Theorizing about the logic behind p

Theorizing about the logic behind punishment can also help us draw connections to more general theories about social processes. Deterrence theory reflects the assumptions of rational choice theory, which assumes that people's behavior is shaped by practical calculations: People break the law if the benefits of doing so exceed the costs. If crime is a "rational choice" for some people, then increasing the certainty or severity of punishment for crime should shift the cost-benefit balance away from criminal behavior. Labeling theory is rooted in symbolic interactionism, which focuses on the symbolic meanings that people give to behavior (Hagan, 1994:40). Instead of assuming that some forms of behavior are deviant in and of themselves (Scull, 1988:678), symbolic interactionists would view deviance as a consequence of the application of rules.and sanctions to an "offender" (Becker, 1963:9).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เก่าเกี่ยวกับตรรกะหลังลงโทษยังสามารถช่วยเราวาดเชื่อมต่อทฤษฎีทั่วไปเกี่ยวกับกระบวนการทางสังคม ทฤษฎีคนสะท้อนให้เห็นถึงสมมติฐานของเหตุผลทางเลือกทฤษฎี ซึ่งถือว่า พฤติกรรมของคนเป็นรูป โดยคำนวณปฏิบัติ: ผู้ทำลายกฎหมายถ้าประโยชน์ของทำให้เกินต้นทุน หากอาชญากรรมเป็นการ "เชือด" บางคน แล้ว เพิ่มความแน่นอนหรือความรุนแรงของบทลงโทษสำหรับอาชญากรรมควรกะยอดดุลต้นทุนผลประโยชน์จากพฤติกรรมการ เป็นใช้ทฤษฎีการติดฉลากใน interactionism สัญลักษณ์ ซึ่งมุ่งเน้นความหมายสัญลักษณ์ที่คนให้ทำงาน (Hagan, 1994:40) แทนนั่นของพฤติกรรมมี deviant ใน และ ของตัวเอง (แจว 1988:678), interactionists สัญลักษณ์จะดู deviance เป็นลำดับของโปรแกรมประยุกต์ของ rules.and เป็น "ผู้กระทำผิด" (Becker, 1963:9)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีเกี่ยวกับตรรกะที่อยู่เบื้องหลังการลงโทษนอกจากนี้ยังสามารถช่วยให้เราวาดการเชื่อมต่อกับทฤษฎีทั่วไปเกี่ยวกับกระบวนการทางสังคม ทฤษฎีต่อต้านสะท้อนให้เห็นถึงสมมติฐานของทฤษฎีทางเลือกที่มีเหตุผลซึ่งสันนิษฐานว่าพฤติกรรมของผู้คนมีรูปร่างโดยการคำนวณทางปฏิบัติ: คนผิดกฎหมายถ้าประโยชน์ของการทำเช่นนั้นเกินค่าใช้จ่าย หากเป็นความผิดทางอาญา "ทางเลือกที่มีเหตุผล" สำหรับบางคนแล้วการเพิ่มความเชื่อมั่นหรือความรุนแรงของการลงโทษสำหรับอาชญากรรมควรเปลี่ยนความสมดุลค่าใช้จ่ายผลประโยชน์ออกไปจากพฤติกรรมความผิดทางอาญา ทฤษฎีการติดฉลากจะหยั่งรากลึกในสัญลักษณ์ interactionism ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ความหมายสัญลักษณ์ที่ผู้คนให้ไปสู่​​พฤติกรรม (เฮอแกน, 1994: 40) แทนที่จะสมมติว่ารูปแบบของพฤติกรรมที่บางคนมีความเบี่ยงเบนในและของตัวเอง (แจว, 1988: 678), interactionists สัญลักษณ์จะดูอันซ์เป็นผลของการใช้มาตรการคว่ำบาตร rules.and เพื่อ "ผู้กระทำผิด" (เบกเกอร์ 1963: 9) .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการลงโทษยังสามารถช่วยให้เราสามารถวาดเส้นทฤษฎีทั่วไปเกี่ยวกับกระบวนการทางสังคม ทฤษฎีการป้องปรามสะท้อนสมมติฐานของทฤษฎีการเลือกอย่างมีเหตุผล ซึ่งสันนิษฐานว่า พฤติกรรมของผู้คนมีรูปร่างโดยการคำนวณภาคปฏิบัติ : คนฝ่าฝืนกฎหมาย ถ้าประโยชน์ทำดังนั้นเกินต้นทุน ถ้าความผิดที่เป็น " การเลือก " สำหรับบางคนแล้วเพิ่มความแน่นอนหรือความรุนแรงของการลงโทษสำหรับอาชญากรรมควรเปลี่ยนสมดุลผลประโยชน์ไปจากพฤติกรรมอาชญากรรม ทฤษฎีฉลากเป็นรากฐานในปฏิสัมพันธ์นิยมเชิงสัญลักษณ์ ซึ่งเน้นความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่ประชาชนให้กับพฤติกรรม ( Hagan 1994:40 , ) แทนที่จะคิดว่าบางรูปแบบของพฤติกรรมที่เป็นปัญหาใน และ ของตัวเอง ( กรรเชียง 1988:678 , )interactionists สัญลักษณ์จะดูเบี่ยงเบนเป็นผลของการลงโทษ rules.and ให้ " ผู้ต้องหา " ( เบคเกอร์ 1963:9 )