Japan has very little arable land.

Japan has very little arable land. In fact, only 12% of its land mass is used for farming as compared to 45% in the United States.
Japanese fruit orchards are small and the cost of living in Japan is reasonably high. In order to make a living, Japanese orchards must grow premium products that fetch a high price on the market.
As a result, most of the fruit grown in Japan is high quality. It's common for each prefecture to grow its own unique varieties of fruit.
Japan has plenty of fruits that are worth a try:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ญี่ปุ่นมีที่ดินทำกินน้อยมาก ในความเป็นจริง เพียง 12% ของที่ดินของมวลจะใช้สำหรับการเกษตรเมื่อเทียบกับ 45% ในสหรัฐอเมริกาสวนผลไม้ญี่ปุ่นมีขนาดเล็ก และค่าครองชีพในญี่ปุ่นมีสูงพอสมควร เพื่อให้ที่อยู่อาศัย สวนญี่ปุ่นต้องเติบโตผลิตภัณฑ์พรีเมียมที่นำมาใช้มีราคาสูงในตลาดเป็นผล ส่วนใหญ่ของผลไม้ที่ปลูกในญี่ปุ่นมีคุณภาพสูง เป็นเรื่องปกติสำหรับแต่ละจังหวัดจะขยายพันธุ์ตัวเองเฉพาะของผลไม้ญี่ปุ่นมีผลไม้ที่น่าลองมากมาย:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ญี่ปุ่นมีที่ดินทำกินน้อยมาก ในความเป็นจริงเพียง 12% ของมวลที่ดินที่ใช้สำหรับทำการเกษตรเมื่อเทียบกับ 45% ในประเทศสหรัฐอเมริกา.
สวนผลไม้ของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กและค่าใช้จ่ายของการใช้ชีวิตในประเทศญี่ปุ่นอยู่ในระดับสูงพอสมควร เพื่อที่จะทำให้ชีวิต, สวนญี่ปุ่นจะต้องเติบโตผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมที่เรียกราคาสูงในตลาด.
เป็นผลให้มากที่สุดของผลไม้ที่ปลูกในประเทศญี่ปุ่นที่มีคุณภาพสูง เป็นเรื่องปกติที่แต่ละจังหวัดจะเติบโตพันธุ์เอกลักษณ์ของตัวเองของผลไม้.
ญี่ปุ่นมีความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ที่มีมูลค่าลอง:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ญี่ปุ่น มีที่ดินเพาะปลูกน้อยมาก . ในความเป็นจริง , เพียง 12 % ของมวลดินจะใช้สำหรับฟาร์มเมื่อเทียบกับ 45% ในสหรัฐอเมริกาสวนผลไม้ของญี่ปุ่นมีขนาดเล็ก และค่าครองชีพที่ญี่ปุ่นสูงพอสมควร เพื่อที่จะทำให้ชีวิต ต้องปลูกสวนผลไม้ ญี่ปุ่น พรีเมี่ยม ผลิตภัณฑ์ที่เรียกราคาสูงในตลาดเป็นผลส่วนใหญ่ของผลไม้ที่ปลูกในญี่ปุ่นมีคุณภาพสูง มันเป็นเรื่องธรรมดาที่แต่ละจังหวัด เพื่อขยายพันธุ์เอง เป็นเอกลักษณ์ของผลไม้ญี่ปุ่นมีความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ที่คุ้มค่าที่จะลอง :