Biofertilizer application has been

Biofertilizer application has been proposed as a strategy for the management of banana Fusarium wilt disease, which has severely decreased banana production. In this study, a 4-season pot experiment was conducted to evaluate the effects of sustainable biofertilizer application at low and high levels on banana Fusarium wilt disease suppression, soil chemical properties and microbial communities. The results showed sustainable biofertilizer application effectively controlled the disease, especially at a high level. Next-generation sequencing of the 16S rRNA and internal transcribed spacer (ITS) genes using the MiSeq platform showed that the soil bacterial and fungal communities in the treatment amended with a high level of biofertilizer (HBIO) were significantly different from a low level biofertilizer treatment (LBIO) or chemical fertilizer control (CF). Moreover, the abundance of Firmicutes and Bacillus was significantly increased, while the abundance of Acidobacteria, Bacteroidetes and Ascomycota was significantly decreased in the HBIO treatment compared with the CF control. Furthermore, the abundance of Fusarium was significantly reduced in the HBIO treatment compared with CF control and was slightly reduced (not significant) compared with the LBIO treatment. Redundancy analysis and Spearman correlation showed that Bacillus, Spartobacteria_genera and TM7_genera dominated in the HBIO treatment and they were positively correlated with the soil pH and the contents of total nitrogen and carbon and available phosphorus, which were negatively correlated with disease incidence. In conclusion, sustainable biofertilizer application suppressed the Fusarium wilt disease might through improving soil chemical condition and manipulating the composition of soil microbial community, including specific enrichment of Firmicutes (Bacillus), Anoxybacillus, Spartobacteria_genera, TM7_genera, Cantharellus, Pateramyces and Synchytrium.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เสนอโปรแกรม Biofertilizer เป็นกลยุทธ์สำหรับการบริหารของกล้วย Fusarium เหี่ยวโรค ที่รุนแรงลดผลิตกล้วย ในการศึกษานี้ ทดลองหม้อฤดูกาลที่ 4 ได้ดำเนินการประเมินผลของแอพพลิเคชัน biofertilizer อย่างยั่งยืนในระดับต่ำ และสูงในกล้วย Fusarium เหี่ยวโรคปราบปราม ดินคุณสมบัติทางเคมีและจุลินทรีย์ชุมชน แอพลิเคชัน biofertilizer ยั่งยืนแสดงผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคุมโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสูง ลำดับรุ่นต่อไปของ 16S rRNA และยีนเป็นตัวเว้นวรรคใช้ทับภายใน (ของ) ที่ใช้แพลตฟอร์ม MiSeq แสดงให้เห็นว่า ดินแบคทีเรีย และเชื้อราชุมชนในการรักษาแก้ไข ด้วย biofertilizer (HBIO) ในระดับที่สูงขึ้นแตกต่างอย่างมากจากการรักษา biofertilizer ระดับต่ำ (LBIO) หรือปุ๋ยเคมีควบคุม (CF) นอกจากนี้ มาย Firmicutes และคัดมากขึ้น ในขณะที่มาย Acidobacteria, Bacteroidetes และ Ascomycota ถูกมากลดลงในการรักษา HBIO เปรียบเทียบกับตัวควบคุม CF นอกจากนี้ มาย Fusarium ถูกลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการรักษา HBIO เปรียบเทียบกับ CF ควบคุม และถูกเล็กน้อยลดลง (ไม่สำคัญ) เปรียบเทียบกับการรักษา LBIO การวิเคราะห์ความซ้ำซ้อนและความสัมพันธ์ของ Spearman พบว่า คัด Spartobacteria_genera และ TM7_genera ในการรักษา HBIO และมักจะถูกบวก correlated กับ pH ของดินและเนื้อหาของไนโตรเจน และคาร์บอน และมี ฟอสฟอรัส ซึ่งถูกส่ง correlated กับอุบัติการณ์ของโรค เบียดเบียน แอพลิเคชัน biofertilizer ยั่งยืนถูกระงับ Fusarium โรคเหี่ยวอาจผ่านการปรับปรุงสภาพทางเคมีของดิน และการจัดการองค์ประกอบของชุมชนจุลินทรีย์ดิน รวมทั้งเติมเต็มเฉพาะ Firmicutes (คัด), Anoxybacillus, Spartobacteria_genera, TM7_genera, Cantharellus, Pateramyces และ Synchytrium

