NAUSEA AND VOMITING DURING PREGNANC

NAUSEA AND VOMITING DURING PREGNANCY
Does Every Woman Experience Nausea or Vomiting During Pregnancy?
A few lucky women do not have nausea or vomiting during pregnancy. About one in four pregnant
women have only mild nausea. Three in every ten pregnant women have nausea severe enough to affect
their daily lives. One half of all pregnant women experience both nausea and vomiting during the first
months of pregnancy. Nausea and vomiting during pregnancy tends to be the worst 8 to 10 weeks after
your last menstrual period. It usually goes away by 12 to 16 weeks after your last period. It is often called
“morning sickness,” but it can occur all day long.
What Causes Nausea and Vomiting During Pregnancy?
We do not know for sure what causes nausea and vomiting during pregnancy. Changes in hormone levels
play a role. If your mother had morning sickness when she was pregnant, you may be more likely to have
nausea and vomiting during pregnancy. A history of motion sickness or stomach problems before you got
pregnant may be another risk factor.
Are Nausea and Vomiting During Pregnancy Dangerous?
Mild to moderate nausea and vomiting may make you feel awful, but it will not hurt you or your baby.
Severe vomiting during pregnancy—that prevents you from keeping any food down—is called
hyperemesis gravidarum. It is rare, but can cause health problems. You should call your health care
provider if any of the following apply to you:
● You are not able to keep any liquids or foods down for 24 hours
● You are vomiting several times a day or after every meal
● You have abdominal pain, difficulty urinating, or you have a fever
How are Nausea and Vomiting Treated?
Nausea or vomiting during pregnancy is treated in three easy steps:
1. Simple diet changes may lessen nausea and help you avoid vomiting. This is all it takes for many
women.
2. If diet changes are not enough, you can try taking ginger or using acupressure bands. Both have been
shown to decrease nausea.
3. Finally, if the nausea and vomiting are making it hard to do your usual activities, medications can be
prescribed. Please check with your health care provider before taking any medicine.
Are Antinausea Medications Dangerous for my Baby?
There are several different types of nausea medicines that work well and are safe for you and your baby.
Because nausea and vomiting can be caused by different “triggers” in your body, you and your health
care provider should work together to find the medicine that is right for you.
Journal of Midwifery & Women’s Health • www.jmwh.org 303
© 2006 by the American College of Nurse-Midwives 1526-9523/06/$32.00 • doi:10.1016/j.jmwh.2006.04.001
Issued by Elsevier Inc.
With women, for a lifetime™
AMERICAN COLLEGE OF NURSE-MIDWIVES
NAUSEA AND VOMITING DURING PREGNANCY
TIPS TO TREAT NAUSEA AND VOMITING DURING PREGNANCY
First Step: Lifestyle and Diet Changes
● Nausea during pregnancy is worse if you are dehydrated (if there is not enough fluid in your body) or
if the levels of sugar in your blood are low from not eating often enough.
● Eat plain crackers or dry toast in the morning before getting out of bed and at any time during the day
when you feel nauseous.
● Instead of three large meals, eat small meals every 2 to 3 hours.
● Avoid foods that have strong odors.
● Sucking on a lemon or lime slice may help.
● Try eating foods that are high in carbohydrates, such as potatoes, noodles, or toast.
● Do not lie down right after eating.
● Try drinking carbonated beverages between meals; wait for 30 minutes after eating to drink liquids.
● Dairy products may make nausea and vomiting worse, but some women say yogurt is helpful.
● Avoid foods that are greasy, fried, spicy, or very hot.
● Some women find that prenatal vitamins make their nausea worse. If so, check with your health care
provider about stopping the vitamins until the nausea goes away. If you stop taking a prenatal
multivitamin, you should take one tablet of folic acid daily (0.4 mg, which is 400 micrograms per day)
during the first trimester. Folic acid tablets will not worsen nausea.
Second Step: Nonmedication Treatment
Ginger
Ginger has been used for treating nausea since ancient times. Ginger root tea, ginger gum, ginger snaps,
ginger syrup added to water, and ginger ale are all safe, and can decrease the severity of your nausea. You
can also buy ginger capsules at a drug store. The dose of ginger that has been tested is 1 gram (250 mg
capsules powdered ginger taken four times per day). Ginger capsules come in several doses. If you want
to use ginger capsules, ask your health care provider how often you should take them.
