The Execution of Emperor Maximilian

The Execution of Emperor Maximilian is a series of paintings by Édouard Manet from 1867 to 1869, depicting the execution by firing squad of Emperor Maximilian I of the short-lived Second Mexican Empire. Manet produced three large oil paintings, a smaller oil sketch and a lithograph of the same subject. All five works were brought together for an exhibition in London and Mannheim in 1992-3, and at the Museum of Modern Art in New York in 2006.

Maximilian was born in 1832, the son of Archduke Franz Karl of Austria and Princess Sophie of Bavaria. After a career in the Austrian Navy, he was encouraged by Napoleon III to become Emperor of Mexico following the French intervention in Mexico. Maximilian arrived in Mexico in May 1864. He faced significant opposition from forces loyal to the deposed president Benito Juárez throughout his reign, and the Empire collapsed after Napoleon withdrew French troops in 1866. Maximilian was captured in May 1867, sentenced to death at a court martial, and executed with Generals Miguel Miramón and Tomás Mejía on 19 June 1867.

Manet supported the Republican cause, but nonetheless was inspired to start work on a painting heavily influenced by Goya's The Third of May 1808. The final work, painted in 1868-69 is now held by the Kunsthalle Mannheim. The painting is signed by Manet in the lower left corner but bears the date of Maximilian's execution in 1867 despite being painted in 1868-9.

Fragments of an earlier and larger painting from about 1867-68 are held by the National Gallery in London. Parts of this work were probably cut off by Manet, but it was largely complete on his death; other parts were sold separately after his death. The surviving pieces were reassembled by Edgar Degas and it was bought by the National Gallery in 1918, but then separated again until 1979 and finally combined on one canvas in 1992.

A third, unfinished oil painting is held by the Museum of Fine Arts, Boston, donated from Mr. and Mrs. Frank Gair Macomber in 1930, who bought it from Ambroise Vollard in 1909. A much smaller work in oils, a study for the Mannheim painting, is held by the Ny Carlsberg Glyptotek in Copenhagen. Manet was refused permission to reproduce the lithograph in 1869, but an edition of 50 impressions was produced in 1944, after his death. Examples of the lithograph are held by the Metropolitan Museum of Art in New York and the Clark Art Institute in Williamstown, Massachusetts.

In the Boston version, the soldiers wear clothes and sombrero of Mexican Republicans. In the final version in Mannheim, they are dressed in 19th century field dress, common to many armies at that time, but Manet recognized the irony that they could be easily mistaken for French soldiers in this picture. The sergeant wearing a red cap clearly resembles Napoleon III (in reality, the execution was bungled, and a coup de grace was required).

