงงานลงเหลือดอกไม้และผลไม้ตามฤดูมาสิ้นสุด หากโรงงานของคุณยังมีผลไม้สุกไว้ 30-45 วัน ก่อนน้ำค้างแข็งครั้งแรกของคุณ ลูกพรุนแล้วดอกไม้ที่เหลือทั้งหมด และตัดพืชที่ประมาณ 5 ฟุตจากพื้นดิน นี้จะบังคับพลังงานของพืชในผลไม้ที่เหลืออยู่และให้พวกเขามีโอกาสที่ดีของการสุกในเถาก่อนน้ำค้างแข็งมีขนละเอียดตามก้านของต้นมะเขือเทศจะเติบโตในรากถ้าพวกเขาสัมผัสชื้นสกปรก ถ้าคุณตั้งใจหักกิ่ง หรือลำต้น ทั้งติดกลับในดินให้ชุ่มชื้น คุณอาจจะสามารถที่จะบันทึก นี้ยังเป็นวิธีที่ผู้คนสามารถโคลนพืชของพวกเขาให้มากขึ้น จากการปลูกพืชเดี่ยวลองปลูกในสถานที่ที่ชอบแสงแดดเต็มรูปแบบและจำไว้ น้ำปานกลาง อย่างคร่าวๆของชนิดของสภาพอากาศที่มะเขือเทศจะดีที่สุดในการตรวจสอบเพื่อดูว่าพื้นที่ของคุณภายใน USDA ความเข้มแข็งโซน 3 และ 14 ให้แน่ใจว่าดินเป็นดินร่วน และมี pH ระหว่าง 5.5 และ 6.5 เป็นมะเขือเทศ เป็นดินที่เป็นกรดอย่างอ่อน ดินเป็นด่างอย่างอ่อน รักพืช เก็บไว้ในใจว่าเมื่อปลูกมะเขือเทศ คือ คิดเป็น อ่อนโยน ดังนั้นอย่าลืมที่จะรอจนกว่าดินจะอุ่น และในเวลากลางคืนอุณหภูมิสูงกว่าจุดเยือกแข็งก่อนที่จะย้ายไปอยู่ข้างนอกดูรายชื่อเพื่อนของพืชมะเขือเทศเพื่อดูว่าพืชที่คุณควรปลูกในบริเวณใกล้เคียงเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต