Middle East respiratory syndrome (M

Middle East respiratory syndrome (MERS), also known as camel flu,[1] is a viral respiratory infection caused by the MERS-coronavirus (MERS-CoV).[2] Symptoms may range from mild to severe.[3] They include fever, cough, diarrhea, and shortness of breath.[2] Disease is typically more severe in those with other health problems.[3]

MERS-CoV is a betacoronavirus derived from bats.[2] Camels have been shown to have antibodies to MERS-CoV but the exact source of infection in camels has not been identified. Camels are believed to be involved in its spread to humans but it is unclear how.[3] Spread between humans typically requires close contact with an infected person.[2] It spread is uncommon outside of hospitals.[3] Thus its risk to the globally population is deemed to be currently fairly low.[3]

As of 2015 there is no specific vaccine or treatment for the disease.[2][3] However, a number of antiviral medications are currently being studied.[3] The World Health Organization recommends that those who come in contact with camels wash their hands frequently and do not touch sick camels.[2] They also recommend that camel products be appropriately cooked.[2] Among those who are infected treatments that help with the symptoms may be given.[2]

Just over 1000 cases of the disease have been reported as of May 2015.[3] About 40% of those who become infected die from the disease.[3] The first identified case occurred in 2012 in Saudi Arabia and most cases have occurred in the Arabian Peninsula.[2][3] A strain of MERS-CoV known as HCoV-EMC/2012 found in the first infected person in London in 2012 was found to have a 100% match to Egyptian tomb bats. A large outbreak occurred in the Republic of Korea in 2015.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไข้หวัดทางเดินหายใจกลุ่มอาการ (MERS), เรียกอีกอย่างว่าอูฐตะวัน, [1] เป็นการติดเชื้อทางเดินหายใจไวรัสสาเหตุ MERS-coronavirus (MERS-CoV) [2] อาการอาจช่วงจากอ่อนถึงรุนแรง [3] จะมีไข้ ไอ ท้องเสีย และหายใจไม่ออกหายใจ [2] โรคมักจะรุนแรงมากขึ้นในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ [3]MERS CoV เป็น betacoronavirus ที่มาจากค้างคาว [2] มีการแสดงอูฐจะแอนตี้การ MERS CoV แต่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของการติดเชื้อในอูฐแน่นอน อูฐจะเชื่อว่าการมีส่วนร่วมในการแพร่กระจายสู่มนุษย์ แต่เป็นที่ชัดเจนว่า [3] การแพร่กระจายระหว่างมนุษย์โดยปกติต้องติดต่อใกล้ชิดกับผู้ [2] มันกระจายไม่ใช่ภายนอกของโรงพยาบาล [3] ดังนั้นความเสี่ยงโลกจะถือว่าประชากรมีอยู่ค่อนข้างต่ำ [3]ณ 2015 มีไม่เฉพาะวัคซีนหรือการรักษาโรค [2] [3] อย่างไรก็ตาม จำนวนยาต้านไวรัสได้ในขณะนี้กำลังศึกษาไว้ [3] องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ผู้ที่มาติดต่อกับอูฐล้างมือบ่อย ๆ และไม่สัมผัสอูฐป่วย [2] พวกเขายังแนะนำว่า อูฐผลิตภัณฑ์ได้อย่างเหมาะสมทั้งด้วย [2] ระหว่างที่ รักษาติดเชื้อที่ มีอาการอาจได้รับ [2]มีการรายงานโรคมากกว่า 1000 คดี ณ 2015 พฤษภาคม [3] ประมาณ 40% ของผู้ที่กลายเป็นติดเชื้อตายจากโรค [3] ระบุกรณีแรกเกิดขึ้นในปี 2012 ในซาอุดีอาระเบีย และส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ [2] [3] ต้องใช้ของที่เรียกว่า HCoV-EMC/2012 พบในผู้ที่ติดเชื้อครั้งแรกในลอนดอนในปี 2012 CoV MERS พบได้ตรง 100% ตัวค้างคาวสุสานอียิปต์ ระบาดใหญ่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐเกาหลีใน 2015

