Bike storage in Toronto – circa 189

Bike storage in Toronto – circa 1898 – photo courtesy of City of Toronto Archives

After watching a 1905 video on “Complete Streets” posted by our friend Herb from iBikeTO.ca, I was intrigued by how transportation in North America has transformed in the past couple centuries.

We have gone through several phases in our transportation history. Our first settlers arrived in our cities by water – primarily by canoe along our lakes, rivers, and canals.

Railways were the next prominent mode of transportation – the first railway lines in North America were built in the 1830’s – several years after England had started building its railways.

Bicycles were a common form of recreation and transportation
In the late 1800’s, streetcars were popular in many cities, while bicycles were common as a form of both recreation and transportation. By the early 1900’s, the automobile had started to become common in our cities – but only the rich could afford automobiles in those days.

In the early 1900’s cities were also beginning to pave their roads – a substantial improvement from the dust and mud of earlier years.

It was bicyclists whom advocated for paved roads
Ironically, it was bicyclists whom advocated for paved roads during the “Good Roads Movement” from 1880 to 1916. Little did these wheelman realize that advocating for better roads would contribute to an influx of automobiles which would eventually drive bicyclists out of many big cities.

On the other hand, bicyclists in the late 19th century were primarily of middle and upper class status, so I reckon none of them were complaining about making the shift from bicycling to driving combustion engine automobiles.

In the decades after World War II, North American cities expanded their roadway capacity to facilitate more motorists. This was done to keep up with demand, but it also induced demand – creating a cycle of expansion followed by demand, followed by more expansion – leaving us with very little space for more expansion, and traffic running at capacity in many cities.

Interstate system put America on a path to automobile-dependency
Outside North American cities, the interstate network was developed. The interstate system was President Eisenhower’s baby – and many applaud the interstate for improving the movement of goods around the country. However, the interstate system encouraged the sprawl that has caused many North Americans to be completely dependent on their automobile to live their daily lives.

The interstate system was originally expected to cost $25 billion over 12 years, but ended up costing $114 billion over 35 years (or $425 billion in 2006 dollars).

$425 billion dollars could have bought quite a nice high speed rail system and bicycle paths that would have encouraged more sustainable growth rather than the unsustainable sprawl that has resulted from our investment in highway systems. However, foresight was never a prerequisite to run for public office.

The following video shows the evolution of San Francisco’s Market street from 1905 to 2009.

It’s fascinating to see how slowly things moved in 1905 to how quickly things moved when automobiles became prominent, to how slowly things moved again in the 21st century from the congestion that has resulted from having too many automobiles.

As you can see, bicyclists are fairly common in the 1905 portion of the clip, but they all but disappear in the subsequent years – making a triumphant return in the 2009 portion of the video.

Bill James Jr. 1907 Toronto

Transportation shifted from rail to air, transport and ship
In the past several decades, air travel, transport trucks and ocean ship travel have been prominent for moving people and products around the world – shifting from rail travel in the decades prior.

Passengers using UK airport terminals rose from 7 million passengers in 1957 to a whopping 241 million passengers in 2007.

A similar story can be found when looking at automobile ownership. In 1960, the United States had 74 million motor vehicles – with a population of 180 million (one vehicle for every 2.4 people). By 2004, the number of vehicles had grown to 237 million vehicles – compared to a population of 293 million (that’s equivalent one car for every 1.2 people).

If we assume that 75% of Americans in 2004 were licensed to drive, that would mean there would be an average of more than 1 car per licensed driver in 2004 – and this trend hasn’t subsided.

North America is shifting to bicycles for transportation
However, with the limited amount of space for automobiles, record levels of obesity and an increasing awareness of our dwindling environment, people are making the switch to using bicycles for transportation – just as they have been doing in the Netherlands for decades.

After sampling many different modes of transportation over the years, I can confidently say that bicycling is the most efficient, reliable and fun mode of transportation I have experienced. It’s no wonder that peop

