When a boy was sixteen, and a girl

When a boy was sixteen, and a girl was twelve they each had a ceremony. They wore jewelry such as white beads for boys and red shells for girls. A short time after this ceremony, the parents began to think of marriage for their children. During the ceremony the couple was blessed by the priest who prayed to the gods. The was believed to open up trade between the two families.

The priests ran governments, ruled cities, led ceremonies, and proformed many other jobs.

The Mayan Civilization was made up of independant city-states, there wasnt a centralized government uniting the independant city-states, the people who ruled were kings and queens, and each city- state was eached ruled by one person. Leadership passed from one king to the next. The rule was passed down from generation to generation. Authoritarian claimed to be gods and expected everyone to save them without question including human sacrifice.They also had a class society made up of diffrent levels slaves, peasents, craftsman, nobility,priests, leaders.

Besides wealthy kings men in the tribe were warriors, some worked in the fields or farmers who went out and got the crops going and or sold the food , and some were also builders who built great stuructures and monuments. Some were also weavers and potters and cleared the routes through jungles and swamps to access trade networks.

Royal Mayan women offen married into another royal family in far away city-states. This helped strenghten trade and helped them form alliences.Some of the royal women served as queen as well. The not wealthy women made pottery and were weavers which was very common.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อเด็กผู้ชายถูก sixteen และผู้หญิงเป็นสิบแต่ละมีพิธี พวกเขาสวมเครื่องประดับเช่นลูกปัดสีขาวสำหรับเด็กผู้ชายและเปลือกหอยสีแดงสำหรับหญิง เวลาสั้น ๆ หลังจากพิธีนี้ ผู้ปกครองเริ่มจะคิดว่า แต่งงานสำหรับเด็ก ในช่วงพิธี คู่มีความสุขโดยที่อธิษฐานกับพระเจ้า ที่ว่าเปิดการค้าระหว่างสองครอบครัวปุโรหิตวิ่งรัฐบาล เมืองเส้นบรรทัด พิธี led, proformed และงานอื่น ๆอารยธรรมมายาได้สร้างขึ้น city-states อิสระ เลยรวบ city-states อิสระรัฐบาลส่วนกลาง ผู้พิพากษามีคิงส์และควีนส์ และเมืองแต่ละรัฐที่ปกครอง โดยคน eached นำส่งผ่านจากเตียงคิงไป กฎถูกส่งผ่านลงจากรุ่นสู่รุ่น ประเทศเป็น เทพเจ้า และคาดว่าจะบันทึกไว้ โดยคำถามรวมทั้งเสียสละมนุษย์ทุกคน นอกจากนี้พวกเขายังมีสังคมระดับประกอบด้วยระดับต่าง ๆ ทาส peasents ท่าน ขุนนาง พระสงฆ์ ผู้นำนอกจากพระมหากษัตริย์รวย คนในเผ่าถูกนักรบ บางส่วนทำงานในเขตหรือเกษตรกรที่ออกไป และมีพืชผลที่เกิดขึ้นและ หรือขายอาหาร และบางคนผู้สร้างผู้สร้าง stuructures ดีและอนุสาวรีย์ บางคนยังทอผ้าพอตเตอร์ส และเลือกเส้นทางผ่านป่าและหนองน้ำเพื่อเข้าถึงเครือข่ายทางการค้ามายาหญิงรอยัล offen แต่งงานในวงศ์อื่นในไกล city-states นี้ช่วย strenghten ค้า และช่วยให้พวกเขาเป็น alliences บางส่วนเป็นควีนรวมทั้งผู้หญิงรอยัล ผู้หญิงรวยไม่ทำเครื่องปั้นดินเผา และมีการทอผ้าซึ่งเป็นกันมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อเด็กอายุสิบหกและหญิงสาวคนหนึ่งเป็นสิบสองพวกเขาแต่ละคนมีพิธี พวกเขาสวมเครื่องประดับเช่นสร้อยคอสีขาวสำหรับเด็กและเปลือกหอยสีแดงสำหรับสาว ๆ ไม่นานหลังจากที่งานนี้พ่อแม่เริ่มที่จะคิดว่าการแต่งงานสำหรับเด็กของพวกเขา ระหว่างพิธีทั้งคู่ได้รับพรโดยพระสงฆ์ที่อธิษฐานต่อพระเจ้า ที่ได้รับการเชื่อว่าจะเปิดการค้าระหว่างสองครอบครัว. ปุโรหิตวิ่งรัฐบาลปกครองเมืองพิธีกรนำและ proformed งานอื่น ๆ อีกมากมาย. ยันอารยธรรมถูกสร้างขึ้นจากอิสระเมืองรัฐมีไม่ได้เป็นรัฐบาลส่วนกลางเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเมืองอิสระ -states คนผู้ปกครองเป็นกษัตริย์และราชินีและแต่ละรัฐ City- eached ถูกปกครองโดยคนคนหนึ่ง เป็นผู้นำการส่งผ่านจากพระมหากษัตริย์หนึ่งไปยังอีก กฎที่ถูกส่งลงมาจากรุ่นสู่รุ่น เผด็จการอ้างตัวว่าเป็นพระเจ้าและคาดว่าทุกคนที่จะช่วยให้พวกเขาโดยไม่ต้องคำถามรวมทั้งมนุษย์ sacrifice.They ยังมีสังคมชั้นสร้างขึ้นจากระดับที่แตกต่างกันทาส peasents ช่างไฮโซนักบวชผู้นำ. นอกจากนี้พระมหากษัตริย์ที่ร่ำรวยผู้ชายในเผ่าเป็นนักรบ บางคนทำงานในเขตหรือเกษตรกรที่ออกไปและมีการปลูกพืชไปและหรือขายอาหารและบางส่วนยังเป็นผู้สร้างที่สร้างขึ้น stuructures ที่ดีและอนุเสาวรีย์ บางคนยังทอผ้าและพอตเตอร์และเคลียร์เส้นทางผ่านป่าและหนองน้ำในการเข้าถึงเครือข่ายการค้า. ผู้หญิงหลวงของชาวมายัน offen แต่งงานกับพระราชวงศ์อีกห่างไกลเมืองรัฐ นี้ช่วยให้การค้า strenghten และช่วยให้พวกเขาในรูปแบบของพระราช alliences.Some ผู้หญิงทำหน้าที่เป็นราชินีเช่นกัน ผู้หญิงที่ร่ำรวยไม่ได้ทำเครื่องปั้นดินเผาและทอผ้าซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมื่อเป็นเด็กอายุสิบหก และผู้หญิงที่อายุ 12 ปี พวกเขาได้เป็นพิธี พวกเขาสวมเครื่องประดับ เช่น ลูกปัดเปลือกหอยสีแดงขาวชายและหญิง เวลาสั้นๆ หลังจากจบพิธีนี้ พ่อแม่ก็เริ่มคิดถึงการแต่งงานสำหรับเด็กของพวกเขา ในระหว่างพิธี ทั้งคู่ได้รับพรจากพระสงฆ์ที่สวดมนต์ต่อพระเจ้า คือเชื่อเพื่อเปิดการค้าระหว่างสองครอบครัว

