PesticidesPesticides are the only t

Pesticides

Pesticides are the only toxic substances released intentionally into our environment to kill living things. This includes substances that kill weeds (herbicides), insects (insecticides), fungus (fungicides), rodents (rodenticides), and others.

The use of toxic pesticides to manage pest problems has become a common practice around the world. Pesticides are used almost everywhere -- not only in agricultural fields, but also in homes, parks, schools, buildings, forests, and roads. It is difficult to find somewhere where pesticides aren't used -- from the can of bug spray under the kitchen sink to the airplane crop dusting acres of farmland, our world is filled with pesticides. In addition, pesticides can be found in the air we breathe, the food we eat, and the water we drink.

“As I've traveled across North America in the past decade to stem the tide of pesticide abuse, it makes me realize how fortunate we are to have a passionate, effective organization like Toxics Action Center right here in our own backyard." -Paul Tukey, best selling author and host of 'People, Places, and Plants.'
When Rachel Carson wrote Silent Spring in 1962, she raised public awareness about the effects of pesticide use on our health and our environment. However, almost forty years after Carson drew attention to the health and environmental impacts of DDT, use of equally hazardous pesticides has only increased. And all the time there is more evidence surfacing that human exposure to pesticides is linked to health problems. For example, in May 2010, scientists from the University of Montreal and Harvard University released a study that found that exposure to pesticide residues on vegetables and fruit may double a child’s risk of attention deficit hyperactivity disorder (ADHD), a condition that can cause inattention, hyperactivity, and impulsivity in children.

Pesticides are used in our schools, parks, and public lands. Pesticides are sprayed on agricultural fields and wood lots. Pesticides can be found in our air, our food, our soil, our water and even in our breast milk.

Pesticides and Human Health

Pesticides have been linked to a wide range of human health hazards, ranging from short-term impacts such as headaches and nausea to chronic impacts like cancer, reproductive harm, and endocrine disruption.

Acute dangers - such as nerve, skin, and eye irritation and damage, headaches, dizziness, nausea, fatigue, and systemic poisoning - can sometimes be dramatic, and even occasionally fatal.

Chronic health effects may occur years after even minimal exposure to pesticides in the environment, or result from the pesticide residues which we ingest through our food and water. A July 2007 study conducted by researchers at the Public Health Institute, the California Department of Health Services, and the UC Berkeley School of Public Health found a sixfold increase in risk factor for autism spectrum disorders (ASD) for children of women who were exposed to organochlorine pesticides.

Pesticides can cause many types of cancer in humans. Some of the most prevalent forms include leukemia, non-Hodgkins lymphoma, brain, bone, breast, ovarian, prostate, testicular and liver cancers. In February 2009, the Agency for Toxic Substances and Disease Registry published a study that found that children who live in homes where their parents use pesticides are twice as likely to develop brain cancer versus those that live in residences in which no pesticides are used.

Studies by the National Cancer Institute found that American farmers, who in most respects are healthier than the population at large, had startling incidences of leukemia, Hodgkins disease, non-Hodgkins lymphoma, and many other forms of cancer.

There is also mounting evidence that exposure to pesticides disrupts the endocrine system, wreaking havoc with the complex regulation of hormones, the reproductive system, and embryonic development. Endocrine disruption can produce infertility and a variety of birth defects and developmental defects in offspring, including hormonal imbalance and incomplete sexual development, impaired brain development, behavioral disorders, and many others. Examples of known endocrine disrupting chemicals which are present in large quantities in our environment include DDT (which still persists in abundance more than 20 years after being banned in the U.S.), lindane, atrazine, carbaryl, parathion, and many others.