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ที่เก็บจักรยานในโตรอนโต – ประมาณ 1898 – ภาพเอื้อเฟื้อเมืองเก็บโตรอนโตหลังจากดู 1905 ที่วิดีโอบน "ถนนสมบูรณ์" โดยเพื่อนของเราสมุนไพรจาก iBikeTO.ca ฉันถูกทึ่งกับวิธีการขนส่งในอเมริกาเหนือได้เปลี่ยนในสองศตวรรษผ่านมาเราได้ไปผ่านระยะต่าง ๆ ในประวัติศาสตร์การเดินทางของเรา เราตั้งถิ่นฐานครั้งแรกมาถึงในเมืองของเรา โดยน้ำ– เป็นหลัก โดยเรือแจวไป ตามเราทะเลสาบ แม่น้ำ คลองรถไฟเป็นโหมดเด่นถัดไปของการขนส่ง – สร้างขึ้นใน 1830's – หลายปีหลังจากที่อังกฤษได้เริ่มสร้างทางรถไฟของรถไฟครั้งแรกในทวีปอเมริกาเหนือจักรยานได้แบบทั่วไปของนันทนาการและการขนส่งใน 1800's ปลาย รถเป็นที่นิยมในเมือง ในขณะที่จักรยานทั่วไปเป็นรูปแบบของนันทนาการและการขนส่ง โดยอันดับ รถยนต์ที่ใช้เป็นการทั่วไปในเมืองของเรา – แต่เฉพาะคนรวยสามารถรถยนต์ในวันนั้นในอันดับ เมืองได้ยังเริ่มลาดของถนนการปรับปรุงมากจากฝุ่นและโคลนของปีก่อนหน้ามันเป็นนักปั่นจักรยานที่สนับสนุนถนนลาดยางแดกดัน เป็นนักปั่นจักรยานที่สนับสนุนถนนลาดยางระหว่าง "ดีถนนการเคลื่อนไหว" จาก 1880 เพื่อ 1916 น้อย wheelman เหล่านี้ตระหนักว่า มะดีกว่าถนนจะนำไปสู่การไหลเข้าของรถยนต์ที่จะขับในที่สุดนักปั่นจักรยานจากเมืองใหญ่บนมืออื่น ๆ นักปั่นจักรยานในปลายศตวรรษที่ถูกหลักของสถานะกลางและชั้นสูง ดังนั้นผมคิดว่า ไม่ถูกบ่นเกี่ยวกับการทำการเปลี่ยนแปลงจากการปั่นจักรยานกับการขับขี่รถยนต์เครื่องยนต์เผาไหม้ในทศวรรษหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง อเมริกาเหนือเมืองขยายความจุของถนนเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่มากขึ้น นี้ทำเพื่อให้ทันกับความต้องการ แต่ยังต้องเกิดสร้างวงจรขยายตัวตามความต้องการ ตาม ด้วยเพิ่มเติมขยาย – ออกเรา มีพื้นที่น้อยมากและเพิ่มเติมขยาย การจราจรกำลังการผลิตในหลายเมืองของอินเตอร์สเตตระบบใส่อเมริกาบนเส้นทางรถยนต์อ้างอิงนอกเมืองอเมริกาเหนือ เครือข่ายอินเตอร์สเตตได้รับการพัฒนา ระบบอินเตอร์สเตตเป็นลูกประธานาธิบดี Eisenhower – และหลายปรบมืออินเตอร์สเตตสำหรับการปรับปรุงการเคลื่อนไหวของสินค้าทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ระบบอินเตอร์สเตตให้ทอดที่ทำให้เกิดเหนือคนอเมริกันจำนวนมากจะขึ้นอยู่กับบนรถยนต์ของพวกเขาจะดำเนินชีวิตประจำวันระบบอินเตอร์สเตตเดิมคาดว่าจะจ่าย $25 พันล้านอายุ 12 ปี แต่สิ้นสุดพันกว่า 35 ปีทุน $114 (หรือ $425 ล้านดอลลาร์ 2006)ไม่ได้ซื้อ $425 ล้านดอลลาร์เป็นระบบรถไฟความเร็วสูงที่ดี และเส้นทางจักรยานที่จะได้รับการสนับสนุนให้เติบโตอย่างยั่งยืนที่เพิ่มเติม มากกว่านั่นไม่ที่มีผลจากการลงทุนของเราในระบบทางหลวง อย่างไรก็ตาม การมองอนาคตเคยได้ข้อกำหนดเบื้องต้นที่ใช้สำหรับสำนักงานสาธารณะวิดีโอต่อไปนี้แสดงวิวัฒนาการของ San Francisco ตลาดถนน 1905 ถึง 2552มันเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพื่อดูวิธีช้าสิ่งที่ย้ายในค.ศ. 1905 ที่รวดเร็วสิ่งที่ย้ายเมื่อรถยนต์กลายเป็นโดดเด่น วิธีช้าสิ่งที่ย้ายอีกครั้งในศตวรรษที่ 21 จากความแออัดที่มีผลจากการมีรถยนต์มากเกินไปคุณสามารถดู นักปั่นจักรยานเป็นธรรมทั่วไปในส่วน 1905 ของคลิป แต่พวกเขาทั้งหมด แต่หายไปในปีต่อ ๆ มา – การส่งคืนผู้มีชัยใน 2009 ส่วนของวิดีโอโตรอนโตตั๋ว James จูเนียร์ 1907ขนส่งเปลี่ยนจากรถไฟอากาศ การขนส่ง และจัดส่งในหลายทศวรรษ การเดินทางทางอากาศ ขนส่งบรรทุก และการเดินเรือมหาสมุทรได้โดดเด่นให้ย้ายคนและสินค้าทั่วโลก – ขยับจากการเดินทางทางรถไฟในทศวรรษก่อนผู้โดยสารที่ใช้ UK ผู้โดยสารเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านผู้โดยสารในปี 1957 ผู้โดยสาร 241 ล้านมหันต์ใน 2007จะหาเรื่องที่คล้ายกันการเจ้าของรถยนต์ ใน 1960 สหรัฐอเมริกามียานยนต์ที่ 74 ล้าน – มีประชากร 180 ล้าน (รถหนึ่งสำหรับทุกคน 2.4) โดย 2004 จำนวนรถถังที่ได้เติบโตขึ้นใน 237 ล้านคันเมื่อเทียบกับประชากร 293 ล้าน (ที่มีเทียบเท่ารถสำหรับทุกคนที่ 1.2)ถ้าเราสมมติว่า 75% ของคนอเมริกันในปี 2004 ได้รับอนุญาตให้ไดรฟ์ ที่จะหมายถึง จะมีโดยเฉลี่ยมากกว่า 1 คันควบคุมลิขสิทธิ์ในปี 2004 – และแนวโน้มนี้ไม่ subsidedอเมริกาเหนือเป็นขยับไปจักรยานสำหรับการขนส่งอย่างไรก็ตาม จำกัดจำนวนพื้นที่สำหรับรถยนต์ บันทึกระดับของโรคอ้วน และการรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของสิ่งแวดล้อม dwindling คนกำลังทำการสลับไปใช้จักรยาน สำหรับการขนส่ง – เพียงแค่พวกเขาได้ทำในเนเธอร์แลนด์สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากสุ่มตัวอย่างหลายโหมดที่แตกต่างกันของการขนส่งปี ฉันสามารถมั่นใจพูดว่า ปั่นจักรยานเป็นโหมดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด น่าเชื่อถือ และสนุกการขนส่งที่ผมมีประสบการณ์ มันไม่มีสงสัยที่ peop