Acupressure Bands
Seabands are wristbands with a pressure point placed on the inside of your wrist. They are often used for
motion sickness. Some women find them helpful for their nausea, and they are safe.
Third Step: Medication
There are over-the-counter and prescription medicines that can be used if your nausea and vomiting are
very severe. Talk with your health care provider before taking any additional vitamins or medicines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างการตั้งครรภ์
ไม่ผู้หญิงทุกคนมีประสบการณ์คลื่นไส้อาเจียนในระหว่างการตั้งครรภ์
ของผู้หญิงโชคดีไม่กี่ไม่ได้มีอาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ ประมาณหนึ่งในสี่ตั้งครรภ์
ผู้หญิงมีอาการคลื่นไส้อ่อนเท่านั้น สามในทุก ๆ สิบหญิงตั้งครรภ์มีอาการคลื่นไส้รุนแรงพอที่จะส่งผลกระทบต่อ
ชีวิตประจำวันของพวกเขา ครึ่งหนึ่งของหญิงตั้งครรภ์ทุกคนได้สัมผัสกับทั้งอาการคลื่นไส้อาเจียนในช่วงแรก
ของการตั้งครรภ์เดือน อาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะเลวร้ายที่สุด 8-10 สัปดาห์หลังจาก
ประจำเดือนครั้งสุดท้ายของคุณ มันมักจะออกไปจาก 12-16 สัปดาห์หลังจากที่ช่วงสุดท้ายของคุณ มันก็มักจะเรียกว่า
"แพ้ท้อง" แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน.
สิ่งที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างการตั้งครรภ์?
เราไม่ทราบว่าสิ่งที่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน
มีบทบาท หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้องตอนที่เธอท้องคุณอาจจะมีแนวโน้มที่จะมี
อาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ ประวัติศาสตร์ของการเมาหรือปัญหาท้องก่อนที่จะมี
การตั้งครรภ์อาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงอื่น.
Are อาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์อันตราย?
อ่อนถึงปานกลางอาการคลื่นไส้อาเจียนอาจทำให้คุณรู้สึกน่ากลัว แต่มันจะไม่ทำร้ายคุณหรือลูกน้อยของคุณ.
อาเจียนอย่างรุนแรง ในระหว่างตั้งครรภ์ที่ป้องกันคุณจากการเก็บรักษาอาหารใด ๆ ลงเรียกว่า
hyperemesis gravidarum มันเป็นเรื่องยาก แต่สามารถทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ คุณควรจะเรียกดูแลสุขภาพของคุณ
ถ้าผู้ให้บริการดังต่อไปนี้ใช้กับคุณ:
●คุณจะไม่สามารถที่จะทำให้ของเหลวหรืออาหารลง 24 ชั่วโมง
●คุณจะอาเจียนหลายครั้งต่อวันหรือหลังอาหารทุกมื้อ
●คุณมีอาการปวดท้องความยากลำบาก ปัสสาวะหรือคุณมีไข้
คลื่นไส้จะอาเจียนวิธีการและได้รับการรักษา?
คลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ได้รับการปฏิบัติในสามขั้นตอนง่ายๆ:
1 การเปลี่ยนแปลงอาหารที่เรียบง่ายอาจช่วยลดอาการคลื่นไส้และช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการอาเจียน นี่คือทั้งหมดที่จะใช้เวลาหลาย
ผู้หญิง.
2 หากมีการเปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารที่ไม่เพียงพอคุณสามารถลองการขิงหรือใช้วงดนตรีที่กดจุด ทั้งสองได้รับ
การแสดงเพื่อลดอาการคลื่นไส้.
3 สุดท้ายหากอาการคลื่นไส้อาเจียนจะทำให้ยากที่จะทำกิจกรรมตามปกติของคุณยาสามารถ
กำหนด โปรดตรวจสอบกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อนกินยาใด ๆ .
Are Antinausea ยาอันตรายเด็กของฉันได้อย่างไร
มีหลายประเภทที่แตกต่างกันของยาอาการคลื่นไส้ที่ทำงานได้ดีและมีความปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ.
เพราะอาการคลื่นไส้อาเจียนอาจเกิดจากการที่แตกต่างกัน " ทริกเกอร์ "ในร่างกายของคุณคุณและสุขภาพของคุณ
ให้บริการดูแลควรจะทำงานร่วมกันเพื่อหายาที่เหมาะสมสำหรับคุณ.
