Straw needs to be gathered from the

Straw needs to be gathered from the field and compressed into bales to make it compact and easy to
transport. With the introduction of combine harvesters, the collection of rice straw has become harder
and more costly. This created negative impacts on other businesses that use rice straw. Mechanization
of rice straw collection was introduced in Vietnam in 2013 and it has rapidly developed since. Most of
the rice straw produced in the dry season in the Mekong River Delta (MD) of Vietnam is collected for
mushroom and for livestock fodder production or for use as mulching materials. In order to quantify the
performance of the mechanical operation of rice straw collection, this study conducted an analysis of
energy efficiency, greenhouse gas emission (GHGE), and cost of rice straw collection in the MD for five
collection machines that operated on the same field, the same rice variety, and the same harvest time
under a demonstration in the MD. With rice straw yield of 4.72 t per ha, the collection machines operated
at a capacity of 0.87–2.47 t per hour. This mechanized operation can reduce labor requirement by 90%.
Specific weight of baled straw was from 73 to 104 kg per cubic meter, which is heavier by 50–100% than
that of loose-form straw, at a moisture content of 12.4 (±1.21)% in wet basis. Total energy consumption,
ranging from 351 to 588 MJ per ton of straw collected, accounted for 10–17% of the total energy input
using this collected straw for biogas production. Energy consumption from fossil fuels results in GHGE
of 60–165 kg CO2 equivalent per ton of collected straw. The cost of straw collection, which ranged from
US$12 to US$18 per ton of straw in the MD, accounted for 10–20% of the total investment cost of biogas or
mushroom production. This study illustrated the feasibility of the mechanization of rice straw collection
for further processing. Despite the GHGE of this may cause through the consumption of fossil fuels,
mechanized rice straw collection creates more benefits such as avoiding in-field burning, producing
feedstock for further sustainable processing, and adding value to rice production.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟางจะต้องมีการรวบรวมมาจากสนามและบีบอัดเป็นก้อนที่จะทำให้มันมีขนาดกะทัดรัดและง่ายต่อการ
ขนส่ง ด้วยการแนะนำของเครื่องเกี่ยวนวดคอลเลกชันของฟางข้าวได้กลายเป็นยาก
และมีราคาแพงมากขึ้น เรื่องนี้สร้างผลกระทบในทางลบต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่ใช้ฟางข้าว กล
ของการเก็บฟางข้าวเป็นที่รู้จักในเวียดนามในปี 2013 และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตั้งแต่ ที่สุดของ
ฟางข้าวที่ผลิตในฤดูแล้งในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (MD) ของเวียดนามจะถูกเก็บรวบรวมสำหรับ
เห็ดและสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ปศุสัตว์หรือสำหรับใช้เป็นวัสดุคลุมดิน เพื่อให้ปริมาณ
ประสิทธิภาพการทำงานของกลไกการทำงานของคอลเลกชันฟางข้าวการศึกษาครั้งนี้ดำเนินการวิเคราะห์ของ
ประสิทธิภาพการใช้พลังงานการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHGE) และค่าใช้จ่ายของการเก็บฟางข้าวในแมรี่แลนด์เป็นเวลาห้า
เครื่องคอลเลกชันที่ดำเนินการในเขตเดียวกัน ที่ข้าวพันธุ์เดียวกันและเวลาเก็บเกี่ยวเดียวกัน
ภายใต้การสาธิตในแมรี่แลนด์ ด้วยอัตราผลตอบแทนของฟางข้าว 4.72 ตันต่อเฮกเตอร์, เครื่องคอลเลกชันที่ดำเนินการ
ที่ความจุของ 0.87-2.47 T ต่อชั่วโมง การดำเนินการยานยนต์สามารถลดความต้องการแรงงาน 90%.