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประยุกต์ใช้ปุ๋ยชีวภาพได้รับการเสนอเป็นกลยุทธ์สำหรับการจัดการของเชื้อรา Fusarium กล้วยโรคเหี่ยวที่มีการผลิตลดลงอย่างรุนแรงก​​ล้วย ในการศึกษานี้หม้อทดลองเพื่อประเมินผลกระทบของการใช้ปุ๋ยชีวภาพอย่างยั่งยืน 4 ฤดูกาลในระดับต่ำและสูงใน Fusarium กล้วยเหี่ยวปราบปรามโรคดินคุณสมบัติทางเคมีและชุมชนจุลินทรีย์ ผลการศึกษาพบการประยุกต์ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพการควบคุมโรคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับสูง ลำดับรุ่นต่อไปของ 16S rRNA spacer คัดลอกและภายใน (ITS) ยีนที่ใช้แพลตฟอร์ม MiSeq แสดงให้เห็นว่าดินชุมชนแบคทีเรียและเชื้อราในการรักษาแก้ไขที่มีระดับสูงของปุ๋ยชีวภาพ (HBIO) อย่างมีนัยสำคัญที่แตกต่างจากการรักษาในระดับต่ำปุ๋ยชีวภาพ (LBIO) หรือสารเคมีควบคุมปุ๋ย (CF) นอกจากนี้ยังมีความอุดมสมบูรณ์ของ Firmicutes และ Bacillus ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของ Acidobacteria, Bacteroidetes Ascomycota และลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการรักษา HBIO เมื่อเทียบกับการควบคุม CF นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของเชื้อรา Fusarium ก็ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในการรักษา HBIO เมื่อเทียบกับการควบคุม CF และลดลงเล็กน้อย (ไม่ได้มีนัยสำคัญ) เมื่อเทียบกับการรักษา LBIO การวิเคราะห์ความซ้ำซ้อนและความสัมพันธ์สเปียร์แมนแสดงให้เห็นว่า Bacillus, Spartobacteria_genera TM7_genera และโดดเด่นในการรักษา HBIO และพวกเขามีความสัมพันธ์เชิงบวกกับค่า pH ของดินและเนื้อหาของไนโตรเจนทั้งหมดและคาร์บอนและฟอสฟอรัสที่มีอยู่ซึ่งมีความสัมพันธ์เชิงลบกับอัตราการเกิดโรค สรุปได้ว่าการประยุกต์ใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ยั่งยืนปราบปรามโรคเหี่ยว Fusarium อาจจะผ่านการปรับปรุงสภาพทางเคมีของดินและการจัดการกับองค์ประกอบของกลุ่มจุลินทรีย์ดินรวมทั้งการตกแต่งที่เฉพาะเจาะจงของ Firmicutes (Bacillus) Anoxybacillus, Spartobacteria_genera, TM7_genera, Cantharellus, Pateramyces และ Synchytrium

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การใช้ปุ๋ยชีวภาพ ได้รับการเสนอเป็นยุทธศาสตร์เพื่อการจัดการโรคเหี่ยวเน่าแห้งของกล้วย กล้วย ซึ่งมีการผลิตลดลงอย่างรุนแรง . ในการศึกษานี้ 4-season หม้อการทดลองเพื่อศึกษาผลของการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ยั่งยืนต่ำและมีระดับสูงของกล้วย Fusarium เหี่ยวปราบปรามโรค , คุณสมบัติทางเคมีของดินและชุมชนจุลินทรีย์พบการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพควบคุมโรค โดยเฉพาะในระดับรุ่นต่อไปของ 16S rRNA ลำดับและภายในและ spacer ( ITS ) ยีนที่ใช้แพลตฟอร์ม miseq พบว่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในดินและการแก้ไขที่มีระดับสูงของปุ๋ยชีวภาพ ( hbio ) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จากระดับต่ำปุ๋ยชีวภาพรักษา ( lbio ) หรือสารเคมีปุ๋ย ( CF ) นอกจากนี้ความอุดมสมบูรณ์ของ Firmicutes และ Bacillus เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนปริมาณ acidobacteria bacteroidetes โคไมโคตา , และในการรักษา hbio ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม CF นอกจากนี้ความอุดมสมบูรณ์ของ Fusarium คือการลดลงอย่างมากในการรักษา hbio เมื่อเทียบกับการควบคุมโฆษณา และก็ลดลงเล็กน้อย ( น้อยมาก ) เมื่อเทียบกับการรักษา lbio . การวิเคราะห์และการใช้ความสัมพันธ์พบว่า Bacillus ซ้ําและ spartobacteria_genera tm7_genera ครอบงำในการรักษา hbio และพวกเขามีความสัมพันธ์กับ pH ของดิน และปริมาณไนโตรเจนทั้งหมด และคาร์บอน และฟอสฟอรัส ซึ่งมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรค สรุปการใช้ปุ๋ยชีวภาพที่ยั่งยืนจะเน่าแห้งเฉาอาจผ่านการปรับปรุงสภาพทางเคมีของดิน และจัดการองค์ประกอบของจุลินทรีย์ดินในชุมชน รวมทั้งการเสริมเฉพาะของ Firmicutes ( Bacillus ) anoxybacillus spartobacteria_genera tm7_genera แคนธาเรลลัส , , , , และ pateramyces synchytrium .