วารสารการผดุงครรภ์และสุขภาพของผู้หญิง• www.jmwh.org 303
© 2006 โดยวิทยาลัยอเมริกันของพยาบาลผดุงครรภ์ 1526- 9523/06 / $ 32.00 •ดอย: 10.1016 / j.jmwh.2006.04.001
ออกโดยเอลส์อิงค์
กับผู้หญิงสำหรับชีวิต™
อเมริกันวิทยาลัยพยาบาลผดุงครรภ์-
อาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์
เคล็ดลับในการรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์
ขั้นตอนแรก : วิถีชีวิตและอาหารการเปลี่ยนแปลง
คลื่นไส้●ในระหว่างตั้งครรภ์จะเลวร้ายยิ่งถ้าคุณมีการคายน้ำ (ถ้าไม่มีน้ำเพียงพอในร่างกายของคุณ) หรือ
ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดของคุณอยู่ในระดับต่ำจากการไม่รับประทานอาหารมักจะเพียงพอ.
●กินแครกเกอร์ขนมปังธรรมดาหรือแห้ง ในช่วงเช้าก่อนที่จะเดินทางออกจากเตียงและในเวลาใด ๆ ในระหว่างวัน
เมื่อคุณรู้สึกคลื่นไส้.
●แทนที่จะสามมื้อใหญ่กินอาหารมื้อเล็ก ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง.
●หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่แข็งแกร่ง.
●ดูดมะนาวหรือ ฝานมะนาวอาจช่วย.
●พยายามกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงเช่นมันฝรั่งก๋วยเตี๋ยวหรือขนมปัง.
●อย่าล้มตัวลงนอนทันทีหลังจากกิน.
●ลองดื่มเครื่องดื่มอัดลมระหว่างมื้ออาหาร; รอประมาณ 30 นาทีหลังจากการรับประทานอาหารที่จะดื่มของเหลว.
●ผลิตภัณฑ์นมอาจทำให้อาการคลื่นไส้และอาเจียนแย่ลง แต่ผู้หญิงบางคนบอกว่าโยเกิร์ตจะเป็นประโยชน์.
●หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันทอดรสเผ็ดหรือร้อนมาก.
●ผู้หญิงบางคนพบว่าวิตามินก่อนคลอด ทำให้คลื่นไส้ของพวกเขาเลวร้ายยิ่ง ถ้าเป็นเช่นนั้นให้ตรวจสอบกับการดูแลสุขภาพของคุณ
ให้บริการเกี่ยวกับการหยุดวิตามินจนคลื่นไส้ออกไป ถ้าคุณหยุดใช้ก่อนคลอด
วิตามินคุณควรใช้แท็บเล็ตเป็นหนึ่งในกรดโฟลิกในชีวิตประจำวัน (0.4 มก. ซึ่งเป็น 400 ไมโครกรัมต่อวัน)
ในช่วงไตรมาสแรก กรดโฟลิกแท็บเล็ตจะไม่เลวลงอาการคลื่นไส้.
ขั้นตอนที่สอง: การรักษา Nonmedication
ขิง
ขิงถูกนำมาใช้สำหรับการรักษาอาการคลื่นไส้มาตั้งแต่สมัยโบราณ ชารากขิงเหงือกขิง snaps ขิง
น้ำเชื่อมขิงเพิ่มลงไปในน้ำและน้ำขิงมีความปลอดภัยทั้งหมดและสามารถลดความรุนแรงของอาการคลื่นไส้ของคุณ คุณ
ยังสามารถซื้อแคปซูลขิงที่ร้านขายยา ปริมาณของขิงที่ได้รับการทดสอบคือ 1 กรัม (250 มิลลิกรัมต่อ
แคปซูลผงขิงนำมาสี่ครั้งต่อวัน) แคปซูลขิงมาในปริมาณที่หลาย ถ้าคุณต้องการ
ที่จะใช้แคปซูลขิงขอให้ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณบ่อยแค่ไหนที่คุณควรใช้พวกเขา.
Acupressure วง
Seabands มีสายรัดข้อมือที่มีจุดความดันวางอยู่บนด้านในของข้อมือของคุณ พวกเขามักจะใช้สำหรับ
อาการเมา ผู้หญิงบางคนพบพวกเขาที่เป็นประโยชน์สำหรับความเกลียดชังของพวกเขาและพวกเขาจะปลอดภัย.