Political sensitivities made it impossible for Manet to exhibit his paintings in France during the reign of Napoleon III, but the Mannheim version was exhibited in New York and Boston in 1879-80. The Mannheim and Boston versions were exhibited together at the Salon d'Automne in 1905. The Mannheim version was acquired by the Kunsthalle Mannheim in 1910 after being exhibited at the Berliner Secession earlier that year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การดำเนินการของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเป็นชุดของภาพวาดโดย Édouard Manet จากค.ศ. 1867 การงแมง แสดงให้เห็นถึงการดำเนินการ โดยทีมยิงของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนพระจักรวรรดิเม็กซิโกที่สองช่วงสั้น ๆ Manet ผลิตภาพวาดน้ำมันขนาดใหญ่สาม ร่างน้ำมันเล็ก และ lithograph ของเรื่องเดียวกัน งานห้าถูกนำกันสำหรับจัดแสดงในลอนดอนและมา ใน 1992-3 และที่พิพิธภัณฑ์ ศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์กในปี 2006แม็กซิมิเลียนเกิดใน 1832 บุตรของอาร์ชดยุกฟรันซ์คาร์ลแห่งออสเตรียและเจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย หลังจากทำงานในกองทัพเรือออสเตรีย เขามีแรงกระตุ้นจากนโปเลียน III เป็นจักรพรรดิเม็กซิโกต่อการแทรกแซงของฝรั่งเศสในประเทศเม็กซิโก แม็กซิมิเลียนมาถึงในเม็กซิโกในพฤษภาคม เขาต้องเผชิญกับฝ่ายค้านอย่างมีนัยสำคัญจากกองกำลังที่ภักดีกับที่ประธานาธิบดีเบนิโต้ Juárez ตลอดรัชกาลของพระองค์ และอาณาจักรยุบหลังจากที่นโปเลียนต้องถอนกองทหารฝรั่งเศสใน 1866 แม็กซิมิเลียนถูกจับในค.ศ. 1867 พฤษภาคม พิพากษาตายที่ศาลต่อสู้ และดำเนินการกับนายพล Miguel Miramón Tomás Mejía กับ 19 มิถุนายนค.ศ. 1867Manet สนับสนุนสาเหตุพล แต่กระนั้น มีแรงบันดาลใจเริ่มงานจิตรกรรมรับอิทธิพลมากจากของโกยาที่สามของ 1808 พฤษภาคม ขณะนี้มีจัดงานสุดท้าย ทาสีใน 1868-69 โดยมา Kunsthalle ภาพวาดที่ได้รับการรับรอง โดย Manet ในมุมซ้ายด้านล่าง แต่หมีวันที่ของการดำเนินการของแม็กซิมิเลียนในค.ศ. 1867 แม้มีการทาสีใน 1868-9Fragments of an earlier and larger painting from about 1867-68 are held by the National Gallery in London. Parts of this work were probably cut off by Manet, but it was largely complete on his death; other parts were sold separately after his death. The surviving pieces were reassembled by Edgar Degas and it was bought by the National Gallery in 1918, but then separated again until 1979 and finally combined on one canvas in 1992.A third, unfinished oil painting is held by the Museum of Fine Arts, Boston, donated from Mr. and Mrs. Frank Gair Macomber in 1930, who bought it from Ambroise Vollard in 1909. A much smaller work in oils, a study for the Mannheim painting, is held by the Ny Carlsberg Glyptotek in Copenhagen. Manet was refused permission to reproduce the lithograph in 1869, but an edition of 50 impressions was produced in 1944, after his death. Examples of the lithograph are held by the Metropolitan Museum of Art in New York and the Clark Art Institute in Williamstown, Massachusetts.In the Boston version, the soldiers wear clothes and sombrero of Mexican Republicans. In the final version in Mannheim, they are dressed in 19th century field dress, common to many armies at that time, but Manet recognized the irony that they could be easily mistaken for French soldiers in this picture. The sergeant wearing a red cap clearly resembles Napoleon III (in reality, the execution was bungled, and a coup de grace was required).
