Surfactant, as the major component

Surfactant, as the major component of oil spill dispersant, is able to remarkably decrease the interfacial tension between spilled oil and seawater and the viscosity of spilled oil, turning it to stable oil-in-water emulsion that will be rapidly dispersed in seawater due to its accelerated biological degradation, reducing the hazardous impact of spilled oil on marine environment.

Reasonably using oil spill dispersant has become one of the important emergency means intended to handle offshore oil spill accidents. For offshore oil spill accidents, oil spill dispersant is usually sprayed via either vessel or plane. However, the sea-surface spraying effect of oil spill dispersant cannot be quantitatively evaluated mainly because of: (1) Uncertainty of environmental conditions such as sea wave and temperature; (2) Difficult accurate evaluation by current technology of area and thickness of sea-surface oil films dispersed by oil spill dispersant. For an underwater oil spill accident like that happened to Deepwater Horizon in Mexico, Remote Operated Vehicles(ROV) was used to jet 3,000 m3 of oil spill dispersant at seabed oil spill starting spot. This is the first large-scale underwater jetting of oil spill dispersant for oil spill accident in the world. However, few researches on underwater application technology and effect of oil spill dispersant are reported so far.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลดแรงตึงผิวเป็นองค์ประกอบหลักของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล, สามารถอย่างน่าทึ่งลดความตึงเครียด interfacial ระหว่างน้ำมันที่รั่วไหลและน้ำทะเลและความหนืดของน้ำมันที่รั่วไหล, เปลี่ยนมันจะมีเสถียรภาพอิมัลชันน้ำมันในน้ำที่จะแยกย้ายกันไปอย่างรวดเร็วในน้ำทะเลอันเนื่องมาจาก เร่งการย่อยสลายทางชีวภาพของการลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของน้ำมันที่รั่วไหลในสภาพแวดล้อมทางทะเล. สมเหตุสมผลโดยใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลได้กลายเป็นหนึ่งในกรณีฉุกเฉินที่สำคัญหมายถึงความตั้งใจที่จะจัดการกับการเกิดอุบัติเหตุการรั่วไหลของน้ำมันในต่างประเทศ สำหรับการเกิดอุบัติเหตุการรั่วไหลของน้ำมันในต่างประเทศ, การรั่วไหลของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันพ่นมักจะผ่านทั้งเรือหรือเครื่องบิน แต่ทะเลพื้นผิวการฉีดพ่นสารเคมีขจัดคราบผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันไม่สามารถประเมินปริมาณส่วนใหญ่เป็นเพราะ (1) ความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อมเช่นคลื่นทะเลและอุณหภูมิ (2) การประเมินผลที่ถูกต้องยากด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันของพื้นที่และความหนาของพื้นผิวทะเลฟิล์มน้ำมันแยกย้ายกันไปโดยสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล สำหรับการเกิดอุบัติเหตุรั่วไหลของน้ำมันใต้น้ำเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับลึกสุดขอบฟ้าในเม็กซิโกยานพาหนะดำเนินการระยะไกล (ROV) ถูกใช้ในการเจ็ท 3,000 M3 ของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลที่ก้นรั่วไหลของน้ำมันที่จุดเริ่มต้น นี้เป็นครั้งแรกขนาดใหญ่ jetting ใต้น้ำของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลในการเกิดอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลในโลก อย่างไรก็ตามงานวิจัยน้อยในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใต้น้ำและผลกระทบของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลจะมีการรายงานเพื่อให้ห่างไกล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ใช้เป็นองค์ประกอบหลักของน้ำมันหกกระจายสามารถมากลดความตึงเครียดระหว่างระหว่างหกน้ำมันและน้ำทะเล และความหนืดของหกน้ำมันเปลี่ยนน้ำมันในน้ำอิมัลชันที่มีเสถียรภาพจะกระจายตัวอย่างรวดเร็วในน้ำทะเลเนื่องจากการสลายตัวทางชีวภาพของการเร่งลดผลกระทบที่เป็นอันตรายของหกน้ำมันในสิ่งแวดล้อมทางทะเล

เหตุผลที่ใช้ขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลได้กลายเป็นหนึ่งของภาวะฉุกเฉินสำคัญหมายความว่าตั้งใจที่จะจัดการกับอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลในต่างประเทศ อุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลนอกชายฝั่ง , ขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลมักจะพ่นทางด้วยเรือหรือเครื่องบิน อย่างไรก็ตาม ผลของพื้นผิวทะเลพ่นขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล ไม่สามารถใช้ประเมินส่วนใหญ่เนื่องจาก :( 1 ) ความไม่แน่นอนของสภาพแวดล้อม เช่น คลื่นทะเล และอุณหภูมิ ( 2 ) ยากถูกต้องการประเมินเทคโนโลยีปัจจุบันของพื้นที่และความหนาของพื้นผิวทะเลภาพยนตร์น้ำมันกระจายโดยขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล . สำหรับน้ำน้ำมันรั่วไหล Deepwater Horizon อุบัติเหตุเช่นที่เกิดขึ้นในเม็กซิโก , ยานพาหนะจากระยะไกล ( rov ) การใช้เครื่องบิน 3000 ลูกบาศก์เมตรของก๊าซธรรมชาติน้ำมันรั่วไหลในทะเลน้ำมันหกเริ่มจุด นี่เป็นครั้งแรกของหกน้ำมันเครื่องบินไอพ่นขนาดใหญ่ใต้น้ำขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลจากอุบัติเหตุใน โลก อย่างไรก็ตาม งานวิจัยบางในการใช้เทคโนโลยี และผลกระทบของสารเคมีขจัดคราบน้ำมันรั่วไหลในน้ำจะมีการรายงานเพื่อให้ห่างไกล