The extinction of the passenger pig

The extinction of the passenger pigeon is an example of what can happen to a species when conservation efforts are implemented inly after a population falls below its critical density. Until the mid-1800s ,fights of passenger pigeons darkened the skies of the mid-western United states for day at times. One flock was estimated to contain at least 2 billion birds. Hunting drastically reduced the population of the pigeon in the 1870s,and by 1885 only one breeding colony was left. Hunting of the pigeon was eventually prohibited ,but the various groups of pigeon that formed separate population repeatedly failed to reproduce. In just 50 years, the passenger pigeon went from being North America’s commonest bird to being extinct. In hindsight, it is evident that the presence of thousands of bird flying, flocking , and roosting together stimulated breeding . Once flock sizes were reduce below this critical mass, breeding failed. The last passenger pigeon died in the Cincinnati Zoo in 1914.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การสูญพันธุ์ของนกพิราบผู้โดยสารเป็นตัวอย่างของสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นกับชนิดเมื่อมีดำเนินความพยายามอนุรักษ์ inly หลังจากที่ประชากรลดลงต่ำกว่าความหนาแน่นที่สำคัญ จนกระทั่งในกลางเพราะ ต่อสู้ของนกผู้โดยสารมืดมัวไปท้องฟ้าของสหรัฐอเมริกาตะวันตกกลางวันที่ แกะหนึ่งถูกคาดว่าประกอบด้วยนกน้อย 2 พันล้าน ล่าสัตว์อย่างรวดเร็วลดประชากรของนกพิราบที่ใน 1870s และ โดย 1885 ฝูงปรับปรุงพันธุ์เดียวที่เหลือ ล่าสัตว์ของนกพิราบถูกห้ามในที่สุด แต่ไม่สามารถสร้างกลุ่มต่าง ๆ ของนกพิราบที่แยกประชากรที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เพียง 50 ปี นกพิราบผู้โดยสารไปจาก นก commonest ของอเมริกาเหนือเป็นสูญ ใน hindsight ได้ชัดว่า อยู่พันนกบิน flocking และ roosting กันถูกกระตุ้นพันธุ์ เมื่อได้แกะขนาด ลดด้านล่างนี้จำนวนมาก พันธุ์ล้มเหลว นกพิราบผู้โดยสารล่าสุดเสียชีวิตในสวนสัตว์ซินซินนาติใน 1914

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สูญพันธุ์ของนกพิราบผู้โดยสารเป็นตัวอย่างของสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นกับสายพันธุ์เมื่อความพยายามที่จะดำเนินการอนุรักษ์ inly หลังจากประชากรต่ำกว่าความหนาแน่นที่สำคัญ จนถึงช่วงกลางปี​​ 1800 การต่อสู้ของนกพิราบผู้โดยสารท้องฟ้ามืดของสหรัฐอเมริกากลางตะวันตกสำหรับวันในช่วงเวลาที่ หนึ่งในฝูงก็จะมีอย่างน้อย 2 พันล้านนก ล่าสัตว์ลดลงอย่างมากของประชากรนกพิราบในยุค 1870 และ 1885 โดยมีเพียงหนึ่งอาณานิคมพันธุ์ที่ถูกทิ้ง การล่าสัตว์ของนกพิราบไม่ได้รับอนุญาตในที่สุด แต่กลุ่มต่าง ๆ ของนกพิราบที่ก่อตัวขึ้นของประชากรที่แยกต่างหากซ้ำล้มเหลวในการทำซ้ำ ในเวลาเพียง 50 ปีนกพิราบผู้โดยสารไปจากการถูกนกที่พบมากที่สุดของทวีปอเมริกาเหนือจะเป็นสูญพันธุ์ ย้อนหลังจะเห็นว่าการปรากฏตัวของพันของการบินนก flocking และเกาะด้วยกันกระตุ้นการเพาะพันธุ์ เมื่อมีขนาดแห่ลดด้านล่างนี้มวลที่สำคัญล้มเหลวในการปรับปรุงพันธุ์ นกพิราบที่ผ่านมาผู้โดยสารเสียชีวิตในสวนสัตว์ซินซินในปี 1914

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การสูญพันธุ์ของผู้โดยสารนกพิราบคือตัวอย่างของสิ่งที่สามารถเกิดขึ้น เพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์ เมื่อมีการใช้งานไปข้างในหลังจากประชากรตกอยู่ด้านล่างของมันอย่างหนาแน่น จนกระทั่งกลาง - 1800 , การต่อสู้ของนกพิราบผู้โดยสารมืดท้องฟ้ากลางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา สำหรับวันเวลา ฝูงหนึ่งซึ่งประกอบด้วยอย่างน้อย 2 พันล้านนกการล่าสัตว์ลดลงอย่างมาก ประชากรของนกพิราบในคริสต์ทศวรรษ 1850 และ 1885 เพียงหนึ่งพันธุ์อาณานิคมหายไป ล่าสัตว์ของนกพิราบ กลายเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ทางกลุ่มของนกพิราบสร้างประชากรแยกซ้ำล้มเหลวในการทำซ้ำ ในเวลาเพียง 50 ปี ผู้โดยสารนกพิราบไปจากทวีปอเมริกาเหนือ commonest นกจะสูญพันธุ์ ก็เข้าใจอ่ะนะจะเห็นได้ว่ามีหลายพันของนกบิน , flocking , และคั่วด้วยกันกระตุ้นการผสมพันธุ์ เมื่อแกะถูกลดขนาดด้านล่างมวลที่สำคัญการปรับปรุงล้มเหลว ผู้โดยสารนกพิราบสุดท้ายตายในสวนสัตว์ซินซินนาติในปี 1914 .