The arts were expanding in purpose—

The arts were expanding in purpose—from expression and decoration of an artistic, storytelling nature, to a differentiation of brands and products that the growing middle classes were consuming. Consultancies and trades-groups in the commercial arts were growing and organizing; by 1890 the US had 700 lithographic printing firms employing more than 8,000 people.[10] Artistic credit tended to be assigned to the lithographic company, as opposed to the individual artists who usually performed less important jobs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศิลปะได้ขยายประสงค์ — จากนิพจน์และตกแต่งธรรมชาติ storytelling การ ศิลปะ การสร้างความแตกต่างของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ได้การบริโภคชนชั้นกลางเติบโต Consultancies และกลุ่มการค้าในศิลปะเชิงพาณิชย์ได้เติบโต และการจัด ระเบียบ โดย 1890 สหรัฐได้ 700 สีบนแผ่นเหล็กพิมพ์บริษัทใช้มากกว่า 8000 คน [10] สินเชื่อศิลปะมีแนวโน้มให้กับบริษัทสีบนแผ่นเหล็ก ตรงข้ามกับศิลปินแต่ละที่มักจะทำงานสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศิลปะได้รับการขยายตัวในวัตถุประสงค์จากการแสดงออกและการตกแต่งของศิลปะการเล่าเรื่องธรรมชาติที่จะสร้างความแตกต่างของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่ชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้นได้รับการบริโภค และธุรกิจการค้าที่ปรึกษากลุ่มในศิลปะเชิงพาณิชย์ได้รับการเจริญเติบโตและการจัดระเบียบ; โดย 1890 สหรัฐอเมริกามี 700 บริษัท การพิมพ์พิมพ์หินพนักงานกว่า 8,000 คน. [10] เครดิตศิลปะมีแนวโน้มที่จะได้รับมอบหมายให้ บริษัท พิมพ์หินเมื่อเทียบกับศิลปินแต่ละคนที่มักจะดำเนินงานที่มีความสำคัญน้อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศิลปะขยายในวัตถุประสงค์จากสีหน้าและการตกแต่งมีลักษณะการเล่านิทาน ศิลปะ การสร้างความแตกต่างของแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่เติบโตกลางชั้นเรียนมีการบริโภค ปรึกษาและเทรดในกลุ่มพาณิชย์ศิลป์ปลูกและจัดโดย 1890 สหรัฐฯได้ 700 ลิโธกราฟฟิคการพิมพ์ บริษัท พนักงานกว่า 8 , 000 คน[ 10 ] ศิลปะเครดิตมีแนวโน้มที่จะมอบหมายให้ บริษัท ลิโธกราฟฟิค ซึ่งแต่ละศิลปินที่มักจะแสดงงานสำคัญน้อยลง