From the anthropological point of v

From the anthropological point of view, carnival is a reversal ritual, in which social roles are reversed and norms about desired behavior are suspended.[15] Winter was thought of as the reign of the winter spirits that were to be driven out for the summer to return. Carnival can thus be regarded as a rite of passage from darkness to light, from winter to summer: a fertility celebration, the first spring festival of the new year.[16]

Traditionally, a carnival feast was the last opportunity to eat well before the time of food shortage at the end of the winter during which one was limited to the minimum necessary. On what nowadays is called vastenavond (the days before fasting), all the remaining winter stores of lard, butter, and meat which were left would be eaten, for it would soon start to rot and decay. The selected livestock had in fact already been slaughtered in November and the meat would be no longer preservable. All the food that had survived the winter had to be eaten to assure that everyone was fed enough to survive until the coming spring would provide new food sources.[17]

Several Germanic tribes celebrated the returning of the daylight. A predominant deity was during this jubilee driven around in a noisy procession on a ship on wheels.[18] The winter would be driven out, to make sure that fertility could return in spring.[15] A central figure was possibly the fertility goddess Nerthus. Also, there are some indications that the effigy of Nerthus[19] or Freyr was placed on a ship with wheels and accompanied by a procession of people in animal disguise and men in women's clothes.[17][20] Aboard the ship a marriage would be consummated as a fertility ritual.[21][22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากมุมของมานุษยวิทยาของจุด งานรื่นเริงมีพิธีกรรมกลับ มีกลับบทบาททางสังคม และบรรทัดฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ต้องการจะหยุด [15] ฤดูหนาวถูกคิดว่า เป็นวิญญาณของฤดูหนาวที่ถูกผลักดันออกในฤดูร้อนกลับ รัชกาลที่ คาร์นิวัลสามารถจึงถือเป็นทางเดินสำหรับพิธีจากความมืดของแสง ฤดูหนาวถึงฤดูร้อน: ฤดูใบไม้ผลิเทศกาลแรกของปีใหม่ การเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ [16]ประเพณี งานฉลองงานรื่นเริงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะกินก่อนเวลาของการขาดแคลนอาหารที่สิ้นสุดของฤดูหนาวซึ่งถูกจำกัดขั้นต่ำที่จำเป็น ในปัจจุบันเรียกว่า vastenavond (วันก่อนถือศีลอด), ทั้งหมดที่จะรับประทานเหลือฤดูหนาวร้านค้าน้ำมันหมู เนย และเนื้อสัตว์ที่ถูกทิ้ง มันจะไม่นานเริ่มเน่า และสลายตัว ปศุสัตว์ที่เลือกได้ในความเป็นจริงแล้วถูกฆ่าในเดือนพฤศจิกายน และเนื้อจะไม่ preservable ทั้งหมดอาหารที่รอดชีวิตจากฤดูหนาวมีการรับประทานเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนถูกเลี้ยงพอเอาตัวรอดจนกว่าฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมาจะให้แหล่งอาหารใหม่ [17]เผ่าหลายตระกูลเฉลิมฉลองคืนเวลากลางวัน เทพเด่นเป็นช่วงภิเษกนี้ขับรอบในขบวนเสียงดังบนเรือล้อ [18] ฤดูหนาวจะต้องขับออก เพื่อให้แน่ใจว่า สามารถคืนความอุดมสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ผลิ [15]กัลถูกอาจเป็นเทพธิดาแห่งความอุดมสมบูรณ์ Nerthus นอกจากนี้ มีบางอย่างบ่งชี้ว่า เท็ม effigy Nerthus [19] หรือ Freyr ไว้บนเรือที่มีล้อ และมาพร้อมกับขบวนของท่านเหมือนสัตว์และคนในเสื้อผ้าผู้หญิง [17] [20] บนเรือ จะ consummated การแต่งงานเป็นพิธีกรรมความอุดมสมบูรณ์ [21] [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากจุดมานุษยวิทยาในมุมมองของงานรื่นเริงเป็นพิธีกรรมการกลับรายการซึ่งในบทบาททางสังคมจะกลับและบรรทัดฐานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ต้องการถูกระงับ. [15] ฤดูหนาวถูกคิดว่าเป็นรัชสมัยของสุราในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะขับรถออกไปสำหรับฤดูร้อนที่จะส่งกลับ เทศกาลจึงสามารถถือได้ว่าเป็นพิธีของทางจากความมืดกับแสงจากฤดูหนาวฤดูร้อน: a. การเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ของเทศกาลฤดูใบไม้ผลิแรกของปีใหม่ [16]

