The aim of this study was to assess

The aim of this study was to assess self management strategies to control auditory hallucinations among patients with schizophrenia. An exploratory descriptive research design was used for the current study. The study subjects consisted of 60 patients from psychiatric inpatients units of El Abassia mental health hospital. Three tools were used to collect data for this study, TOOL (I): A Structured Interview sheet for the Socio- demographic and clinical data of Psychiatric Inpatients units. TOOL (II): frequency and distribution of auditory Hallucinations by Phenomenology Scale "Modified Version": TOOL (III): Structured interview sheet of self management strategies to control auditory hallucinations: The study results revealed that, there was statistically significant difference between behavioral strategies and both cognitive and physiological strategies. The effectiveness of cognitive and behavioral strategies of self management to control auditory hallucinations in male patients is more than in female patients. Based on the results of the present study, it can be concluded that patients can utilize self management strategies to reduce the characteristics and severity of auditory hallucinations and to experience a significant decrease in these symptoms. In the light of results of the present study, the following recommendations are suggested: Psychiatric health care provider (psychiatric nurse and/or psychiatrist) should provide accurate information to patients with schizophrenia, who have auditory hallucinations, about different self management strategies used by other hallucinating patients, to encourage further self effective self management strategies

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ประเมินกลยุทธ์การจัดการการควบคุมภาพหลอนหูผู้ป่วยจิตเภท การออกแบบการวิจัยเชิงบุกเบิกอธิบายถูกใช้สำหรับการศึกษาปัจจุบัน ในวิชาที่ศึกษาประกอบด้วยผู้ป่วย 60 จาก El Abassia สุขภาพจิตโรงพยาบาลจิตเวช inpatients หน่วย ใช้เครื่องมือที่สามในการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษานี้ เครื่องมือ (I): แผ่น A มีโครงสร้างสัมภาษณ์สำหรับการและสังคม - ประชากร และ ข้อมูลทางคลินิกของหน่วยจิตเวช Inpatients เครื่องมือที่ (II): ความถี่และการกระจายของเสียงหลอนโดยมาตราส่วนทั้งปรากฏการณ์ "ปรับรุ่น": มือ (III): แผ่นสัมภาษณ์มีโครงสร้างของการจัดการกลยุทธ์การควบคุมภาพหลอนหู: ผลการศึกษาเปิดเผยว่า มันมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างพฤติกรรมกลยุทธ์และกลยุทธ์ทั้งทางปัญญา และทางสรีรวิทยา ประสิทธิภาพของกลยุทธ์ทางปัญญา และพฤติกรรมการจัดการตนเองเพื่อควบคุมเสียงหลอนในผู้ป่วยเพศชายจะมากกว่าในผู้ป่วยหญิง ขึ้นอยู่กับผลของการศึกษาปัจจุบัน มันสามารถสรุปได้ว่า ผู้ป่วยสามารถใช้กลยุทธ์การจัดการ เพื่อลดลักษณะและความรุนแรงของภาพหลอนหู และพบอาการเหล่านี้ลดงมาก ไฟผลลัพธ์ของการศึกษา มีการแนะนำคำแนะนำต่อไปนี้: ผู้ให้บริการดูแลสุขภาพจิตเวช (พยาบาลจิตเวชหรือจิตแพทย์) ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้ผู้ป่วยจิตเภท ที่มีภาพหลอนหู เกี่ยวกับการจัดการแตกต่าง