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การจัดเก็บจักรยานในโตรอนโต - ประมาณ 1898 - มารยาทภาพของเมืองโตรอนโตหอจดหมายเหตุหลังจากดูวิดีโอบน "ถนนเสร็จสมบูรณ์" โพสต์โดยเพื่อนของเราจากสมุนไพร iBikeTO.ca ปี 1905 ผมรู้สึกทึ่งกับวิธีการขนส่งในทวีปอเมริกาเหนือได้เปลี่ยนในสองสามที่ผ่านมา ศตวรรษ. เราได้ผ่านหลายขั้นตอนในประวัติศาสตร์การขนส่งของเรา ตั้งถิ่นฐานครั้งแรกของเรามาถึงในเมืองของเราด้วยน้ำ - เป็นหลักโดยการพายเรือแคนูพร้อมทะเลสาบของเราแม่น้ำและคลอง. รถไฟเป็นโหมดที่โดดเด่นต่อไปของการขนส่ง - ครั้งแรกที่ทางรถไฟในทวีปอเมริกาเหนือถูกสร้างขึ้นใน 1830 - หลายปีหลังจากอังกฤษได้เริ่มต้น การสร้างทางรถไฟของ. จักรยานเป็นรูปแบบที่พบของการพักผ่อนหย่อนใจและการขนส่งในช่วงปลายทศวรรษ 1800 ของรถเป็นที่นิยมในหลาย ๆ เมืองในขณะที่จักรยานทั่วไปเป็นรูปแบบของทั้งการสันทนาการและการขนส่ง โดยต้นปี 1900 ของรถยนต์ได้เริ่มต้นที่จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาในเมืองของเรา - แต่ที่อุดมไปด้วยสามารถซื้อรถยนต์ในวันนั้น. ในช่วงต้นปี 1900 เมืองนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อปูถนนของพวกเขา - ปรับปรุงมากจากฝุ่นและโคลนก่อนหน้านี้ ปีที่ผ่านมา. มันเป็นบิดผู้ที่สนับสนุนให้ถนนลาดยางแดกดันมันเป็นบิดผู้ที่สนับสนุนให้ถนนลาดยางในช่วง "ถนนที่ดีขบวนการ" จาก 1880 ปี 1916 ไม่น้อย wheelman เหล่านี้ตระหนักดีว่าการเรียกร้องให้ถนนที่ดีกว่าจะนำไปสู่การไหลบ่าเข้ามาของรถยนต์แห่งหนึ่งซึ่ง ในที่สุดก็จะขับรถบิดออกจากเมืองใหญ่หลาย. บนมืออื่น ๆ บิดในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เป็นหลักของกลางและสถานะชนชั้นสูงดังนั้นฉันคิดว่าไม่มีของพวกเขาได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการเปลี่ยนจากการปั่นจักรยานเพื่อการขับขี่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปในทศวรรษที่ผ่านมาหลังสงครามโลกครั้งที่สองเมืองในอเมริกาเหนือขยายกำลังการผลิตของพวกเขาถนนเพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่รถยนต์มากขึ้น นี้ทำเพื่อให้ทันกับความต้องการ แต่ก็ยังเหนี่ยวนำให้เกิดความต้องการ - การสร้างวงจรของการขยายตัวตามความต้องการตามการขยายตัวมากขึ้น -. ออกจากเราที่มีพื้นที่น้อยมากสำหรับการขยายตัวมากขึ้นและการจราจรที่กำลังการผลิตในหลาย ๆ เมืองของระบบรัฐ ใส่อเมริกาบนเส้นทางไปสู่รถยนต์พึ่งพานอกเมืองในอเมริกาเหนือ, เครือข่ายรัฐได้รับการพัฒนา ระบบรัฐเป็นเด็กประธานาธิบดีไอเซนฮาว - และอีกหลายรัฐปรบมือสำหรับการปรับปรุงการเคลื่อนไหวของสินค้าทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามระบบรัฐได้รับการสนับสนุนแผ่กิ่งก้านสาขาที่ได้ก่อให้เกิดอร์ทอเมริกันมากจะสมบูรณ์ขึ้นอยู่กับรถยนต์ของพวกเขาจะมีชีวิตอยู่ในชีวิตประจำวันของพวกเขา. ระบบรัฐแรกที่คาดว่าจะมีค่าใช้จ่าย $ 25 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา แต่จบลงด้วยการคิดต้นทุน $ 114 พันล้านกว่า 35 ปี (หรือ 425 $ พันล้านดอลลาร์ในปี 2006). $ 425 พันล้านดอลลาร์จะได้ซื้อค่อนข้างระบบรถไฟความเร็วสูงที่ดีและเส้นทางจักรยานที่จะได้รับการสนับสนุนการเจริญเติบโตที่ยั่งยืนมากขึ้นมากกว่าแผ่กิ่งก้านสาขาที่ไม่ยั่งยืนที่มีผลจากการลงทุนของเราในระบบทางหลวง อย่างไรก็ตามการมองการณ์ไกลไม่เคยเป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะใช้สำหรับสำนักงานสาธารณะ. วิดีโอต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของถนนตลาดซานฟรานซิสจาก 1905 กับปี 2009 มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะดูว่าช้าสิ่งที่ย้ายในปี 1905 วิธีการอย่างรวดเร็วสิ่งย้ายเมื่อรถยนต์กลายเป็นที่โดดเด่นในการ . วิธีช้าสิ่งที่ย้ายอีกครั้งในศตวรรษที่ 21 จากความแออัดที่มีผลจากการมีรถยนต์จำนวนมากเกินไปที่คุณสามารถดูบิดกันอย่างเป็นธรรมในส่วน 1905 ของคลิป แต่พวกเขาหายไปทั้งหมด แต่ในปีต่อ ๆ มา - ทำ ชัยชนะกลับในส่วน 2009 ของวิดีโอ. บิลเจมส์จูเนียร์ 1907 โตรอนโตขนส่งเปลี่ยนจากรถไฟไปในอากาศ, การขนส่งและเรือในหลายทศวรรษที่ผ่านมาการเดินทางทางอากาศ, รถบรรทุกขนและการเดินทางในมหาสมุทรเรือได้รับความสำเร็จสำหรับการเคลื่อนย้ายคนและสินค้ารอบ โลก -. ขยับจากการเดินทางด้วยรถไฟในทศวรรษที่ผ่านมาก่อนที่ผู้โดยสารที่ใช้สนามบินในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านบาทในปี 1957 ผู้โดยสารมหันต์ 241,000,000 ผู้โดยสารในปี 2007 เรื่องที่คล้ายกันสามารถพบได้เมื่อมองที่เป็นเจ้าของรถยนต์ ในปี 1960 ที่สหรัฐอเมริกามี 74 ล้านยานพาหนะ - มีประชากร 180 ล้านบาท (หนึ่งคันสำหรับทุกคน 2.4 บริการ) 2004 โดยจำนวนของยานพาหนะก็เพิ่มขึ้น 237 ล้านคัน - เทียบกับประชากร 293 ล้านคน (ที่เทียบเท่าหนึ่งคันสำหรับทุกๆ 1.2 คน). ถ้าเราคิดว่า 75% ของชาวอเมริกันในปี 2004 ได้รับใบอนุญาตขับรถที่จะหมายถึง จะมีการเฉลี่ยมากกว่า 1 คันต่อคนขับรถได้รับใบอนุญาตในปี 2004 - และแนวโน้มนี้ยังไม่ได้ลดลง. นอร์ทอเมริกาจะขยับจักรยานสำหรับการขนส่งแต่ด้วยจำนวน จำกัด ของพื้นที่สำหรับรถยนต์ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของโรคอ้วนและเพิ่มมากขึ้น ความตระหนักในสภาพแวดล้อมที่ลดน้อยลงของเราคนทำสลับไปใช้จักรยานสำหรับการขนส่ง -. เช่นเดียวกับที่พวกเขาได้รับการทำในประเทศเนเธอร์แลนด์มานานหลายทศวรรษหลังจากการสุ่มตัวอย่างโหมดที่แตกต่างกันของการขนส่งในช่วงหลายปีผมมั่นใจได้ว่าการปั่นจักรยานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โหมดความน่าเชื่อถือและความสนุกสนานของการขนส่งผมมีประสบการณ์ มันเป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ไม่มี PEOP

