Income distribution
เพื่อทำเกิดการกระจ่ายรายได้ที่เท่าเทียมกัน รัฐบาลต้องเข้าไปช่วยเพื่อทำให้ช่วงความยากจนลดลง โดยการวัดความไม่เท่าเทียมนี้สามารถดูได้จาก Gini coefficientsได้ ซึ่งนโยบายการเก็บภาษีมรดกของรัฐบาลก็เป็นนโยบายหนึ่งที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้ และน่าจะช่วยทำให้เกิดการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม
การเก็บภาษีมรดกทำได้โดยการเก็บภาษีจากผู้ที่มีทรัพย์สินมาก และเงินภาษีส่วนนั้นรัฐก็จะนำมาใช้ประโยชน์เพื่อช่วยเหลือคนยากจนนั้นเอง โดยผ่านนโยบายของรัฐ เช่นประเทศอังกฤษมีการเก็บภาษีมรดกถึง 36% แต่ในประเทศไทย สถาบันอนาคตไทยศึกษาเสนอให้รัฐบาลไม่ควรเก็บภาษีมรดกเกิน 10% และต้องมีเงิน 50 ล้านบาทขึ้นไปถึงจะเสียภาษีมรดก และต้องพิจารณาเงินเฟ้ออีกด้วย ทั้งนี้การแก้ปัญหาลดความเหลื่อมล้ำอย่างยั่งยืน และการกระจายรายได้ที่เป็นธรรมไม่ได้ขึ้นกับการเก็บภาษีมรดกอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะนำเงินภาษีไปสร้างโอกาสที่เท่าเทียมของคนในสังคมหรือไม่ และรัฐใช้เงินคุ้มค่าเพียงใด ซึ่งหลายองค์กรการกุศลก็ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้รัฐบาล
Pareto efficient ไม่มีใครดีขึ้นโดยไม่ทำให้อีกฝ่ายแย่ลง ในการเก็บภาษีมรดกจะทำให้คนรวยแย่ลงในเรื่องของการเสียภาษีนั้นเอง และจะทำให้คนจนอาจลดการทำงานของตัวเองลงและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคได้เช่นจากการทีรัฐเก็บภาษีจากคนรวยและนำเงินนั้นมาช่วยเหลือโดยการให้เงินอุดหนุน ช่วยให้ราคาสินค้าถูกลงทำให้คนจนสามารถบริโภคได้มากขึ้นเป็นต้นถือว่าเป็นผลกระทบภายนอกเชิงบวกจากการเก็บภาษีมรดก
โดยการเก็บการเก็บภาษีมรดกทำให้เกิดความเสมอภาคระหว่างคนรวยกับคนจนได้โดยคนรวยก็ต้องเสียภาษีทำให้เกิดความเสมอภาคมากขึ้นเพราะดีกว่าให้คนรวยเก็บเงินไว้ไม่ได้เอาออกมาใช้จ่าย ในขณะที่คนจนแทบไม่มีเงินใช้จ่ายเลย แต่ไม่ทำให้เกิดประสิทธิภาพเพราะรัฐบาลต้องเลือกความเสมอภาค ก็จะไม่ทำให้เกิดประสิทธิภาพนั้นเอง