Multiple Chemical Sensitivity (MCS) is a medical condition characterized by the body's inability to tolerate relatively low exposure to chemicals. This condition, also referred to as Environmental Illness, is triggered by exposure to certain chemicals and/or environmental pollutants. Exposure to pesticides is a common way for individuals to develop MCS, and once the condition is present, pesticides are often a potent trigger for symptoms of the condition. The variety of these symptoms can be dizzying, including everything from cardiovascular p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยาฆ่าแมลงยาฆ่าแมลงมีสารพิษเฉพาะที่ตั้งใจปล่อยล้อมฆ่าสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงสารที่ฆ่าวัชพืช (สารเคมีกำจัดวัชพืช), แมลง (ยาฆ่าแมลง), เชื้อรา (ซึ่งเกิดจากเชื้อ), งาน (rodenticides), และอื่น ๆใช้พิษสารกำจัดศัตรูพืชการจัดการศัตรูพืชปัญหาได้กลายเป็น หลักปฏิบัติกันทั่วโลก มีใช้ยาฆ่าแมลงเกือบทุก - ไม่เพียงในด้านการเกษตร แต่ยังอยู่ ในบ้าน สวนสาธารณะ โรงเรียน อาคาร ป่า และถนน ยากหาที่ใดที่ยาฆ่าแมลงไม่ได้ใช้ - จากสามารถพ่นแมลงภายใต้ซิงค์ครัวไปห้องตัดปัดฝุ่นเครื่องบินของ โลกของเราเต็มไป ด้วยยาฆ่าแมลง นอกจากนี้ ยาฆ่าแมลงที่สามารถพบในอากาศที่เราหายใจ กิน และน้ำที่เราดื่ม"เป็นฉันได้เดินทางข้ามทวีปอเมริกาเหนือในทศวรรษการเกิดของแมลงผิด มันทำให้ฉันรู้ว่าโชคดีที่เราจะต้องมีความกระตือรือร้น มีประสิทธิภาพองค์กรเช่นศูนย์ปฏิบัติการ Toxics นี่ในสนามหลังบ้านของเราเอง" -Paul Tukey ขายผู้เขียนและโฮสต์ของ 'คน สถาน และพืช 'เมื่อราเชลคาร์สันเขียนเงียบสปริงใน 1962 เธอยกจิตสำนึกสาธารณะเกี่ยวกับผลกระทบของสารกำจัดศัตรูพืชใช้สุขภาพของเราและสภาพแวดล้อมของเรา อย่างไรก็ตาม เกือบสี่สิบปีหลังจากคาร์สันดึงความสนใจในสุขภาพและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของ DDT ใช้ยาฆ่าแมลงที่เป็นอันตรายเท่า ๆ กันมีเพียงเพิ่มขึ้น และตลอดเวลาที่มีหลักฐานเพิ่มเติมซ่อมแซมผิวหน้าสัมผัสยาฆ่าแมลงที่มนุษย์เชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพ ตัวอย่าง พฤษภาคม 2010 นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมอนทรีออลและมหาวิทยาลัยนำออกใช้การศึกษาที่พบว่าสัมผัสกับสารพิษตกค้างในผัก และผลไม้อาจคู่เด็กเสี่ยงของสมาธิ (ภาระผูกพัน), เงื่อนไขที่ทำให้ inattention เข้าร่องเข้ารอย และ impulsivity ในเด็กยาฆ่าแมลงที่ใช้ ในโรงเรียน สวนสาธารณะ ที่ดินสาธารณะ ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นบนเขตข้อมูลเกษตรและไม้จำนวนมาก ยาฆ่าแมลงที่สามารถพบได้ ในเครื่องของเรา อาหาร ดินของเรา น้ำของเรา และแม้แต่ ในน้ำนมของเรายาฆ่าแมลงและสุขภาพของมนุษย์สารกำจัดศัตรูพืชมีการเชื่อมโยงกับสุขภาพมนุษย์อันตราย