Political sensitivities made it impossible for Manet to exhibit his paintings in France during the reign of Napoleon III, but the Mannheim version was exhibited in New York and Boston in 1879-80. The Mannheim and Boston versions were exhibited together at the Salon d'Automne in 1905. The Mannheim version was acquired by the Kunsthalle Mannheim in 1910 after being exhibited at the Berliner Secession earlier that year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การดำเนินการของจักรพรรดิเป็นชุดของภาพวาดโดยÉdouard Manet 1867-1869 ภาพวาดการดำเนินการโดยทีมยิงของจักรพรรดิ Maximilian ผมสั้นเม็กซิกันสองอาณาจักร Manet สามภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ร่างน้ำมันขนาดเล็กและพิมพ์หินของเรื่องเดียวกัน ทั้งห้าคนงานถูกนำมารวมกันสำหรับการจัดนิทรรศการในกรุงลอนดอนและไฮม์ใน 1992-3 และที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์กในปี 2006 แมกเกิดใน 1832 บุตรชายของท่านดยุคฟรานซ์คาร์ลของออสเตรียและเจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย . หลังจากที่มีอาชีพการงานในกองทัพเรือออสเตรียเขาได้รับการสนับสนุนโดยนโปเลียนที่สามที่จะกลายเป็นจักรพรรดิของเม็กซิโกต่อไปนี้ฝรั่งเศสแทรกแซงในเม็กซิโก แมกมาถึงในเม็กซิโกพฤษภาคม 1864 เขาเผชิญหน้ากับความขัดแย้งอย่างมีนัยสำคัญจากกองกำลังที่จงรักภักดีต่อประธานาธิบดีเบนิโต้Juárezปลดตลอดรัชสมัยของพระองค์และเอ็มไพร์ทรุดตัวลงหลังจากที่นโปเลียนถอนตัวออกกองทหารฝรั่งเศสใน 1866 แมกถูกจับพฤษภาคม 1867 ตัดสินประหารชีวิตในราชสำนัก การต่อสู้และการดำเนินการกับนายพลมิเกลและ Miramon TomásMejíaวันที่ 19 มิถุนายน 1867 มาเนต์ได้รับการสนับสนุนสาเหตุที่รีพับลิกัน แต่อย่างไรก็ตามเป็นแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นการทำงานในภาพวาดอิทธิพลอย่างมากจากของ Goya ที่สามของเดือนพฤษภาคม 1808 งานสุดท้ายทาสี 1868- 69 จะจัดขึ้นในขณะนี้โดย Kunsthalle ไฮม์ ภาพวาดการลงนามโดยมาเนต์ในมุมล่างซ้าย แต่หมีวันของการดำเนินการใน Maximilian 1867 แม้จะถูกวาดใน 1868-9. ชิ้นส่วนของภาพวาดก่อนหน้านี้และมีขนาดใหญ่ขึ้นจากประมาณ 1867-1868 จะมีขึ้นโดยหอศิลป์แห่งชาติในกรุงลอนดอน ส่วนหนึ่งของงานนี้อาจจะถูกตัดออกโดยมาเนต์ แต่มันก็สมบูรณ์ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการตายของเขา; ชิ้นส่วนอื่น ๆ ที่ขายแยกต่างหากหลังจากที่เขาตาย ชิ้นส่วนที่รอดตายถูกประกอบโดยเอ็ดการ์เดอกาส์และมันถูกซื้อมาโดยหอศิลป์แห่งชาติในปี 1918 แต่แยกออกมาแล้วอีกครั้งจนถึงปี 1979 และในที่สุดก็มารวมกันในหนึ่งผืนผ้าใบในปี 1992 สามภาพเขียนสีน้ำมันที่ยังไม่เสร็จที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์บอสตัน บริจาคจากนายและนางแฟรงก์ Gair Macomber ในปี 1930 ที่ซื้อมาจาก Ambroise Vollard ในปี 1909 การทำงานที่มีขนาดเล็กมากในน้ำมันศึกษาสำหรับการวาดภาพไฮม์, ที่จัดขึ้นโดย Ny Carlsberg Glyptotek ในโคเปนเฮเกน Manet ถูกปฏิเสธไม่ได้รับอนุญาตให้ทำซ้ำพิมพ์หินในปี 1869 แต่ฉบับที่ 50 การแสดงผลที่ถูกผลิตในปี 1944 หลังจากที่เขาตาย ตัวอย่างของการพิมพ์หินที่จะมีขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิในนิวยอร์กและคลาร์กสถาบันศิลปะในวิลเลียมส์, แมสซาชูเซต. ในรุ่นบอสตันทหารสวมใส่เสื้อผ้าและหมวกปีกกว้างของพรรครีพับลิเม็กซิกัน ในรุ่นสุดท้ายใน Mannheim พวกเขาจะแต่งตัวในชุดสนามศตวรรษที่ 19 ร่วมกันกองทัพจำนวนมากในเวลานั้น แต่มาเนต์ได้รับการยอมรับถ้อยคำที่พวกเขาอาจจะเข้าใจผิดได้ง่ายสำหรับทหารฝรั่งเศสในภาพนี้ จ่าสวมหมวกสีแดงอย่างชัดเจนคล้ายกับโปเลียนที่สาม (ในความเป็นจริงการดำเนินการได้รับการผิดพลาดและรัฐประหารพระคุณที่ถูกต้อง). ความเปราะบางทางการเมืองทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับมาเนต์ที่จะแสดงภาพวาดของเขาในฝรั่งเศสในช่วงรัชสมัยของพระเจ้านโปเลียนที่สาม แต่ รุ่นไฮม์ได้รับการจัดแสดงในนิวยอร์กและบอสตันใน 1879-80 ไฮม์และรุ่นบอสตันถูกจัดแสดงร่วมกันใน Automne ศิลปวัตถุศิลปะในปี 1905 รุ่นไฮม์ถูกซื้อกิจการโดย Kunsthalle ไฮม์ในปี 1910 หลังจากที่ถูกจัดแสดงที่ Berliner แยกตัวออกจากก่อนหน้านี้ในปีนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทำงานของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเป็นชุดของภาพวาดที่วาดโดยโยฮันน์ พาเคลเบลจาก 2410 ถึง 1869 ภาพการประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าของจักรพรรดิแมกซิมิเลียนผมในช่วงสั้น ๆเม็กซิกันสองอาณาจักร มาเนต์ผลิตสามภาพวาดสีน้ำมันขนาดใหญ่ , ขนาดเล็กน้ำมันร่างและภาพพิมพ์หินในหัวเรื่องเดียวกัน ทั้งห้าทำงานมาด้วยกัน เพื่อจัดแสดงนิทรรศการในกรุงลอนดอนและใน 1992-3 Mannheim ,และที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่ในนิวยอร์กในปี 2549

