Study on effects of air temperature

Study on effects of air temperature and soil condition on life cycle of terrestrial orchid, Habenaria lindleyana Steud. in deciduous dipterocarp forest at Chiang Mai University Education Centre “Hariphunchai”, Sribuaban Subdistrict, Muang District, Lamphun Province was conducted from November 2010 to November 2012. It was found that the average soil temperature and air temperature in hot dry season were 34.0 ±3.3 and 34.1 ±3.2 °C, respectively, whereas those of rainy season were 29.4 ±2.2 and 29.5 ±2.2 °C and cold dry season were 30.0 ±3.5 and 30.4 ±2.9 °C, respectively. The soil moisture content of the hot dry season, rainy season and cold dry season were 58.5 ±14.1, 77.4 ±8.8 and 52.7 ±13.4%, respectively. The soil pH, organic matter, total N, and available P concentration were similar in all different seasons, but the exchangeable K concentration in hot dry season was 544.11 ±125.12mg/kg which was greater than those of the rainy season and cold dry season (201.11 ±124.13 and 165.78 ±470.39 mg/kg, respectively). The life cycle of H. lindleyana Steud. was observed. Dormancy occurred during cold and hot dry season, late October until March. Plant emerged from soil in late March and continued to grow. New corm was produced in June, flower stalk emerged in late July, and flowers bloomed in September. After that, plant continued to grow until October, then, all parts of above ground dried and went into dormant stage.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาผลของอุณหภูมิและดินอากาศในวงจรชีวิตของภาคพื้นออร์คิด lindleyana Habenaria Steud ในป่าผลัดใบ dipterocarp ที่ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เชียงใหม่ "หริภุญชัย" Sribuaban ตำบล อำเภอเมือง จังหวัดลำพูนได้จัดดำเนินจากพฤศจิกายนพฤศจิกายน 2555 พบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของดินและอุณหภูมิของอากาศในฤดูร้อนแห้งคำ 34.0 ±3.3 34.1 ±3.2 ° C ตามลำดับ ใน ขณะที่ฤดูฝนมี 29.4 ±2.2 29.5 ±2.2 ° C เย็นแล้งนำ 30.0 ±3.5 และ 30.4 ±2.9 ° C ตามลำดับ ความชื้นดินแล้งร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาวแห้งเนื้อหาถูก 58.5 ±14.1, 77.4 ±8.8 และ 52.7 ±13.4% ตามลำดับ PH ดิน อินทรีย์ รวม N และความเข้มข้นของ P มีคล้ายกันในฤดูที่แตกต่างกัน แต่ความเข้มข้น K กำนัลในร้อนแล้งถูก 544.11 ±125.12 มิลลิกรัม/กิโลกรัมซึ่งสูงกว่าในฤดูฝนและฤดูหนาวแห้ง (±124.13 และ 165.78 ±470.39 มก./กก. 201.11 ตามลำดับ) วงจรชีวิตของ H. lindleyana Steud ได้ดำเนินการ Dormancy เกิดขึ้นในช่วงเย็น และร้อนแล้ง ปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม พืชที่เกิดจากดินในปลายเดือนมีนาคม และยังคงเติบโต Corm ใหม่ถูกผลิตในเดือนมิถุนายน ดอกไม้สายปรากฏขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม และดอกไม้บัวบานในเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้น ต่อพืชจะเติบโตจนถึงเดือนตุลาคม นั้น ทุกส่วนของเหนือพื้นดินแห้ง