Halloween is the season for little

Halloween is the season for little ghosts and goblins to take to the streets, asking for candy and scaring one another silly. Spooky stories are told around fires, scary movies appear in theaters and pumpkins are expertly (and not-so-expertly) carved into jack-o'-lanterns.

Amid all the commercialism, haunted houses and bogus warnings about razors in apples, the origins of Halloween are often overlooked. Yet Halloween is much more than just costumes and candy; in fact, the holiday has a rich and interesting history.

Samhain
Halloween, also known as All Hallows' Eve, can be traced back about 2,000 years to a pre-Christian Celtic festival held around Nov. 1 called Samhain (pronounced "sah-win"), which means "summer's end" in Gaelic, according to the Indo-European Etymological Dictionaries. [Related: 13 Halloween Superstitions & Traditions Explained]

Because ancient records are sparse and fragmentary, the exact nature of Samhain is not fully understood, but it was an annual communal meeting at the end of the harvest year, a time to gather resources for the winter months and bring animals back from the pastures. Samhain is also thought to have been a time of communing with the dead, according to folklorist John Santino.

"There was a belief that it was a day when spirits of the dead would cross over into the other world," Santino told Live Science. Such moments of transition in the year have always been thought to be special and supernatural, he added.

Halloween provides a safe way to play with the concept of death, Santino said. People dress up as the living dead, and fake gravestones adorn front lawns — activities that wouldn't be tolerated at other times of the year, he said.

But according to Nicholas Rogers, a history professor at York University in Toronto and author of "Halloween: From Pagan Ritual to Party Night" (Oxford University Press, 2003), "there is no hard evidence that Samhain was specifically devoted to the dead or to ancestor worship.

"According to the ancient sagas, Samhain was the time when tribal peoples paid tribute to their conquerors and when the sidh [ancient mounds] might reveal the magnificent palaces of the gods of the underworld," Rogers wrote. Samhain was less about death or evil than about the changing of seasons and preparing for the dormancy (and rebirth) of nature as summer turned to winter, he said.