นักบวชหนีรัฐบาล ปกครองเมือง นำพิธี และ proformed งานอื่น ๆอีกมากมาย

อารยธรรมมายันถูกสร้างขึ้นจากเมืองรัฐอิสระ มีลักษณะโดยรวมเมืองสหรัฐอเมริการัฐอิสระ ผู้ปกครองเป็นกษัตริย์และราชินี และแต่ละเมือง - รัฐ คือ eached ปกครองโดยคนๆเดียว ความเป็นผู้นำผ่านจากกษัตริย์คนต่อไปกฎที่ถูกส่งผ่านลงมาจากรุ่นสู่รุ่น เผด็จการอ้างว่าเป็นเทพ และคาดว่าทุกคนจะช่วยพวกเขาได้โดยไม่ต้องคำถามรวมถึงการบูชายัญมนุษย์ พวกเขายังมีชั้นเรียนสังคมที่ประกอบด้วย ที่แตกต่างกันระดับทาส peasents , ช่างฝีมือ , ขุนนาง , พระสงฆ์ , ผู้นํา .

นอกจากรวยผู้ชายในเผ่ากษัตริย์ เป็นนักรบบางคนทำงานในเขตข้อมูล หรือเกษตรกรที่ได้ออกไป และได้ปลูกไป หรือขายอาหาร และบางชนิดก็ยังสร้าง stuructures ผู้สร้างที่ยิ่งใหญ่และอนุสาวรีย์ บางคนยัง weavers และช่างปั้นและล้างเส้นทางผ่านป่าและหนองน้ำที่เข้าถึงเครือข่ายค้า

หลวงมายาหญิง offen แต่งงานเข้าไปอีกไกลเมืองพระราชวงศ์ในสหรัฐอเมริกานี้ช่วย strenghten ค้าและช่วยให้พวกเขาสร้าง alliences บางส่วนของผู้หญิงที่ทำหน้าที่เป็นพระราชินีด้วย ผู้หญิงที่ไม่ร่ำรวย ทำเครื่องปั้นดินเผา และช่างทอผ้าซึ่งเป็นเรื่องธรรมดามาก