The most effective treatments for r

The most effective treatments for reducing phytate content in legumes are fermentation and germination. However, these methods are of limited use, applicable only to products of specific characteristics (fermented beans, sauces,bean sprouts, etc.). On the other hand, without significantly altering the food product characteristics, phytase application offers an effective means to remove phytic acid and is particularly useful for legume-based beverages. As reviewed by
Greiner and Konietzny (2006), phytase is capable of initiating thestepwise dephosphorylation of phytate and increasing mineral bioavailability, including calcium. Until recently, phytase has been used mainly as an animal feed additive in swine and poultry diets, and, to some extent, in fish dietPhytase is now increasingly applied in the production of functional foods or food supplements with health benefits. Moreover, technical improvements by adding phytase during food processing have been reported for breadmaking, production of plant protein isolates, corn wet milling, and the fractionation of cereal bran.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการลดเนื้อหา phytate ในถั่วหมักและการงอกได้ อย่างไรก็ตาม วิธีเหล่านี้มีการจำกัดการใช้ ใช้ได้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ (ถั่วหมัก ซอส ถั่วงอก ฯลฯ) บนมืออื่น ๆ โดยไม่ต้องดัดแปลงลักษณะของผลิตภัณฑ์อาหารมาก ประยุกต์โอสเตบิลมีวิธีการเอากรดไฟติกที่มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเครื่องดื่มจากพืชตระกูลถั่ว ทำการGreiner และ Konietzny (2006), โอสเตบิลจะสามารถเริ่มต้น thestepwise dephosphorylation ของ phytate และเพิ่มการดูดซึมแร่ รวมทั้งแคลเซียม จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ โอสเตบิลถูกใช้เป็นสารเติมแต่งอาหารสัตว์ในอาหารสุกรและสัตว์ปีก และ บ้าง ในปลา dietPhytase นี้ขึ้นใช้ในการผลิตอาหารทำงานหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ ปรับปรุงทางเทคนิค โดยการเพิ่มโอสเตบิลในระหว่างกระบวนการผลิตอาหารมีการรายงานสำหรับ breadmaking ผลิตพืชโปรตีนแยก ข้าวโพด สีเปียกและแยกส่วนของรำธัญพืช

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดเนื้อหาไฟเตทในพืชตระกูลถั่วที่มีการหมักและการงอก แต่วิธีการเหล่านี้มีการใช้งานที่ จำกัด เฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเฉพาะ (ถั่วหมักซอส, ถั่วงอก ฯลฯ ) บนมืออื่น ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญลักษณะของผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้ไฟเตสมีวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลบกรดไฟติกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเครื่องดื่มพืชตระกูลถั่วที่ใช้ เป็นไปตามที่
เกรนเนอร์และ Konietzny (2006), ไฟเตสมีความสามารถในการเริ่มต้นของไฟเตท dephosphorylation thestepwise และเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุรวมทั้งแคลเซียม จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ phytase ได้รับส่วนใหญ่ที่ใช้เป็นสารเติมแต่งอาหารสัตว์ในสุกรและสัตว์ปีกอาหารและบางส่วนใน dietPhytase ปลาในขณะนี้ถูกนำไปใช้มากขึ้นในการผลิตอาหารทำงานหรืออาหารเสริมอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงด้านเทคนิคโดยการเพิ่มไฟเตสในระหว่างการแปรรูปอาหารได้รับการรายงานสำหรับ breadmaking การผลิตโปรตีนจากพืชที่แยกข้าวโพดโม่เปียกและแยกของรำข้าว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีประสิทธิภาพมากที่สุดการรักษาเพื่อลดปริมาณไฟเตทในพืชตระกูลถั่วมีการหมักและการงอก อย่างไรก็ตาม วิธีการเหล่านี้จะใช้บังคับเฉพาะกับผลิตภัณฑ์ จำกัด คุณลักษณะเฉพาะ ( ถั่วหมักซอส ถั่วงอก ฯลฯ ) บนมืออื่น ๆ , โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้ผลิตภัณฑ์อาหาร , การเสนอวิธีที่มีประสิทธิภาพเพื่อเอากรดไฟติก และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับถั่วที่ใช้เครื่องดื่ม เท่าที่ดูโดยไกรเนอร์ และ konietzny ( 2006 ) และมีความสามารถในการ thestepwise ดีฟอ ฟริเลชันของไฟเตท และเพิ่มการดูดซึมแร่ธาตุ ได้แก่ แคลเซียม จนกระทั่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ และได้ถูกใช้ส่วนใหญ่เป็นสารเติมแต่งในอาหารและอาหารสัตว์สุกร สัตว์ปีก และในบางพื้นที่ใน dietphytase ปลาขณะนี้มากขึ้นที่ใช้ในการผลิตอาหารสุขภาพอาหารเสริมหรืออาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ นอกจากนี้เทคนิคการปรับปรุงโดยการเพิ่มเอนไซม์ไฟเตสในการแปรรูปอาหารได้มีการรายงาน breadmaking การผลิตโปรตีนพืชสายพันธุ์ข้าวโพดโม่เปียกและส่วนของรำข้าวเมล็ดธัญพืช