กลยุทธ์ที่ใช้เพื่อส่งเสริมให้ผู้ป่วยอื่น ๆ hallucinating เพิ่มเติมด้วยตนเองที่มีประสิทธิภาพตนเองกลยุทธ์การจัดการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้คือการประเมินกลยุทธ์การจัดการตนเองในการควบคุมการได้ยินเสียงหลอนในผู้ป่วยที่มีอาการจิตเภท การออกแบบการวิจัยสำรวจเชิงพรรณนาที่ใช้สำหรับการศึกษาในปัจจุบัน วิชาที่ศึกษาประกอบด้วย 60 ผู้ป่วยจากผู้ป่วยจิตเวชหน่วยของเอ Abassia โรงพยาบาลสุขภาพจิต สามเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการศึกษานี้เครื่องมือ (I): แผ่นสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับข้อมูลประชากรและสังคมและทางคลินิกของผู้ป่วยจิตเวชหน่วย เครื่องมือ (II): ความถี่และการกระจายของได้ยินเสียงหลอนโดยปรากฏการณ์ชั่ง "Modified Version": เครื่องมือ (III): แผ่นสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างของกลยุทธ์ในการจัดการตนเองในการควบคุมการได้ยินเสียงหลอน: ผลการศึกษาพบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลยุทธ์พฤติกรรม และทั้งสองกลยุทธ์และองค์ความรู้ทางสรีรวิทยา ประสิทธิผลของกลยุทธ์การคิดและพฤติกรรมของการจัดการตนเองในการควบคุมการได้ยินเสียงหลอนในผู้ป่วยที่เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงในผู้ป่วย ขึ้นอยู่กับผลของการศึกษานี้ก็สามารถสรุปได้ว่าผู้ป่วยสามารถใช้กลยุทธ์ในการจัดการตนเองเพื่อลดลักษณะและความรุนแรงของการได้ยินเสียงหลอนและพบการลดลง Fi ลาดเทนัยสำคัญในอาการเหล่านี้ ในแง่ของผลการศึกษาในปัจจุบันที่แนะนำต่อไปนี้มีข้อเสนอแนะ: ให้บริการดูแลสุขภาพผู้ป่วยจิตเวช (พยาบาลจิตเวชและ / หรือจิตแพทย์) คว​​รให้ข้อมูลที่ถูกต้องให้แก่ผู้ป่วยจิตเภทที่มีภาพหลอนหูเกี่ยวกับกลยุทธ์การบริหารตนเองต่าง ๆ โดยใช้อื่น ๆ ภาพหลอนผู้ป่วยเพื่อส่งเสริมให้ตัวเองต่อไปกลยุทธ์การจัดการที่มีประสิทธิภาพด้วยตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษากลยุทธ์การบริหารตนเองเพื่อควบคุมอาการประสาทหลอนหูแว่วในผู้ป่วยจิตเภท การออกแบบวิจัยเชิงสำรวจ ใช้เพื่อการศึกษาในปัจจุบัน การศึกษา จำนวน 60 ราย จากหน่วยผู้ป่วยในโรงพยาบาลจิตเวช สุขภาพจิต เอล abassia . สามเครื่องมือที่ถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์เครื่องมือ ( ผม ) : เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลทางคลินิกของหน่วยผู้ป่วยในจิตเวช เครื่องมือ ( 2 ) การแจกแจงความถี่และหูแว่ว โดยดำเนินการแบบ " รุ่นที่แก้ไข : เครื่องมือ ( 3 ) แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง กลยุทธ์การบริหารตนเองเพื่อควบคุมหูแว่ว : ผลการศึกษา พบว่า มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลยุทธ์และการคิดและพฤติกรรมทั้งด้านกลยุทธ์ ประสิทธิผลของการคิดและกลยุทธ์ในการจัดการตนเองเพื่อควบคุมพฤติกรรมหูแว่วในผู้ป่วยชายมากกว่าในผู้ป่วยหญิง จากผลการศึกษาครั้งนี้สรุปได้ว่า ผู้ป่วยสามารถใช้กลยุทธ์การบริหารตนเองเพื่อลดลักษณะและความรุนแรงของหูแว่วและประสบการณ์ signi จึงไม่สามารถลดอาการเหล่านี้ได้ ในแง่ของผลการศึกษาปัจจุบัน คำแนะนำต่อไปนี้จะแนะนำ : การดูแลสุขภาพผู้ให้บริการ ( จิตเวช พยาบาลจิตเวช และ / หรือจิตแพทย์ ) ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วยจิตเภทที่มีหูแว่ว เกี่ยวกับตนเองแตกต่างกัน การจัดการกลยุทธ์ที่ใช้โดยผู้ป่วยอื่น ๆหลอน ส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการกลยุทธ์ด้วยตนเองต่อไป