ไปจนถึงผลกระทบระยะสั้นเช่นอาการปวดหัวและคลื่นไส้ผลกระทบเรื้อรังเช่นโรคมะเร็ง อันตรายสืบพันธุ์ และต่อมไร้ท่อทรัพยที่หลากหลายบางครั้งได้อันตรายเฉียบพลัน - เช่นเส้นประสาท ผิว หนัง และระคายเคืองตา และความเสียหาย ปวดหัว มึน คลื่นไส้ ล้า และระบบ พิษ - ละคร และแม้กระทั่งบางครั้งร้ายแรงผลกระทบสุขภาพเรื้อรังอาจเกิดจากการสัมผัสสารกำจัดศัตรูพืชในสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดแม้ หรือผลมาจากการตกค้างของสารพิษที่เรา ingest ผ่านอาหารและน้ำของเรา ดำเนินการศึกษา 2007 กรกฎาคม โดยนักวิจัยสถาบันสาธารณสุข แคลิฟอร์เนียภาคของบริการสุขภาพ และ UC เบิร์กลีย์โรงเรียนสาธารณสุขพบเพิ่ม sixfold ในปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคออทิซึมโรคสเปกตรัม (ASD) เด็กผู้หญิงได้สัมผัสกับยาฆ่าแมลง organochlorineยาฆ่าแมลงอาจทำให้เกิดโรคมะเร็งหลายชนิดในมนุษย์ บางรูปแบบที่แพร่หลายมากที่สุดได้แก่มะเร็งเม็ดเลือดขาว คอลลาไม่ Hodgkins สมอง กระดูก เต้านม มะเร็งรังไข่ ต่อมลูกหมาก testicular และตับ กุมภาพันธ์ 2552 ตัวแทนสารพิษและรีจิสทรีโรคเผยแพร่การศึกษาที่พบว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ใช้สารกำจัดศัตรูพืชสองเป็นแนวโน้มที่จะพัฒนาสมองมะเร็งกับผู้ที่อาศัยอยู่ในเรสซิเดนซ์ที่มีใช้สารกำจัดศัตรูพืชไม่การศึกษา โดย สถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่า เกษตรกรอเมริกัน ซึ่งประการส่วนใหญ่มีสุขภาพดีกว่าประชากรมีขนาดใหญ่ มี incidences ตกใจมะเร็งเม็ดเลือดขาว Hodgkins โรค คอลลาไม่ Hodgkins และแบบฟอร์มอื่น ๆ หลายโรคมะเร็งมีหลักฐานที่ติดตั้งยัง ที่สัมผัสกับยาฆ่าแมลง disrupts ระบบต่อมไร้ท่อ wreaking ความเสียหายกับระเบียบที่ซับซ้อนของฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์ การพัฒนาตัวอ่อน ต่อมไร้ท่อทรัพยสามารถผลิตภาวะมีบุตรยากและเกิดข้อบกพร่องและข้อบกพร่องพัฒนาในลูกหลาน ไม่สมดุลของฮอร์โมน และพัฒนาการทางเพศที่ไม่สมบูรณ์ พัฒนาผู้พิการทางสมอง ความผิดปกติของพฤติกรรม และอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างของไร้ท่อรู้จักควบสารเคมีที่มีอยู่ในปริมาณมากในสภาพแวดล้อมของเราได้แก่ DDT (ซึ่งยังคง ยังคงอยู่ในความอุดมสมบูรณ์มากกว่า 20 ปีหลังจากถูกห้ามในสหรัฐอเมริกา), ลินเดน atrazine, carbaryl, parathion และอื่น ๆ อีกมากมายหลายเคมีไว (เอ็มซี) มีอาการลักษณะของร่างกายไม่สามารถทนต่อสารเคมีสัมผัสค่อนข้างต่ำ สภาพนี้ เรียกว่าเป็นการเจ็บป่วยด้านสิ่งแวดล้อม จะถูกทริกเกอร์ โดยการสัมผัสกับสารเคมีและ/หรือสารมลพิษสิ่งแวดล้อม สัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชเป็นวิธีทั่วไปสำหรับบุคคลที่จะพัฒนาเอ็มซี และเมื่อเงื่อนไขมีอยู่ ยาฆ่าแมลงมักทริกเกอร์ที่มีศักยภาพสำหรับอาการของเงื่อนไข ความหลากหลายของอาการเหล่านี้สามารถถูก dizzying รวมทุกอย่างจากหลอดเลือดหัวใจ p

