Bindhu and Jaya (2008) deal with th

Bindhu and Jaya (2008) deal with the non-conventional
reinforcement detailing in the beam-column joint by providing
inclined bars on the two faces of the joint core,
which leads to reduction in compaction and construction
difficulties due to congestion of reinforcement in the joint
region. Bindhu and Jaya (2010) reported that confinement
of core concrete without congestion of reinforcement in
joints by providing additional cross bracing bars provided
on two faces of joint as confining reinforcements. Perumal
and Thanukumari (2010) reported that conventional concrete
loses its tensile resistance after formation of cracks;
fibre concrete can sustain a portion of its resistance following
cracking to resist more cycles of loading. Malathy
et al. (2007) investigated the effect of glass fibre on
restrained shrinkage cracking in concrete, especially highperformance
concrete (HPC) because plastic shrinkage and
drying shrinkage were the shortcomings of HPC with those
additives like silica fume, metakoaline, fly ash and superplasticizer.
The objective of this paper is to study the
behaviour of exterior beam-column joint with and without
fibre-reinforced HPC and the reinforcement designed as per
both IS 456-(2000) and IS 13920-(1993) with cross-diagonal
bars at the joint were tested under monotonic loading

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Bindhu และจายา (2008) เรื่องที่ไม่ธรรมดารายละเอียดเหล็กเสริมในร่วมคานคอลัมน์ โดยให้หัวแถบหน้าสองแกนร่วมซึ่งนำไปสู่การลดกระชับข้อมูลและก่อสร้างความยากลำบากเนื่องจากการแออัดของเหล็กเสริมในข้อต่อภูมิภาคที่ Bindhu และจายา (2010) รายงานเข้าที่แกนไม่แออัดของเหล็กเสริมในคอนกรีตบาร์ซาวน่าเพื่อการออกให้ข้ามรอยต่อให้เพิ่มเติมบนหน้าของร่วมเป็น confining เพิ่มกำลัง Perumalและ Thanukumari (2010) รายงานว่า คอนกรีตทั่วไปการสูญเสียของความต้านทานแรงดึงหลังจากการก่อตัวของรอยแตกเส้นใยคอนกรีตสามารถรักษาสัดส่วนของความต้านทานต่อถอดเพื่อต่อต้านวงจรของโหลดเพิ่มเติม Malathyal. ร้อยเอ็ด (2007) ตรวจสอบผลของเส้นใยแก้วในยับยั้งการหดตัวแตกในคอนกรีต highperformance โดยเฉพาะคอนกรีต (HPC) เนื่องจากการหดตัวของพลาสติก และการอบแห้งการหดตัวมีการแสดงของ HPC กับวัตถุเจือปนเช่นซิลิก้าโตนด metakoaline เถ้า และ superplasticizerวัตถุประสงค์ของเอกสารนี้คือการ ศึกษาพฤติกรรมของคอลัมน์แสงภายนอกร่วมด้วย และไม่มีHPC เส้นใยเสริมแรงและเสริมสร้างการออกแบบตามIS 456-(2000) และ IS 13920-(1993) กับขนเส้นทแยงมุมบาร์ที่ร่วมการทดสอบภายใต้การโหลด monotonic

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Bindhu และญา (2008) ข้อตกลงกับที่ไม่ธรรมดาเสริมรายละเอียดในระหว่างคานกับเสาโดยการให้บาร์แนวโน้มในสองใบหน้าของแกนร่วมซึ่งนำไปสู่การลดลงของการบดอัดและการก่อสร้างยากลำบากเนื่องจากความแออัดของการเสริมแรงในกิจการร่วมค้าภูมิภาค Bindhu และญา (2010) รายงานว่าการคุมขังของคอนกรีตหลักโดยไม่ต้องแออัดของการเสริมแรงในข้อต่อโดยการให้บาร์สดชื่นข้ามเพิ่มเติมให้กับสองใบหน้าของร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังเป็นกำลังเสริม เปรูมาลและ Thanukumari (2010) รายงานว่าการชุมนุมคอนกรีตสูญเสียความต้านทานแรงดึงหลังการก่อตัวของรอยแตก; เส้นใยที่เป็นรูปธรรมสามารถรักษาส่วนหนึ่งของความต้านทานต่อไปแตกที่จะต่อต้านวงจรมากขึ้นของการโหลด Malathy et al, (2007) การตรวจสอบผลกระทบของใยแก้วในการหดตัวยับยั้งการแตกร้าวในคอนกรีตhighperformance โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นรูปธรรม(HPC) เนื่องจากการหดตัวของพลาสติกและการหดตัวของการอบแห้งเป็นข้อบกพร่องของHPC กับบรรดาสารเติมแต่งเช่นซิลิกาฟูม, metakoaline เถ้าลอยและสารลดน้ำพิเศษ. วัตถุประสงค์ของ งานวิจัยนี้คือการศึกษาพฤติกรรมของภายนอกระหว่างคานกับเสาที่มีและไม่มีHPC ไฟเบอร์เสริมแรงและการออกแบบตามทั้งสองเป็น456- (2000) และเป็น 13920- (1993) ที่มีการข้ามเส้นทแยงมุมบาร์ที่ร่วมกันได้มีการทดสอบภายใต้การโหลดเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ bindhu จายา ( 2008 ) จัดการกับไม่ปกติ
เสริมรายละเอียดใน เสา คาน ร่วมด้วยการให้
เอียงแถบบนใบหน้าทั้งสองของ แกนร่วม ซึ่งจะนำไปสู่การลด

ถมและสร้างความยากลำบากเนื่องจากความแออัดของการเสริมแรงในภูมิภาคร่วมกัน

และ bindhu จายา ( 2553 ) รายงานว่า พันธนาการ
ของแกนคอนกรีตโดยไม่ติดขัดของเสริมใน