ขั้นตอนที่สาม: ยา
มีมากกว่าที่เคาน์เตอร์และยาตามใบสั่งแพทย์ที่สามารถนำมาใช้ในกรณีที่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนของคุณมีความ
รุนแรงมาก พูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อนที่จะวิตามินใด ๆ เพิ่มเติมหรือยารักษาโรค

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์
แล้วผู้หญิงทุกคนเกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ ?
ผู้หญิงโชคดีไม่มีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ เกี่ยวกับหนึ่งในท้อง
4 ผู้หญิงมีเพียงเล็กน้อยและอาการคลื่นไส้ สามในสิบทุกหญิงตั้งครรภ์มีอาการคลื่นไส้รุนแรงพอที่จะมีผลต่อ
ชีวิตประจําวัน ครึ่งหนึ่งของหญิงตั้งครรภ์ทั้งหมด ประสบการณ์ทั้งอาการคลื่นไส้และอาเจียนในช่วงแรก
เดือนของการตั้งครรภ์ อาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะเลวร้าย 8 ถึง 10 สัปดาห์หลังจาก
คุณมีประจำเดือนครั้งสุดท้าย มันมักจะหายไปจาก 12 ถึง 16 สัปดาห์หลังจากรอบระยะเวลาล่าสุดของคุณ มันมักจะเรียกว่า
" แพ้ท้อง " แต่มันสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดทั้งวัน
อะไรทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ ?
เราไม่ทราบว่าอะไรเป็นสาเหตุของอาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์การเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมน
เล่นบทบาท ถ้าคุณแม่แพ้ท้องตอนตั้งครรภ์ คุณอาจจะมีแนวโน้มที่จะมี
อาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ ประวัติของการเคลื่อนไหวความเจ็บป่วยหรือปัญหาท้องก่อนท้องอาจจะคุณได้

มีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ อาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ อันตราย ? ?
อ่อนปานกลางและอาเจียนคลื่นไส้ อาจทำให้คุณรู้สึกแย่แต่มันจะไม่ทำให้คุณหรือลูกน้อยของคุณ .
รุนแรงอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์ที่ป้องกันไม่ให้คุณจากการรักษาอาหารใด ๆ ลง เรียกว่า
เหี้ยดอกของการตั้งครรภ์ . จะหายาก แต่สามารถก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ คุณควรติดต่อผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณ
ถ้ามีดังต่อไปนี้ใช้กับคุณ :
●คุณจะไม่สามารถเพื่อให้ของเหลวหรืออาหารใด ๆ ลง 24 ชั่วโมง
●คุณอาเจียนวันละหลายๆ ครั้ง หรือหลังอาหารทุกครั้ง
●คุณปวดท้อง ปัสสาวะลำบาก หรือมีไข้
แล้วคลื่นไส้ และอาเจียน การรักษา ?
อาการคลื่นไส้หรืออาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์คือการรักษาใน 3 ขั้นตอนง่าย ๆ :
1 การเปลี่ยนแปลงอาหารที่ง่ายและช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงอาจลดอาการคลื่นไส้อาเจียน นี้คือทั้งหมดที่ใช้สําหรับผู้หญิงมากมาย
.
2 ถ้าเปลี่ยนแปลงอาหารมีไม่เพียงพอคุณสามารถลองใช้ ขิง หรือการใช้ acupressure วงดนตรี ทั้งสองได้รับการแสดงเพื่อลดอาการ
.
3 สุดท้าย ถ้าคลื่นไส้ และอาเจียน ทำให้มันยากที่จะทำกิจกรรมปกติ โรคสามารถ
ที่กําหนดไว้ โปรดตรวจสอบกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อนที่จะใช้ยาใด ๆ .
เป็น antinausea โรคอันตรายสำหรับทารกของฉันได้อย่างไร
มีหลายประเภทของอาการ ยาที่ใช้งานได้ดีและปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ .
เพราะอาการคลื่นไส้ อาเจียน อาจเกิดจากทริกเกอร์ที่แตกต่างกัน " ในร่างกายของคุณ คุณและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ
ของคุณควรทำงานร่วมกันเพื่อตามหายาที่เหมาะสมสำหรับคุณ .