และเดินเข้าไปในขั้นที่ไม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของอุณหภูมิของอากาศและสภาพดินในวงจรชีวิตของกล้วยไม้บก Habenaria lindleyana Steud ในป่าเต็งรังที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ศูนย์การศึกษา "หริภุญชัย" Sribuaban ตำบลอำเภอเมืองจังหวัดลำพูนได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2010 ถึงพฤศจิกายน 2012 พบว่าอุณหภูมิของดินเฉลี่ยและอุณหภูมิของอากาศในช่วงฤดู​​ร้อนแห้ง 34.0 ± 3.3 และ 34.1 ± 3.2 ° C ตามลำดับในขณะที่ผู้ที่ฤดูฝนได้ 29.4 ± 2.2 และ 29.5 ± 2.2 องศาเซลเซียสและฤดูหนาวแห้ง 30.0 ± 3.5 และ 30.4 ± 2.9 ° C ตามลำดับ ความชื้นของดินร้อนฤดูแล้งฤดูฝนและฤดูหนาวแห้ง 58.5 ± 14.1, 77.4 ± 8.8 และ 52.7 ± 13.4% ตามลำดับ ค่า pH ของดินอินทรีย์ไนโตรเจนทั้งหมดและบริการเข้มข้น P มีความคล้ายคลึงกันในฤดูกาลที่แตกต่างกัน แต่ความเข้มข้นของ K แลกเปลี่ยนในช่วงฤดู​​ร้อนแห้ง 544.11 ± 125.12mg / กก. ซึ่งเป็นมากขึ้นกว่าฤดูฝนและฤดูหนาวแห้ง (201.11 ± 124.13 และ 165.78 ± 470.39 มิลลิกรัม / กิโลกรัมตามลำดับ) วงจรชีวิตของเอช lindleyana Steud เป็นที่สังเกต การพักตัวเกิดขึ้นในช่วงฤดู​​แล้งที่หนาวเย็นและร้อนช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคม พืชโผล่ออกมาจากดินในช่วงปลายเดือนมีนาคมและยังคงเติบโต หัวใหม่ที่ผลิตในเดือนมิถุนายนก้านดอกโผล่ออกมาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมและดอกไม้บานในเดือนกันยายน หลังจากนั้นโรงงานยังคงเติบโตจนถึงเดือนตุลาคมแล้วทุกส่วนของบนพื้นดินแห้งและเดินเข้าไปในขั้นตอนอยู่เฉยๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาผลของอุณหภูมิอากาศ และสภาพดินในวงจรชีวิตของบกกล้วยไม้ Habenaria lindleyana steud . ในป่าเต็งรังที่ ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่หริภุญไชย " sribuaban ตำบลอำเภอเมือง จังหวัดลำพูนได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2553 ถึงพฤศจิกายน 2555พบว่าค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิดิน และอุณหภูมิของอากาศในฤดูร้อน± 3.3 และร้อยละ 34.1 ± 3.2 ° C ตามลำดับ ส่วนในฤดูฝน คือ ± 2.2 และ 29.5 ± 2.2 ° C และเย็นฤดูแล้งมีเห± 3.5 และพื้นที่± 2.9 ° C ตามลำดับ ดิน ความชื้นของฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูเย็นมี 58.5 ± 14.1 , 77.4 ± 8.8 และ 52.7 ± 13.4 %ตามลำดับ ดิน , สารอินทรีย์ ไนโตรเจน และฟอสฟอรัสความเข้มข้นที่คล้ายกันในฤดูกาลต่าง ๆทั้งหมด แต่ความเข้มข้นของด่างในฤดูร้อน 544.11 ± 125.12mg/kg ซึ่งสูงกว่าในฤดูฝน และฤดูแล้ง ( 201.11 เย็นและ± 124.13 165.78 ± 470.39 มิลลิกรัม / กิโลกรัม ตามลำดับ วงจรชีวิตของ H . lindleyana steud . คือสังเกตการพักตัวที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นและร้อนแล้งช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงมีนาคม พืชโผล่จากดินในช่วงปลายเดือนมีนาคม และยังคงเติบโต ใหม่หัวถูกผลิตในเดือนมิถุนายน ก้านดอกโผล่ออกมาในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม และดอกไม้บานในเดือนกันยายน หลังจากนั้นโรงงานยังคงเติบโตจนถึงเดือนตุลาคม แล้ว ทุกส่วนของเหนือพื้นดินแห้ง และเข้าสู่เวทีเคลื่อน