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สารกำจัดศัตรูพืชสารกำจัดศัตรูพืชที่มีสารพิษที่ปล่อยออกมาเพียงเจตนาในสภาพแวดล้อมของเราที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึงสารที่ฆ่าวัชพืช (สารเคมีกำจัดวัชพืช) แมลง (ยาฆ่าแมลง) เชื้อรา (เชื้อรา) หนู (หนู) และอื่น ๆ . การใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นพิษในการจัดการปัญหาศัตรูพืชได้กลายเป็นเรื่องธรรมดาที่ทั่วโลก สารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในเกือบทุกที่ - ไม่เพียง แต่ในด้านการเกษตร แต่ยังอยู่ในบ้าน, สวนสาธารณะ, โรงเรียน, อาคาร, ป่าไม้และถนน มันเป็นเรื่องยากที่จะหาสารกำจัดศัตรูพืชบางที่ไม่ได้ใช้ - จากกระป๋องสเปรย์บักใต้อ่างครัวพืชไร่ปัดฝุ่นเครื่องบินของเกษตรโลกของเราเต็มไปด้วยสารกำจัดศัตรูพืช นอกจากนี้สารกำจัดศัตรูพืชสามารถพบได้ในอากาศที่เราหายใจอาหารที่เรากินและน้ำที่เราดื่ม. "ในฐานะที่ผมเคยเดินทางข้ามทวีปอเมริกาเหนือในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเพื่อกั้นน้ำของการละเมิดสารกำจัดศัตรูพืชมันทำให้ฉันตระหนักถึงวิธีการ โชคดีที่เราจะมีความรักองค์กรที่มีประสิทธิภาพเช่นสารพิษศูนย์ปฏิบัติการขวาที่นี่ในสนามหลังบ้านของเราเอง. "-Paul ทูกี, ผู้เขียนที่ขายดีที่สุดและโฮสต์ของ 'คนสถานที่และพันธุ์พืช. เมื่อราเชลคาร์สันเขียนเงียบฤดูใบไม้ผลิในปี 1962 เธอยกความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่มีต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของเรา. แต่เกือบสี่สิบปีหลังจากที่คาร์สันดึงความสนใจไปผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของดีดีทีการใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตรายอย่างเท่าเทียมกันได้เพิ่มขึ้นเพียง. และทุกครั้งที่มี หลักฐานเพิ่มเติมผิวที่สัมผัสของมนุษย์ในการกำจัดศัตรูพืชมีการเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาสุขภาพ. ยกตัวอย่างเช่นในเดือนพฤษภาคม 2010 นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมอนทรีออและมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดเปิดตัวการศึกษาที่พบว่าการสัมผัสกับสารเคมีตกค้างในผักและผลไม้อาจจะเป็นสองเท่าของความเสี่ยงของเด็กที่ โรคสมาธิสั้น (ADHD) สภาพที่สามารถทำให้เกิดการไม่ตั้งใจที่สมาธิสั้นและ impulsivity ในเด็ก. สารกำจัดศัตรูพืชที่ใช้ในโรงเรียนของเราสวนสาธารณะและที่ดินสาธารณะ สารกำจัดศัตรูพืชที่มีการฉีดพ่นในช่องทางการเกษตรและไม้จำนวนมาก สารกำจัดศัตรูพืชที่สามารถพบได้ในอากาศของเราอาหารของเราดินของเราน้ำของเราและแม้กระทั่งในนมแม่ของเรา. สารกำจัดศัตรูพืชและสุขภาพของมนุษย์สารกำจัดศัตรูพืชได้รับการเชื่อมโยงกับความหลากหลายของอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ตั้งแต่ผลกระทบในระยะสั้นเช่นอาการปวดหัวและคลื่นไส้ผลกระทบเรื้อรังเช่นโรคมะเร็งเป็นอันตรายต่อระบบสืบพันธุ์และการหยุดชะงักต่อมไร้ท่อ. อันตรายเฉียบพลัน - เช่นเส้นประสาทผิวหนังและการระคายเคืองตาและความเสียหาย, ปวดหัว, เวียนศีรษะ, คลื่นไส้, เมื่อยล้าและพิษระบบ - บางครั้งอาจเป็นอย่างมากและแม้กระทั่งบางครั้งร้ายแรง . ผลกระทบต่อสุขภาพเรื้อรังอาจเกิดขึ้นปีหลังจากได้รับน้อยที่สุดแม้กระทั่งสารกำจัดศัตรูพืชในสภาพแวดล้อมหรือเป็นผลมาจากสารเคมีตกค้างที่เรานำเข้าไปในร่างกายผ่านทางอาหารและน้ำของเรา กรกฎาคมศึกษาปี 2007 ที่จัดทำโดยนักวิจัยที่สถาบันสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียกรมอนามัยและ UC Berkeley โรงเรียนสาธารณสุขพบว่ามีการเพิ่มขึ้นหกในปัจจัยเสี่ยงสำหรับความผิดปกติสเปกตรัม (ASD) สำหรับเด็กผู้หญิงที่ได้สัมผัสกับ สารกำจัดศัตรูพืช organochlorine. สารกำจัดศัตรูพืชสามารถก่อให้เกิดมะเร็งหลายชนิดในมนุษย์ บางส่วนของรูปแบบที่แพร่หลายมากที่สุด ได้แก่ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ไม่ใช่ Hodgkins โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง, สมอง, กระดูกเต้านมรังไข่ต่อมลูกหมากและมะเร็งลูกอัณฑะตับ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ที่สำนักงานสำหรับสารพิษและโรค Registry เผยแพร่ผลการศึกษาที่พบว่าเด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ของพวกเขาใช้สารกำจัดศัตรูพืชเป็นสองเท่าแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคมะเร็งสมองเมื่อเทียบกับผู้ที่อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่สารกำจัดศัตรูพืชไม่มีการใช้. ศึกษา โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติพบว่าเกษตรกรชาวอเมริกันที่ส่วนใหญ่นับถือมีสุขภาพดีกว่าประชากรที่มีขนาดใหญ่มีอุบัติการณ์ที่น่าตกใจของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวโรค Hodgkins ไม่ใช่ Hodgkins โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและรูปแบบอื่น ๆ ของโรคมะเร็ง. มีหลักฐานการติดตั้งยังเป็นว่าการได้รับ สารกำจัดศัตรูพืชรบกวนระบบต่อมไร้ท่ออลหม่านกับกฎระเบียบที่ซับซ้อนของฮอร์โมนระบบสืบพันธุ์และการพัฒนาของตัวอ่อน การหยุดชะงักต่อมไร้ท่อสามารถผลิตภาวะมีบุตรยากและความหลากหลายของการเกิดข้อบกพร่องและข้อบกพร่องในการพัฒนาลูกหลานรวมทั้งความไม่สมดุลของฮอร์โมนและการพัฒนาทางเพศที่ไม่สมบูรณ์การพัฒนาสมองลดความผิดปกติของพฤติกรรมและอื่น ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างของต่อมไร้ท่อที่รู้จักกันกระทบกับสารเคมีที่มีอยู่ในปริมาณมากในสภาพแวดล้อมของเรารวมถึงดีดีที (ซึ่งยังคงอยู่ในความอุดมสมบูรณ์กว่า 20 ปีหลังจากที่ถูกห้ามในสหรัฐอเมริกา), ลินเดน, อาทราซีน, คาร์บาริ, parathion และอื่น ๆ อีกมากมาย. หลายความไวต่อสารเคมี (MCS) เป็นเงื่อนไขทางการแพทย์ที่โดดเด่นด้วยการไร้ความสามารถของร่างกายในการทนต่อการสัมผัสที่ค่อนข้างต่ำต่อสารเคมี สภาพเช่นนี้ยังเรียกว่าเจ็บป่วยสิ่งแวดล้อมถูกเรียกโดยการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดและ / หรือมลพิษสิ่งแวดล้อม การสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชเป็นวิธีการทั่วไปสำหรับบุคคลที่จะพัฒนา MCS และเมื่อเงื่อนไขเป็นปัจจุบันสารกำจัดศัตรูพืชมักจะเป็นทริกเกอร์ที่มีศักยภาพสำหรับอาการของสภาพ ความหลากหลายของอาการเหล่านี้สามารถ dizzying รวมถึงทุกอย่างตั้งแต่หน้าโรคหัวใจและหลอดเลือด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยาฆ่าแมลงยาฆ่าแมลงเป็นเพียงที่เป็นพิษสารปล่อยโดยเจตนาในสภาพแวดล้อมของเราที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิต ซึ่งรวมถึง สารฆ่าวัชพืช ( สารกำจัดวัชพืช ) , แมลง ( ยาฆ่าแมลง ) เชื้อรา ( Fungicides ) , หนู ( rodenticides ) , และคนอื่น ๆการใช้สารพิษจากยาฆ่าแมลง เพื่อจัดการปัญหาศัตรูพืชได้กลายเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปทั่วโลก ใช้ยาฆ่าแมลงเกือบทุกที่ -- ไม่เพียง แต่ในด้านการเกษตร แต่ยังในบ้าน , สวนสาธารณะ , โรงเรียน , อาคาร , ป่า , และถนน มันเป็นเรื่องยากที่จะหาที่อื่นที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง -- จากสามารถของสเปรย์กำจัดแมลงภายใต้อ่างครัวเครื่องบินการพ่นยาฆ่าแมลงเอเคอร์ของพื้นที่การเกษตร โลกเราเต็มไปด้วยยาฆ่าแมลง นอกจากนี้ ยาฆ่าแมลงสามารถพบได้ในอากาศที่เราหายใจ อาหารที่เรากิน น้ำที่เราดื่ม" ผมเดินทางข้ามทวีปอเมริกาเหนือในทศวรรษที่ผ่านมาที่จะกั้นน้ำของการละเมิด แมลง มันทำให้ผมตระหนักว่าเราจะโชคดี มีความกระตือรือร้น องค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ศูนย์ปฏิบัติการสารพิษอยู่ในสนามหลังบ้านของเราเอง " - พอล เอ ขายผู้เขียนและโฮสต์ของคน สถานที่ และพืชที่ดีที่สุด ' ' และเมื่อราเชลคาร์สันเขียนฤดูใบไม้ผลิเงียบ 1962 เธอเพิ่มความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของการใช้สารเคมีต่อสุขภาพของเราและสภาพแวดล้อมของเรา อย่างไรก็ตาม เกือบสี่สิบปีหลังจากคาร์สันดึงความสนใจกับสุขภาพและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของการใช้ยาฆ่าแมลงดีดีที เท่าเทียมกันอันตรายได้เพิ่มขึ้นเท่านั้น และตลอดเวลา มีหลักฐานว่ามนุษย์ได้รับยาฆ่าแมลงมีส่วนเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ในเดือนพฤษภาคมปี 2010 นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมอนทรีออและมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้รับการศึกษาที่พบว่า การสัมผัสกับสารพิษที่ตกค้างในผักและผลไม้ อาจจะคู่ของเด็กที่มีสมาธิสั้น ( ADHD ) เงื่อนไขที่สามารถทำให้เกิดไม่ตั้งใจ hyperactivity , หุนหันพลันแล่น , และในเด็กยาฆ่าแมลงที่ใช้ในโรงเรียน , สวนสาธารณะและที่ดินสาธารณะ . ยาฆ่าแมลง sprayed บนเขตข้อมูลการเกษตรและจำนวนไม้ สารเคมีที่สามารถพบได้ในอากาศของเรา อาหารของเราของเราในดิน น้ำ และแม้แต่ในนมเต้านมของเราของเรายาฆ่าแมลง และสุขภาพของมนุษย์ยาฆ่าแมลงที่ได้รับการเชื่อมโยงไปยังช่วงกว้างของสิ่งคุกคามสุขภาพของมนุษย์ ตั้งแต่ผลกระทบระยะสั้น เช่น ปวดศีรษะและคลื่นไส้กับผลกระทบเรื้อรังเช่นโรคมะเร็งอันตราย การสืบพันธุ์ และการหยุดชะงักต่อมไร้ท่ออันตราย - เฉียบพลัน เช่น เส้นประสาทที่ผิวหนัง และ ตา ระคายเคือง และเกิดความเสียหาย ปวดศีรษะ วิงเวียน คลื่นไส้ อ่อนเพลีย และถูกระบบบางครั้งสามารถอย่างมากและบางครั้งร้ายแรงสุขภาพเรื้อรังอาจเกิดขึ้นปีหลังจากการสัมผัสยาฆ่าแมลงแม้แต่น้อยในสิ่งแวดล้อม หรือผลจากสารพิษตกค้าง ซึ่งที่เรานำเข้าไปในร่างกายผ่านทางอาหารและน้ำ กรกฎาคม 2007 การศึกษาโดยนักวิจัยที่สถาบันสาธารณสุขแคลิฟอร์เนียกรมบริการสุขภาพและ UC Berkeley โรงเรียนสาธารณสุขพบเพิ่มขึ้นในค.ศ. 1940 หกปัจจัยเสี่ยงสำหรับโรคออทิซึมสเปกตรัม disorders ( ASD ) สำหรับลูกของผู้หญิงที่ได้รับการใช้ .ยาฆ่าแมลงสามารถทำให้เกิดมะเร็งหลายชนิดในมนุษย์ บางส่วนของรูปแบบที่แพร่หลายมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ใช่ดจ์คิน สมอง กระดูก เต้านม รังไข่ ต่อมลูกหมาก โรคมะเร็งอัณฑะและตับ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 , บริษัท ตัวแทนสารพิษและโรค Registry เผยแพร่ผลการศึกษาที่พบว่า เด็กที่อาศัยอยู่ในบ้านที่พ่อแม่ใช้ยาฆ่าแมลงเป็นสองเท่าแนวโน้มที่จะพัฒนาโรคมะเร็งสมองเมื่อเทียบกับผู้ที่อาศัยอยู่ในหอพักที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง .การศึกษาโดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ พบว่า เกษตรกรอเมริกันที่ในการเคารพมาก healthier กว่าประชากรที่มีขนาดใหญ่ มีอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวดจ์คินสะดุ้ง , โรคที่ไม่ใช่มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดจ์คินและรูปแบบอื่น ๆอีกมากมายของมะเร็งมีหลักฐานการติดตั้งที่สัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชรบกวนระบบต่อมไร้ท่อ wreaking ความเสียหายกับระเบียบที่ซับซ้อนของฮอร์โมน ระบบสืบพันธุ์และการพัฒนาตัวอ่อน . การหยุดชะงักต่อมไร้ท่อสามารถผลิตสมบูรณ์และความหลากหลายของเกิดบกพร่อง และพัฒนาการบกพร่องในลูกหลาน รวมทั้งความไม่สมดุลของฮอร์โมนและพัฒนาการทางเพศสมบูรณ์ ความบกพร่องทางด้านการพัฒนาสมอง , ความผิดปกติของพฤติกรรม และอีกมากมาย ตัวอย่างที่รู้จักกันทางไดสารเคมีซึ่งมีอยู่ในปริมาณมากในสภาพแวดล้อมของเรา ได้แก่ ดีดีที ( ซึ่งยังคงอยู่ในความอุดมสมบูรณ์มากกว่า 20 ปี หลังจากถูกห้ามในสหรัฐอเมริกา ) , ลินเดนอะทราซีนคาร์บาริล พาราไธออน , และอีกมากมายความไวทางเคมีหลาย ( MCS ) เป็นอาการลักษณะร่างกายไม่สามารถทนค่อนข้างต่ำการสัมผัสกับสารเคมี ภาพนี้ยังเรียกว่าโรคสิ่งแวดล้อม ถูกกระตุ้นโดยการสัมผัสกับสารเคมีบางอย่างและ / หรือมลพิษสิ่งแวดล้อม การสัมผัสกับสารกำจัดศัตรูพืชเป็นวิธีการทั่วไปสำหรับบุคคลที่จะพัฒนาขึ้น และเมื่อเงื่อนไขเป็นปัจจุบัน ยาฆ่าแมลง มักจะเรียกต้าสำหรับอาการของภาวะ ความหลากหลายของอาการเหล่านี้สามารถ dizzying , รวมถึงทุกอย่างจากหัวใจและหลอดเลือด