วารสาร&หญิงผดุงครรภ์ www.jmwh.org 303
- สุขภาพสงวนลิขสิทธิ์ 2006 โดย American College ของพยาบาลผดุงครรภ์ 1526-9523 / 06 / $ 32.00 - ดอย : 10.1016 / j.jmwh ออกโดย Elsevier Inc . 2006.04.001

กับผู้หญิง ชีวิต™

nurse-midwives วิทยาลัยอเมริกันของคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างตั้งครรภ์
เคล็ดลับรักษาอาการคลื่นไส้และอาเจียนในระหว่างขั้นตอนก่อนการตั้งครรภ์
: วิถีชีวิตและอาหารการเปลี่ยนแปลง
●คลื่นไส้ระหว่างการตั้งครรภ์จะแย่ลงถ้าคุณขาดน้ำ ( ถ้าไม่มีของเหลวในร่างกายของคุณ ) หรือ
ถ้าระดับของน้ำตาลในเลือดต่ำจากไม่กินบ่อยพอ .
●กินแครกเกอร์หรือขนมปังปิ้งธรรมดาในตอนเช้าก่อนลุกจากเตียงและในเวลาใด ๆในระหว่างวัน
เมื่อ คุณรู้สึกคลื่นไส้ .
●แทนอาหารขนาดใหญ่สาม กินมื้อเล็ก ๆ ทุก 2 - 3 ชั่วโมง
●หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง
●ดูดมะนาวหรือมะนาวฝานอาจช่วย
●ลองกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น มันฝรั่ง ก๋วยเตี๋ยวหรือขนมปังปิ้ง .
●ไม่นอนทันทีหลังกินอาหาร
●ลองดื่มเครื่องดื่มอัดลมระหว่างมื้ออาหาร รอ 30 นาที หลังจาก กินดื่มของเหลว .
●นมอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนรุนแรงแต่ผู้หญิงบางคนว่าโยเกิร์ตมีประโยชน์ .
●หลีกเลี่ยงอาหารที่มันเยิ้ม ผัด เผ็ด หรือร้อนมาก
●ผู้หญิงบางคนพบว่า วิตามินก่อนคลอดให้อาการของพวกเขาแย่ลง ถ้าเป็นเช่นนั้น ตรวจสอบกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับ
หยุดวิตามิน จนกว่าอาการจะหายไป ถ้าคุณหยุดทาน multivitamin เป็นก่อนคลอด
, คุณควรใช้เวลาหนึ่งเม็ดทุกวัน ( 0.4 มิลลิกรัมของกรดโฟลิค ซึ่งเป็น 400 ไมโครกรัมต่อวัน )
ในช่วงสามเดือนแรก กรดโฟลิคเม็ดจะไม่เสื่อมโทรม คลื่นไส้
ขั้นตอนที่สอง : การรักษา

nonmedication ขิงขิงมีการใช้สำหรับการรักษาอาการคลื่นไส้มาตั้งแต่สมัยโบราณ รากขิงชาขิง , ฝรั่ง , ขิง snaps ,
น้ำเชื่อมขิง เพิ่มน้ำ และน้ำขิง ปลอดภัยทุกคน และสามารถลดความรุนแรงของอาการของคุณ คุณยังสามารถซื้อขิง
แคปซูลที่ร้านขายยาปริมาณขิงที่ได้รับการทดสอบคือ 1 กรัม ( 250 มิลลิกรัมแคปซูลขิง
ถ่าย 4 ครั้งต่อวัน ) ขิงแคปซูลมาหลายหลอดเลย ถ้าคุณต้องการ
ใช้ขิงแคปซูล สอบถามผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณ บ่อยครั้งที่คุณควรจะใช้พวกเขา .
กดจุดวง
seabands เป็นสายรัดข้อมือกับจุดความดันวางอยู่บนด้านในของข้อมือของคุณ พวกเขามักจะใช้สำหรับ
เมารถผู้หญิงบางคนพบว่าพวกเขามีประโยชน์สำหรับอาการของพวกเขา และพวกเขาจะปลอดภัย

มีขั้นตอนที่สาม : ยา over-the-counter และยาที่สามารถใช้ได้ถ้าคุณมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนเป็น
รุนแรงมาก พูดคุยกับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณก่อนที่จะใช้วิตามินเพิ่มเติมใด ๆหรือยา