ตามเนื้อผ้างานเลี้ยงงานรื่นเริงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะกินให้ดีก่อน เวลาของการขาดแคลนอาหารในตอนท้ายของฤดูหนาวในช่วงที่หนึ่งที่ถูก จำกัด ให้น้อยที่สุดที่จำเป็น เกี่ยวกับสิ่งที่ในปัจจุบันเรียกว่า vastenavond (วันก่อนที่การถือศีลอด) ทั้งหมดที่เหลือร้านค้าช่วงฤดูหนาวของน้ำมันหมูเนยและเนื้อสัตว์ที่ถูกทิ้งไว้จะกินให้มันเร็ว ๆ นี้จะเริ่มเน่าและการเสื่อมสลาย ปศุสัตว์เลือกในความเป็นจริงแล้วถูกฆ่าในเดือนพฤศจิกายนและเนื้อสัตว์ก็จะไม่มีอีกต่อไป preservable อาหารทุกชนิดที่มีชีวิตอยู่ในช่วงฤดูหนาวจะต้องมีการกินเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนเป็นอาหารพอที่จะอยู่รอดได้จนถึงฤดูใบไม้ผลิมาจะให้แหล่งอาหารใหม่. [17]

ชนเผ่าดั้งเดิมหลายเฉลิมฉลองการกลับมาของเวลากลางวัน เทพเด่นเป็นช่วงวโรกาสนี้ขับเคลื่อนไปรอบ ๆ ในขบวนที่มีเสียงดังบนเรือบนล้อ. [18] ฤดูหนาวจะถูกผลักดันออกมาเพื่อให้แน่ใจว่าจะกลับมาอุดมสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ผลิ. [15] ตัวตั้งตัวตีอาจจะเป็น Nerthus ความอุดมสมบูรณ์ของเทพธิดา นอกจากนี้ยังมีข้อบ่งชี้บางอย่างที่หุ่น Nerthus [19] หรือ Freyr ถูกวางลงบนเรือมีล้อและพร้อมด้วยขบวนของผู้คนในการปลอมตัวสัตว์และคนในเสื้อผ้าของผู้หญิง. [17] [20] เรือการแต่งงานที่สมบูรณ์จะเป็นพิธีกรรมความอุดมสมบูรณ์. [21] [22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากจุดพื้นฐานของมุมมอง , คาร์นิวัลจะย้อนกลับพิธีกรรมซึ่งในบทบาททางสังคมจะกลับและบรรทัดฐานพฤติกรรมที่ต้องการจะระงับ . [ 15 ] ฤดูหนาวคือคิดเป็นรัชสมัยของฤดูหนาววิญญาณที่ถูกขับไล่ออกสำหรับฤดูร้อนที่จะกลับมา คาร์นิวัล จึงถือว่าเป็นเส้นทางจากความมืดกับแสง จากฤดูหนาวไปยังฤดูร้อน : ความอุดมสมบูรณ์ของการเฉลิมฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิแรกของปีใหม่ [ 16 ]ตามประเพณี เทศกาล เทศกาลเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะกินก่อน เวลาที่ขาดแคลนอาหารเมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว ระหว่างที่ถูก จำกัด ให้น้อยที่สุดที่จำเป็น ในสิ่งที่ปัจจุบันเรียกว่า vastenavond ( ก่อนวันถือศีลอด ) ที่เหลือทั้งหมดของฤดูหนาวร้านค้า น้ำมันหมู เนย และเนื้อซึ่งเหลือจะกิน มันก็จะเริ่มเน่าและการสลายตัว ปศุสัตว์ที่เลือกได้ในความเป็นจริงถูกฆ่าในเดือนพฤศจิกายน และเนื้อจะไม่ preservable . อาหารทั้งหมดที่รอดจากฤดูหนาวต้องกินเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนที่ได้รับเพียงพอที่จะอยู่รอดจนถึงฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึงจะให้แหล่งอาหารใหม่ [ 17 ]หลายชนเผ่าดั้งเดิม ฉลองการกลับมาของแสงแดด เทพโดด ตอนนี้เสียงขับรอบในขบวนดังบนเรือ บนล้อ [ 18 ] ฤดูหนาวจะถูกขับออกมา เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถคืนความอุดมสมบูรณ์ในฤดูใบไม้ผลิ [ 15 ] รูปกลางอาจเทพธิดาความอุดมสมบูรณ์เนียร์ธุส . นอกจากนี้ มีข้อบ่งชี้บางอย่างว่า หุ่นของเนียร์ธุส [ 19 ] หรือ เฟรเยอร์ถูกวางไว้บนเรือล้อ พร้อมด้วยขบวนของคน สัตว์ และคน ปลอมตัวในเสื้อผ้าของผู้หญิง [ 17 ] [ 20 ] บนเรือการแต่งงานจะบรรลุเป็นพิธีกรรมความอุดมสมบูรณ์ [ 21 ] [ 22 ]