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตะวันออกกลางโรคทางเดินหายใจ (เมอร์ส) ยังเป็นที่รู้จักไข้หวัดอูฐ [1] เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัส mers-coronavirus (mers-COV). [2] อาการอาจมีตั้งแต่อ่อนเพื่อรุนแรง. [3] พวกเขารวมถึง ไข้ไอท้องเสียและหายใจถี่. [2] โรคโดยทั่วไปจะมีความรุนแรงมากขึ้นในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ . [3] mers-COV เป็น betacoronavirus มาจากค้างคาว. [2] อูฐได้รับการแสดงที่จะมีแอนติบอดีเพื่อ mers-COV แต่แหล่งที่มาที่แน่นอนของการติดเชื้อในอูฐยังไม่ได้รับการยืนยัน อูฐมีความเชื่อว่าจะมีส่วนร่วมในการแพร่กระจายของมนุษย์ แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่า. [3] การแพร่กระจายระหว่างมนุษย์มักจะต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ. [2] มันแพร่กระจายเป็นเรื่องธรรมดาที่ด้านนอกของโรงพยาบาล. [3] ดังนั้นความเสี่ยงที่จะ ประชากรทั่วโลกจะถือว่าเป็นปัจจุบันค่อนข้างต่ำ. [3] ในขณะที่ปี 2015 ไม่มีวัคซีนที่เฉพาะเจาะจงหรือการรักษาโรค. [2] [3] อย่างไรก็ตามจำนวนของยาต้านไวรัสกำลังมีการศึกษา. [3] องค์การอนามัยโลกได้แนะนำว่าผู้ที่เข้ามาติดต่อกับอูฐล้างมือบ่อยครั้งและไม่ได้สัมผัสอูฐป่วย. [2] นอกจากนี้ยังแนะนำว่าผลิตภัณฑ์อูฐจะสุกอย่างเหมาะสม. [2] ในบรรดาผู้ที่มีการติดเชื้อการรักษาที่ช่วยให้มีอาการ อาจจะได้รับ. [2] เพียง 1,000 กรณีของโรคได้รับรายงานเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2015 [3] ประมาณ 40% ของผู้ที่ติดเชื้อกลายเป็นตายจากโรค. [3] ระบุกรณีแรกที่เกิดขึ้นในปี 2012 ในประเทศซาอุ อารเบียและกรณีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ. [2] [3] สายพันธุ์ของเมอร์ส-COV ที่รู้จักกันเป็น HCoV-EMC / 2012 ที่พบในผู้ติดเชื้อครั้งแรกในกรุงลอนดอนในปี 2012 พบว่ามีการแข่งขัน 100% อียิปต์ หลุมฝังศพของค้างคาว การระบาดของโรคที่มีขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในสาธารณรัฐเกาหลีในปี 2015

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคทางเดินหายใจในตะวันออกกลาง ( ง่ายๆ ) หรือที่เรียกว่าไข้หวัดใหญ่อูฐ , [ 1 ] เป็นไวรัส การติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจาก mers โคโรนาไวรัส ( mers cov ) อาการ [ 2 ] อาจช่วงจากอ่อนเพื่อรุนแรง . [ 3 ] รวมไข้ , ไอ , ท้องเสีย และความกระชับของลมหายใจ [ 2 ] โรคคือ มักจะรุนแรงมากขึ้นในผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ . [ 3 ]

ง่ายๆมีเป็น betacoronavirus มาจากค้างคาว[ 2 ] อูฐได้ถูกแสดงให้มีภูมิคุ้มกันเพื่อ mers ปิดแต่ตรงแหล่งที่มาของการติดเชื้อในอูฐไม่ได้ระบุ . อูฐเชื่อว่ามีส่วนร่วมในการกระจายให้กับมนุษย์ แต่มันยังไม่ชัดเจนว่า [ 3 ] แพร่กระจายระหว่างมนุษย์ โดยปกติจะต้องติดต่อใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ [ 2 ] มันแพร่กระจาย พิสดาร นอกโรงพยาบาล[ 3 ] จึงมีความเสี่ยงต่อประชากรทั่วโลกถือว่าเป็นปัจจุบันค่อนข้างต่ำ [ 3 ]

โดยเฉพาะและไม่มีวัคซีนหรือการรักษาสำหรับโรค . [ 2 ] [ 3 ] อย่างไรก็ตาม หมายเลขของยาต้านไวรัสกำลังศึกษา [ 3 ] องค์การอนามัยโลกแนะนำว่า ผู้มาติดต่อกับอูฐ ล้างมือบ่อยๆ และไม่สัมผัสเซ็งอูฐ[ 2 ] นอกจากนี้ยังแนะนำผลิตภัณฑ์อูฐสามารถสุก [ 2 ] ของผู้ติดเชื้อ ที่ช่วยรักษาอาการอาจได้รับ [ 2 ]

แค่ 1000 กว่ากรณีของโรคได้รับรายงานเป็นพฤษภาคม 2015 [ 3 ] ประมาณ 40 % ของผู้ติดเชื้อตายจาก โรค[ 3 ] แรกระบุกรณีเกิดขึ้นในปี 2012 ในซาอุดิอาระเบีย และกรณีส่วนใหญ่เกิดขึ้นในคาบสมุทรอาหรับ . [ 2 ] [ 3 ] เป็นสายพันธุ์ COV mers เรียกว่า hcov EMC / 2555 พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกในกรุงลอนดอนในปี 2012 พบว่ามี 100% ตรงกับค้างคาวหลุมฝังศพที่อียิปต์ ระบาดขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีในปี 2015