As was demonstrated in this literat

As was demonstrated in this literature
review, the results of these studies vary but there
are many common findings across studies. For
compression speeds, it appears that audio can
be compressed up to 2.5 times (Ritzhaupt and
Barron, 2008) or 75% when presenting learners
with declarative information. However, when
presenting complex content (i.e., problem
solving or high level knowledge) instruction can only be presented at about 1.5 times or 25%
compression speeds (Pastore, 2009) and should
be in a multimedia environment, otherwise
learning will be inhibited and quickly diminish as
compression increases. For satisfaction, studies
show that learners do not prefer high speeds of
compression. Ritzhaupt, Gomes, and Barron
(2008) found that learners preferred speeds
around 1.4 times (20% compression speed) and
Pastore (in review) found that learners preferred
1.2 times (10%). As a result of these studies, a
series of design principles, discussed in the next
section of this paper, have been developed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามที่แสดงในวรรณคดีนี้ตรวจทาน ผลของการศึกษาเหล่านี้แตกต่างกันแต่มีจะพบมากทั่วไปทั้งการศึกษา สำหรับความเร็วในการบีบอัด ปรากฏว่าได้เสียงสามารถบีบอัดได้ถึง 2.5 เท่า (Ritzhaupt และมุ่ง 2008) หรือ 75% ขณะที่ผู้เรียนนำเสนอข้อมูล declarative อย่างไรก็ตาม เมื่อนำเสนอเนื้อหาที่ซับซ้อน (เช่น ปัญหาแก้ปัญหา หรือสูงระดับความรู้) เท่านั้นสามารถแสดงคำแนะนำที่ประมาณ 1.5 เท่าหรือ 25%อัดความเร็ว (Pastore, 2009) และควรเป็นระบบมัลติมีเดียเรียนรู้จะห้าม และลดลงอย่างรวดเร็วเป็นบีบอัดเพิ่มขึ้น สำหรับความพึงพอใจ การศึกษาแสดงว่า ผู้เรียนไม่ต้องการความเร็วสูงอัด Ritzhaupt ยูโกมีส และมุ่ง(2008) พบว่า ผู้เรียนต้องการความเร็วประมาณ 1.4 เท่า (ความเร็วรวม 20%) และPastore (ใน) พบว่า ผู้เรียนที่ต้องการ1.2 เวลา (10%) จากการศึกษาเหล่านี้ การชุดของหลักการออกแบบ การกล่าวถึงในถัดไปส่วนกระดาษนี้ ได้รับการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่ได้แสดงให้เห็นในวรรณคดีนี้ทบทวนผลการศึกษาเหล่านี้แตกต่างกันไปแต่มีมีผลการวิจัยที่พบจำนวนมากทั่วศึกษา สำหรับความเร็วในการบีบอัดก็ปรากฏว่าเสียงสามารถถูกบีบอัดได้ถึง2.5 เท่า (Ritzhaupt และBarron, 2008) หรือ 75% เมื่อแสดงผู้เรียนมีข้อมูลที่เปิดเผย แต่เมื่อนำเสนอเนื้อหาที่ซับซ้อน(เช่นปัญหาการแก้หรือความรู้ในระดับสูง) การเรียนการสอนเท่านั้นที่สามารถนำเสนอในที่ประมาณ 1.5 เท่าหรือ 25% ความเร็วในการบีบอัด (เร่ 2009) และควรจะอยู่ในสภาพแวดล้อมมัลติมีเดียมิฉะนั้นการเรียนรู้ที่จะได้รับการยับยั้งและรวดเร็วลดลงในขณะที่การเพิ่มขึ้นของการบีบอัด เพื่อความพึงพอใจการศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้เรียนไม่ชอบด้วยความเร็วสูงของการบีบอัด Ritzhaupt, โกเมสและบาร์รอน(2008) พบว่าผู้เรียนที่ต้องการความเร็วรอบ1.4 เท่า (20% ความเร็วในการบีบอัด) และเร่(ในการตรวจสอบ) พบว่าผู้เรียนที่ต้องการ1.2 เท่า (10%) อันเป็นผลมาจากการศึกษาเหล่านี้เป็นชุดของหลักการออกแบบที่กล่าวถึงในต่อไปส่วนหนึ่งของงานวิจัยนี้ได้รับการพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามที่ได้แสดงให้เห็นในการทบทวนวรรณกรรม
นี้ ผลของการศึกษาเหล่านี้แตกต่างกันไป แต่จะพบบ่อยมากในการศึกษา
. สำหรับความเร็วในการบีบอัด
ปรากฏว่าเสียงสามารถ
จะถึง 2.5 เท่า ( และบีบอัด ritzhaupt
บาร์รอน , 2008 ) หรือ 75% เมื่อเสนอผู้เรียน
ข้อมูลการประกาศ . อย่างไรก็ตาม เมื่อ
เสนอเนื้อหาที่ซับซ้อน ( เช่น ปัญหา
การแก้หรือความรู้ระดับสูง ) การเรียนการสอนสามารถนำเสนอที่ 1.5 เท่า หรือ ความเร็วในการบีบอัด 25 %
( แพสทอร์ , 2009 ) และควรอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบ

เรียน มิฉะนั้นจะยับยั้งได้อย่างรวดเร็วและบางเบาเป็น
เพิ่มการบีบอัด ความพึงพอใจ , การศึกษาแสดงให้เห็นว่าผู้เรียนไม่ชอบ

สูงความเร็วในการบีบอัด ritzhaupt โกเมซ และ บารอน
,( 2551 ) พบว่า ผู้เรียนที่ต้องการความเร็ว
ประมาณ 1.4 ครั้ง ( ความเร็วการบีบอัด 20 % ) และ
แพสทอร์ ( ทบทวน ) พบว่า ผู้เรียนที่ต้องการ
1.2 เท่า ( 10 % ) ผลของการศึกษาเหล่านี้เป็นชุดของหลักการออกแบบ

, กล่าวถึงในส่วนถัดไปของบทความนี้ได้ถูกพัฒนาขึ้น