Though a direct connection between Halloween and Samhain has never been proven, many scholars believe that because All Saints' Day (or All Hallows' Mass, celebrated Nov. 1) and Samhain, are so close together on the calendar, they influenced each other and later combined into the celebration now called Halloween.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฮาโลวีนที่หน้าน้อยผีและผีมังกรเพื่อนำไปใช้ถนน ขอลูกอม และ scaring กันโง่ เรื่องราวเหมือนผีจะบอกสถานไฟ หนังน่ากลัวปรากฏในโรงภาพยนตร์ และฟักทองอยู่อย่างกลมกลืน (และไม่เพื่ออย่างกลมกลืนไป) แกะสลักเป็น jack-o'-lanternsท่ามกลาง และทั้งหมดพบ บ้านบ้านผีปลอมคำเตือนเกี่ยวกับเหมาะสมในแอปเปิ้ล กำเนิดของฮาโลวีนมักจะมองข้าม ยัง ฮาโลวีนเป็นมากกว่าเพียงแค่เครื่องแต่งกายและลูกอม ในความเป็นจริง วันหยุดมีประวัติน่าสนใจ และหลากหลายอย่างไร Samhainฮาโลวีน ทั้งหมด Hallows' อีฟ สามารถติดตามกลับมาประมาณ 2000 ปีก่อนคริสต์เคลติกเทศกาลจัดขึ้นรอบ ๆ 1 พฤศจิกายนเรียกว่าอย่างไร Samhain (ออกเสียง "ชนะ sah"), ซึ่งหมายถึง "ของฤดูร้อนสิ้นสุด" ในสกเซลท์สาขาหนึ่ง ตามพจนานุกรม Indo-European Etymological [ที่เกี่ยวข้อง: ฮาโลวีน 13 Superstitions และประเพณีอธิบาย]เนื่องจากระเบียนโบราณมีบ่อ และ fragmentary ธรรมชาติแน่นอนของอย่างไร Samhain ไม่เป็นอย่างที่เข้าใจ แต่มันเป็นการประชุมชุมชนประจำปีที่สิ้นปีการเก็บเกี่ยว เวลาในการรวบรวมทรัพยากรสำหรับเดือนหนาว และนำสัตว์กลับมาจาก pastures นอกจากนี้ยังได้คิดได้มี ช่วงเวลาของ communing กับคนตาย อย่างไร Samhain ตาม folklorist Santino จอห์น"มีความเชื่อที่ว่า เป็นวันที่เมื่อวิญญาณของคนตายจะข้ามไปยังโลกอื่น Santino บอกวิทยาศาสตร์อยู่ การคิดเช่นช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงในปีพิเศษ และเหนือธรรมชาติเสมอ เขาเพิ่มฮาโลวีนให้ปลอดภัยวิธีเล่นกับแนวคิดของตาย Santino กล่าว คนแต่งเป็นคนตายนั่งเล่น และ gravestones ปลอมประดับสนามหญ้าด้านหน้าคือกิจกรรมที่ไม่มีอภัยโทษในเวลาอื่น ๆ ของปี เขากล่าวแต่นิโคลัสโร เจอร์ส อาจารย์ประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กโตรอนโตและผู้เขียนของ "ฮาโลวีน:จากพุกามพิธีกรรมเพื่อพรรคคืน" (ออกซ์ฟอร์ดมหาวิทยาลัยกด 2003), "ไม่ยากว่า อย่างไร Samhain มีเฉพาะทุ่มเทตาย หรือบูชาบรรพบุรุษกัน "ตาม sagas โบราณ อย่างไร Samhain เป็นครั้งเมื่อชนชาวจ่ายส่วย การพิชิตของพวกเขา และ เมื่อ sidh [โบราณ mounds] อาจเหมาะกับพระราชวังแห่งเทพเจ้าของเขา โรเจอร์สเขียน อย่างไร Samhain ไม่น้อยเกี่ยวกับชีวิตหรือชั่วกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและเตรียมสำหรับ dormancy (เกิดใหม่) ธรรมชาติฤดูร้อนกลายเป็นหนาว เขากล่าวว่าแต่ไม่เคยถูกพิสูจน์ การเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างฮาโลวีนอย่างไร Samhain นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเนื่องจากวันของนักบุญทั้งหมด (หรือทั้งหมด Hallows' มวล เฉลิมฉลองวันที่ 1 พฤศจิกายน) และอย่างไร Samhain ดังนั้นชิดกันบนปฏิทิน พวกเขามีอิทธิพลต่อกัน และในภายหลังรวมเป็นการเฉลิมฉลองที่ตอนนี้ เรียกว่าฮาโลวีน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันฮาโลวีนเป็นฤดูกาลผีน้อยและก๊อบลินที่จะนำไปใช้ถนนขอขนมและกลัวหนึ่งโง่อีก เรื่องผีจะบอกรอบไฟไหม้ภาพยนตร์ที่น่ากลัวปรากฏอยู่ในโรงละครและฟักทองที่มีความชำนาญ (และไม่ให้เชี่ยวชาญ) แกะสลักลงในแบบ jack-o'-โคมไฟ. ท่ามกลางพ่อค้าที่บ้านผีสิงและคำเตือนเกี่ยวกับการปลอมมีดโกนในแอปเปิ้ลต้นกำเนิด ของวันฮาโลวีนมักจะมองข้าม แต่วันฮาโลวีนเป็นมากกว่าเพียงแค่เครื่องแต่งกายและลูกอม; ในความเป็นจริงวันหยุดมีประวัติศาสตร์อันยาวนานและน่าสนใจ. Samhain ฮาโลวีนหรือที่เรียกว่าอีฟทั้งหมด Hallows 'สามารถตรวจสอบกลับประมาณ 2,000 ปีที่ผ่านมาเทศกาลเซลติกก่อนคริสเตียนจัดขึ้นทั่ว 1 พฤศจิกายนที่เรียกว่า Samhain (ออกเสียง "เซ็กซี่ชนะ ") ซึ่งหมายถึง" ปลายฤดูร้อน "ในสาขาตามที่ยูโรเปียนนิรุกติศาสตร์พจนานุกรม [ที่เกี่ยวข้อง: 13 ฮัลโลวีโชคลางและประเพณีอธิบาย] เพราะบันทึกโบราณเบาบางและเป็นชิ้นเป็นอันธรรมชาติที่แท้จริงของ Samhain ยังไม่เข้าใจ แต่มันก็เป็นที่ประชุมของชุมชนประจำปีในช่วงปลายปีการเก็บเกี่ยวซึ่งเป็นเวลาที่จะรวบรวมทรัพยากรสำหรับ ฤดูหนาวและนำสัตว์กลับมาจากทุ่งหญ้า Samhain ก็คิดว่าจะได้รับช่วงเวลาของการ communing กับคนตายตามที่จอห์น folklorist ตือ. "มีความเชื่อที่ว่ามันเป็นวันที่เมื่อวิญญาณของคนตายจะข้ามไปสู่โลกอื่น ๆ คือ" ตือบอกวิทยาศาสตร์สด ช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในปีที่ได้รับเสมอความคิดที่จะพิเศษและเหนือธรรมชาติเขาเพิ่ม. ฮัลโลวีให้เป็นวิธีที่ปลอดภัยที่จะเล่นกับแนวคิดของการตายตือกล่าวว่า คนแต่งตัวเป็นชีวิตที่ตายแล้วและชาวบ้านปลอมประดับสนามหญ้าด้านหน้า - กิจกรรมที่จะไม่ได้รับการยอมรับในเวลาอื่น ๆ ของปีเขากล่าวว่า. แต่ตามที่นิโคลัสโรเจอร์สอาจารย์ประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กในโตรอนโตและผู้เขียน " ฮาโลวีน:. จากพุกามพิธีกรรมคืนปาร์ตี้ "(Oxford University Press, 2003)," ไม่มีหลักฐานยากว่า Samhain ได้อุทิศเฉพาะเพื่อคนตายหรือบรรพบุรุษนมัสการ"ตามตำนานโบราณ Samhain เป็นช่วงเวลาที่ผู้คนชนเผ่า จ่ายส่วยให้ชนะของพวกเขาและเมื่อ sidh [การกองโบราณ] อาจเปิดเผยพระราชวังอันงดงามของพระของนรกที่ "โรเจอร์สเขียน. Samhain น้อยเกี่ยวกับความตายหรือความชั่วร้ายกว่าการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและเตรียมความพร้อมสำหรับการพักตัว (และการเกิดใหม่ ) ของธรรมชาติในช่วงฤดูร้อนเป็นฤดูหนาวที่หันไปเขากล่าวว่า. แม้ว่าการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างวันฮาโลวีนและ Samhain ไม่เคยได้รับการพิสูจน์แล้วว่านักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเป็นเพราะเซนต์สทุกวัน (หรือทั้งหมด Hallows 'มวลการเฉลิมฉลองที่ 1 พ.ย. ) และ Samhain เป็น เพื่อให้ใกล้กันในปฏิทินของพวกเขามีอิทธิพลต่อกันและกันและทำงานร่วมกันมาเป็นการเฉลิมฉลองวันฮาโลวีนนี้เรียกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันฮาโลวีนเป็นฤดูผีน้อยผีใช้ถนน ขอขนม และทำให้หนึ่งโง่อีก เรื่องราวของผีที่บอกรอบกองไฟ หนังสยองขวัญที่ปรากฏในโรงภาพยนตร์ และฟักทองเป็นมืออาชีพ ( และไม่ค่อยเชี่ยวชาญ ) แกะสลักเป็นโคมฟักทอง

