The production of short-chain fatty

The production of short-chain fatty acids (SCFAs) from excess sludge was conducted in batch fermentation tests at different pH values ranging from 4.0 to 11.0. Experimental results of the impacts of different pHs on SCFAs production showed that during the first 8-day fermentation time the total SCFAs production at either pH 9.0 or pH 10.0 was much greater than that at acidic or neutral pH, and the maximal yield of 256.2 mg SCFAs−COD per gram of volatile suspended solids (VSS) was at pH 10.0, which was, respectively, over 3 and 4 times that at pH 5.0 and uncontrolled pH. Clearly, SCFAs production from excess sludge could be significantly improved and maintained stable by controlling the fermentation pH at 10.0. The composition of SCFAs and the percent distribution of individual SCFAs accounting for total SCFAs at pH 10.0 were analyzed. The SCFAs consisted of acetic, propionic, iso-butyric, n-butyric, iso-valeric, and n-valeric acids, and acetic acid was the most prevalent product with a fraction of 40−55%. Because the results of this study were different from those of previous studies of SCFAs production, the mechanism of increased SCFAs production under alkaline conditions was investigated. Results showed that as soluble COD increased, more soluble protein was provided as the substrate for producing SCFAs. In addition, less or even no SCFAs were consumed by methanogens at alkaline pH, so the SCFAs production was therefore remarkably improved. Further investigation revealed that the formation of SCFA at pH 10.0 was dominated by biological effects rather than by chemical hydrolysis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การผลิตโซ่สั้น ๆ กรดไขมัน (SCFAs) จากตะกอนส่วนเกินถูกดำเนินในชุดทดสอบหมักที่ค่า pH แตกต่างกันตั้งแต่ 4.0 11.0 ผลกระทบของ pHs ที่แตกต่างกันในการผลิต SCFAs ผลการทดลองพบว่า เวลาหมัก 8 วันแรกผลิต SCFAs รวมที่ pH 9.0 หรือ pH 10.0 ถูกมากมากกว่าที่ pH ที่เป็นกรด หรือเป็นกลาง และผลตอบแทนสูงสุดของ 256.2 mg SCFAs−COD ต่อกรัมของแข็งระงับระเหย (VSS) คือที่ pH 10.0 ซึ่ง ตามลำดับ โอ 3 และ 4 เท่าที่ pH 5.0 และ pH แพงกว่า ชัดเจน SCFAs ผลิตจากตะกอนส่วนเกินได้มากขึ้น และรักษาเสถียรภาพ โดยควบคุม pH หมักที่ 10.0 องค์ประกอบของ SCFAs และกระจายเปอร์เซ็นต์ SCFAs แต่ละบัญชีสำหรับ SCFAs รวมที่ pH 10.0 ได้วิเคราะห์ SCFAs ประกอบด้วยอะซิติก propionic, iso butyric, n butyric, iso-valeric และกรด n-valeric และกรดอะซิติกเป็นผลิตภัณฑ์แพร่หลายมากที่สุดกับเศษส่วน 40−55% เนื่องจากผลการศึกษานี้มีแตกต่างจากการศึกษาก่อนหน้านี้ของผลิต SCFAs กลไกการผลิตที่เพิ่มขึ้น SCFAs สภาวะด่างถูกตรวจสอบ ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า เป็น COD ละลาย โปรตีนเพิ่มขึ้น มากขึ้นละลายน้ำให้เป็นพื้นผิวที่สำหรับผลิต SCFAs , SCFAs น้อย หรือแม้แต่ไม่มีการบริโภค โดย methanogens ที่ด่าง pH เพื่อผลิต SCFAs ได้จึงปรับปรุงอย่างยิ่ง การสอบสวนเปิดเผยว่า การก่อตัวของ SCFA ที่ pH 10.0 ถูกครอบงำ โดยผลกระทบทางชีวภาพ แทน การไฮโตรไลซ์เคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การผลิตกรดไขมันห่วงโซ่สั้น (SCFAs) จากตะกอนส่วนเกินได้ดำเนินการในการทดสอบการหมักชุดที่ค่าพีเอชที่แตกต่างกันตั้งแต่ 4.0-11.0 ผลการทดลองผลกระทบของพีเอชที่แตกต่างกันในการผลิต SCFAs แสดงให้เห็นว่าในช่วงเวลาในการหมัก 8 วันแรกของการผลิตรวม SCFAs ที่ทั้งค่า pH 9.0 หรือค่า pH 10.0 เป็นมากขึ้นกว่าที่ที่ pH ที่เป็นกรดหรือเป็นกลางและผลผลิตสูงสุด 256.2 มก. SCFAs-ซีโอดีต่อกรัมของสารแขวนลอยระเหย (VSS) เป็นที่ pH 10.0 ซึ่งเป็นตามลำดับในช่วงที่ 3 และครั้งที่ 4 ว่าที่ pH 5.0 และค่า pH ไม่สามารถควบคุมได้ เห็นได้ชัดว่าการผลิต SCFAs จากกากตะกอนส่วนเกินอาจจะดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่มีเสถียรภาพและการบำรุงรักษาโดยการควบคุมค่า pH หมักที่ 10.0 องค์ประกอบของ SCFAs และการกระจายร้อยละ SCFAs แต่ละบัญชีสำหรับ SCFAs รวมที่ pH 10.0 วิเคราะห์ SCFAs ประกอบด้วยอะซิติกโพรพิโอนิ, ISO-butyric, n-butyric, ISO-valeric และกรด n-valeric และกรดอะซิติกเป็นผลิตภัณฑ์ที่แพร่หลายมากที่สุดกับส่วนของ 40-55% โดย เพราะผลการศึกษานี้ได้แตกต่างจากการศึกษาก่อนหน้าของการผลิต SCFAs กลไกของการผลิตที่เพิ่มขึ้น SCFAs ภายใต้เงื่อนไขที่อัลคาไลน์ที่ถูกตรวจสอบ ผลการศึกษาพบว่าเมื่อละลายน้ำซีโอดีเพิ่มขึ้นโปรตีนที่ละลายน้ำได้มากขึ้นถูกจัดให้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต SCFAs นอกจากนี้ยังมีน้อยหรือแม้กระทั่ง SCFAs ไม่มีการบริโภคโดย methanogens ที่ pH อัลคาไลน์เพื่อให้การผลิต SCFAs ดังนั้นจึงปรับตัวดีขึ้นอย่างน่าทึ่ง การตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าการก่อตัวของ SCFA ที่ pH 10.0 ถูกครอบงำโดยผลกระทบทางชีวภาพมากกว่าโดยการย่อยสลายสารเคมี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การผลิตกรดไขมันโซ่สั้น ( สั้น ) จากตะกอนส่วนเกินมีวัตถุประสงค์ในการทดสอบและชุดค่า pH ที่แตกต่างกันตั้งแต่ 4.0 ถึง 11.0 . ผลการทดลองของผลกระทบของ PHS ที่แตกต่างกันในการผลิตสั้น พบว่า ในช่วงเวลาสั้น 8-day หมักรวมการผลิตที่พีเอช 9.0 หรือพีเอช 10.0 เป็นมากขึ้นกว่าที่เป็นกรดหรือเป็นกลาง พีเอชและผลผลิตสูงสุดของ 256.2 มก. ซีโอดีสั้น− 1 กรัมของแข็งแขวนลอยระเหย ( VSS ) คือที่พีเอช 10.0 ซึ่งเท่ากับ 3 และ 4 เท่า ที่พีเอช 5.0 และไม่มีการควบคุม pH ได้ชัดเจน สั้นผลิตจากกากตะกอนส่วนเกินจะเพิ่มขึ้น และยังคงมีเสถียรภาพ โดยการควบคุมการหมัก pH 10.0 .องค์ประกอบของสั้นและเปอร์เซ็นต์การกระจายของบัญชีแต่ละสั้นสั้นทั้งหมดที่ pH 10.0 ข้อมูล ที่สั้น ประกอบด้วย กรดโพรพิออนิก n-butyric ) , ISO , ISO valeric และ n-valeric กรด และ กรดเป็นผลิตภัณฑ์ที่แพร่หลายมากที่สุดกับส่วนของ− 40 55 %เนื่องจากผลลัพธ์ของการศึกษาที่แตกต่างจากการศึกษาก่อนหน้านี้ของการผลิตสั้น กลไกเพิ่มสั้นการผลิตภายใต้เงื่อนไขที่เป็นด่างถูกตรวจสอบ พบว่า เมื่อปริมาณซีโอดีเพิ่มขึ้น ปริมาณโปรตีนละลายน้ำก็จัดเป็นวัสดุสำหรับการผลิตสั้น . นอกจากนี้ น้อยกว่า หรือไม่ก็สั้นถูกบริโภคโดยสร้างมีเทนที่ด่างพีเอชดังนั้นการผลิตจึงสั้นมากขึ้น การสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า การก่อตัวของ scfa พีเอช 10.0 ถูกครอบงำโดยผลกระทบทางชีวภาพมากกว่า โดยการย่อยทางเคมี