น้ำหนักเฉพาะที่ทำจากฟางมัดเป็น 73-104 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งเป็นหนักโดย 50-100% มากกว่า
ที่หลวมแบบฟอร์มฟางที่ความชื้น 12.4 (± 1.21)% ในพื้นฐานเปียก การใช้พลังงานรวม
ตั้งแต่ 351-588 MJ ต่อตันจากฟางที่เก็บรวบรวมคิดเป็น 10-17% ของพลังงานทั้งหมด
นี้โดยใช้ฟางที่เก็บไว้สำหรับการผลิตก๊าซชีวภาพ การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลผลลัพธ์ใน GHGE
ของ 60-165 เทียบเท่า CO2 กก. ต่อตันจากฟางที่เก็บรวบรวม ค่าใช้จ่ายของการเก็บฟางซึ่งตั้งแต่
US $ 12 ถึง $ 18 ต่อตันจากฟางสหรัฐใน MD, คิดเป็น 10-20% ของค่าใช้จ่ายในการลงทุนรวมของก๊าซชีวภาพหรือ
การผลิตเห็ด การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการใช้เครื่องจักรกลของการเก็บฟางข้าว
สำหรับการประมวลผลต่อไป แม้จะมี GHGE นี้อาจก่อให้เกิดผ่านการบริโภคเชื้อเพลิงฟอสซิล,
คอลเลกชันยานยนต์ฟางข้าวสร้างประโยชน์มากขึ้นเช่นหลีกเลี่ยงการเผาไหม้ในสนาม, การผลิต
วัตถุดิบสำหรับการประมวลผลอย่างยั่งยืนต่อไปและเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟางต้องรวบรวมจากสนามและบีบอัดเป็นก้อน ทำให้มันมีขนาดกะทัดรัดและง่ายการขนส่ง ด้วยการรวม harvesters คอลเลกชันของฟางข้าวได้กลายเป็นยากและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม นี้ได้สร้างผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่ใช้ฟางข้าว อย่างเครื่องจักรเก็บฟางข้าวเป็นที่รู้จักในเวียดนามในปี 2013 และมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก มากที่สุดของฟางข้าวผลิตในฤดูแล้ง ในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ( MD ) ของเวียดนาม คือ การรวบรวมข้อมูลเห็ดและผลิตอาหารสัตว์ ปศุสัตว์ หรือเพื่อใช้เป็นวัสดุคลุมดิน . เพื่อวัดประสิทธิภาพของการดำเนินงานเชิงกลของคอลเลกชันของฟางข้าว การศึกษานี้ทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน , การปล่อยก๊าซเรือนกระจก ( ก๊าซเรือนกระจก ) , และค่าใช้จ่ายของคอลเลกชันของฟางข้าวใน MD สำหรับห้าคอลเลกชันที่เครื่องหยอดบนสนามเดียวกัน ส่วนข้าวพันธุ์เดียวกันและเหมือนกันเวลาเก็บเกี่ยวในการสาธิตใน md ฟางข้าวต่อผลผลิตของ 4.72 T ฮา , คอลเลกชันเครื่องหยอดที่ความจุ 0.87 – 1 ตันต่อชั่วโมง การดำเนินงานกลไกนี้สามารถลดความต้องการแรงงานโดย 90%น้ำหนักที่เฉพาะเจาะจงของการมัดฟางจาก 73 104 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็น 50 – 100 % กว่าหนักที่ฟางรูปแบบหลวมที่ความชื้นร้อยละ 12.4 ( ± 1.21 ) ในฐานเปียก การใช้พลังงานรวมตั้งแต่ 351 ถึง 233 เมกะจูลต่อตันของหลอดเก็บคิดเป็นร้อยละ 10 และ 17 % ของค่าพลังงานทั้งหมดใช้เก็บฟางสำหรับการผลิตก๊าซชีวภาพ การใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลในผลลัพธ์ของก๊าซเรือนกระจก60 – 165 กิโลกรัมต่อตัน CO2 เทียบเท่าเก็บฟาง ต้นทุนของฟาง ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมUS $ 12 ถึง US $ 18 ต่อตันของฟางในแมรี่แลนด์ ร้อยละ 10 - 20 % ของการลงทุนรวมค่าใช้จ่ายของก๊าซ หรือการผลิตเห็ด การศึกษานี้แสดงให้เห็นความเป็นไปได้ของกลไกของคอลเลกชันของฟางข้าวสำหรับการประมวลผลต่อไป แม้จะมีก๊าซเรือนกระจกนี้อาจทำให้เกิดผ่านการบริโภคของเชื้อเพลิงฟอสซิล ,คอลเลกชันของฟางข้าวที่มีสร้างประโยชน์มากขึ้นเช่น หลีกเลี่ยงในด้านการเขียน การผลิตวัตถุดิบสำหรับการประมวลผลอย่างยั่งยืนต่อไป และเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตข้าว