ท่ามกลางการผีสิง , บ้านและคำเตือนปลอมเกี่ยวกับมีดโกนในแอปเปิ้ลต้นกำเนิดของฮาโลวีนที่มักจะมองข้าม ยังเป็นมากกว่าแค่ฮาโลวีนเครื่องแต่งกายและลูกกวาด ; ในความเป็นจริง , วันหยุดที่อุดมไปด้วยมีประวัติศาสตร์น่าสนใจ

Samhain
ฮาโลวีน , หรือที่เรียกว่าวันฮาโลวีนอีฟสามารถ traced กลับประมาณ 2000 ปี ก่อนคริสตเซลติกเทศกาลจัดขึ้นประมาณวันที่ 1 ที่เรียกว่า Samhain ( ออกเสียง " ซาชนะ " ) , ซึ่งหมายความว่า " ฤดูร้อนสิ้นสุด " ในภาษาเกลิค ,ตามไปอินโดยุโรปนิรุกติศาสตร์พจนานุกรม [ ที่เกี่ยวข้อง : 13 ฮาโลวีน superstitions &ประเพณีอธิบาย ]

เพราะโบราณและบันทึกหร็อมแหร็มกระท่อนกระแท่น ธรรมชาติที่แน่นอนของ Samhain จะไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ แต่เป็นการประชุมประจำปีของชุมชนที่ส่วนท้ายของการเก็บเกี่ยวปี เวลาที่จะรวบรวมทรัพยากรสำหรับฤดูหนาวและพาสัตว์กลับจากทุ่งหญ้าใหม่ก็คิดว่าจะได้มีเวลาติดต่อกับความตาย ตาม folklorist จอห์นซานติโน่

" มีความเชื่อว่า มันเป็นวันที่วิญญาณของคนตายจะข้ามไปโลกอื่น ๆ " ซานติโน่บอกวิทยาศาสตร์ชีวิต ช่วงเวลาดังกล่าวในการเปลี่ยนปีได้เสมอคิดว่า เป็น พิเศษ และเหนือธรรมชาติ , เขาเพิ่ม .

ฮาโลวีนมีวิธีการที่ปลอดภัยในการเล่นกับแนวคิดของความตาย ซานติโน่ กล่าว คนแต่งเป็นคนตาย และบนหลุมฝังศพปลอมประดับด้านหน้าสนามหญ้า - กิจกรรมที่ไม่ได้รับการยอมรับในเวลาอื่น ๆของปี , เขากล่าวว่า .

แต่จากนิโคลัส โรเจอร์ ประวัติอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์กในโตรอนโตและผู้เขียนของ " ฮาโลวีน :จากพิธีกรรมพุกามไปงานเลี้ยงกลางคืน " ( กด Oxford University , 2003 ) " ไม่มีหลักฐานว่า Samhain คือโดยเฉพาะอุทิศคนตาย หรือเพื่อบูชาบรรพบุรุษ

" สอดคล้องกับตำนานโบราณ Samhain คือตอนที่ชนเผ่าจ่ายส่วยให้ชนะของพวกเขาและเมื่อ Sidh [ โบราณกอง ] อาจเปิดเผยพระราชวังอันงดงามของเทพเจ้าแห่งยมโลก " Rogers เขียนพฤศจิกายนน้อยเกี่ยวกับความตายหรือชั่วกว่าเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลและเตรียมการ ( และใหม่ ) ของธรรมชาติเช่นฤดูร้อนกลายเป็นฤดูหนาว , เขากล่าวว่า .

แม้ว่าการเชื่อมต่อโดยตรงระหว่างฮาโลวีนและ Samhain ไม่เคยได้รับการพิสูจน์ นักวิชาการหลายคนเชื่อว่าเพราะวันออลเซนต์ ( หรือทั้งหมด Hallows ' มวล ฉลองวันที่ 1 ) และ Samhain ใกล้ชิดกันบนปฏิทินพวกเขามีอิทธิพลต่อกันและต่อมารวมกันเป็นฉลองตอนนี้เรียกว่าวันฮาโลวีน