แม็กซิมิเลียนเกิดใน 1832 , ลูกชายของคาร์ลและอาร์ชดยุกฟรันซ์แห่งออสเตรียเจ้าหญิงโซฟีแห่งบาวาเรีย . หลังจากอาชีพในกองทัพออสเตรีย เขาถูกชักชวนโดยจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 กลายเป็นจักรพรรดิของเม็กซิโกตามฝรั่งเศสเข้าแทรกแซงในเม็กซิโก แม็กซิมิเลียนมาถึงในเม็กซิโกพฤษภาคม 1864 .เขาต้องเผชิญกับการต่อต้านจากกองกำลังที่สำคัญซื่อสัตย์กับอดีตประธานาธิบดีเบนิโต จู ซัวเรซ ตลอดรัชสมัยของพระองค์ และจักรวรรดิล้มลงหลังจากนโปเลียนถอนกำลังทหารฝรั่งเศสในปี 1866 . แม็กซิมิเลียน ถูกจับใน 1867 , ประหารชีวิตที่ศาลทหาร และดำเนินการกับนายพลมิเกล miram เลอองและทอม . kgm s mej íบน 19 มิถุนายน 2410 .

เน็ตสนับสนุนรีพับลิกัน สาเหตุแต่อย่างไรก็ตามมีแรงบันดาลใจที่จะเริ่มทำงานบนภาพวาดของโกยาอิทธิพลอย่างมากโดย 3 พฤษภาคม 1808 . งานสุดท้ายที่วาดใน 1868-69 ขณะนี้จัดขึ้นโดย kunsthalle Mannheim . ภาพวาดที่ลงนามโดย มนัสในมุมล่างซ้าย แต่หมีวันแห่งการประหารใน 1867 แม้จะถูกทาสีใน 1868-9 .

ชิ้นส่วนของภาพวาดจากเรื่องก่อนหน้านี้และมีขนาดใหญ่ 1867-68 จัดโดยหอศิลป์แห่งชาติลอนดอน ส่วนของงานนี้อาจจะถูกตัดออก โดย มนัส แต่ส่วนใหญ่เสร็จสมบูรณ์ในความตายของเขา ส่วนอื่น ๆ มีขายแยกต่างหากหลังจากการตายของเขา รอดตายชิ้นถูกประกอบโดยเอ็ดการ์เดอกาส์และมันถูกซื้อโดยหอศิลป์แห่งชาติใน 1918แต่แล้วแยกกันอีกครั้ง จนกระทั่งปี 1979 และในที่สุดการรวมกันในหนึ่งผ้าใบในปี 1992

3 , จิตรกรรมสีน้ํามันไม่เสร็จ จะจัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ , บอสตัน , บริจาคจากคุณและคุณนายแฟรงค์แกมาคอมเบอร์ ใน ค.ศ. 1930 ที่ซื้อจาก ambroise vollard ในปี 1909 . งานขนาดเล็กมากในน้ำมัน , การวาดภาพ 2010 จัดขึ้นโดย NY Carlsberg glyptotek ในโคเปนเฮเกนภาพวาดที่ถูกปฏิเสธการอนุญาตให้ทำซ้ำภาพพิมพ์หินใน 1869 แต่รุ่น 50 ความประทับใจถูกผลิตในปี 1994 หลังจากการตายของเขา ตัวอย่างของภาพพิมพ์หินที่ถือโดยนครหลวงพิพิธภัณฑ์ศิลปะในนิวยอร์กและคลาร์กสถาบันศิลปะใน Williamstown Massachusetts .

ในรุ่นบอสตัน ทหาร สวมเสื้อผ้าและหมวกของรีพับลิกันเม็กซิกันในรุ่นสุดท้ายใน Mannheim , พวกเขาจะแต่งตัวในชุดแต่งกายฟิลด์ศตวรรษที่ 19 พบกองทัพมากตอนนั้น แต่มนัสการประชดที่พวกเขาอาจเข้าใจผิดได้อย่างง่ายดายสำหรับทหารฝรั่งเศส ในรูปนี้ จ่าใส่หมวกสีแดงชัดเจนคล้ายกับ Napoleon III ( ในความเป็นจริง การได้ผิดพลาด และรัฐประหารเดอเกรซต้อง

)ความอ่อนไหวทางการเมืองทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับภาพวาดที่จัดแสดงภาพวาดของเขาในฝรั่งเศสระหว่างรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แต่รุ่น Mannheim ถูกจัดแสดงในนิวยอร์กและบอสตันใน 1879-80 . ที่ Mannheim และบอสตันรุ่นถูกจัดแสดงด้วยกันที่ร้าน d'automne ในปี 1905รุ่น Mannheim ถูกซื้อโดย kunsthalle Mannheim 1910 หลังจากถูกจัดแสดงที่แยกตัวออกจากเบอร์ลินเมื่อต้นปีนั้น