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จักรยานกระเป๋าในโตรอนโต–ประมาณ 1898 –มารยาทภาพจากหอจดหมายเหตุเมืองโตรอนโตหลังจากดู 1905 วิดีโอบน " ถนน " สมบูรณ์โพสต์โดยเพื่อนของเราสมุนไพรจาก ibiketo.ca ฉันถูก intrigued โดยวิธีการขนส่งในทวีปอเมริกาเหนือได้เปลี่ยนในศตวรรษที่สองที่ผ่านมาเราต้องผ่านหลายขั้นตอนในประวัติศาสตร์การขนส่งของเรา การตั้งถิ่นฐานครั้งแรกของเรามาถึงในเมืองของเราโดย–น้ำเป็นหลัก โดยพายเรือแคนูไปตามแม่น้ำและทะเลสาบของเรา , คลองรถไฟเป็นโหมดที่โดดเด่นต่อไปของการขนส่ง–ครั้งแรกทางรถไฟในทวีปอเมริกาเหนือ ถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1830 เพื่อหลายปีหลังจากที่อังกฤษได้เริ่มสร้างเป็นทางรถไฟจักรยานเป็นรูปแบบสามัญของนันทนาการและการขนส่งในปลายปี 1800 ของ , Directions เป็นที่นิยมในหลายเมือง ขณะที่จักรยานอยู่ทั่วไปเป็นรูปแบบของการพักผ่อนหย่อนใจและการขนส่ง โดยในช่วงต้น 1900 ของ รถยนต์ เริ่มกลายเป็นเรื่องธรรมดาใน–เมืองของเรา แต่คนรวยได้เท่าใด รถยนต์ในวันเหล่านั้นในช่วงต้น 1900 ของเมืองก็เริ่มปูถนนของพวกเขาและการปรับปรุงอย่างมาก จากฝุ่นและโคลนของปีก่อนหน้านี้ .มัน bicyclists ที่สนับสนุนสำหรับปูถนนแต่มัน bicyclists ที่สนับสนุนสำหรับปูถนน " ถนนที่ดีในการเคลื่อนไหว " จาก 1880 ถึง 2459 . เล็ก ๆน้อย ๆเหล่านี้ไม่สนับสนุน คนขับรถทราบว่า ถนนดีกว่า จะนำไปสู่การไหลเข้าของรถยนต์ ซึ่งในที่สุดก็จะขับรถ bicyclists ออกจากเมืองใหญ่มากบนมืออื่น ๆ , bicyclists ในปลายศตวรรษที่ 19 และเป็นกลางและชนชั้นสูง สถานะ ดังนั้นฉันคิดว่า ไม่มีของพวกเขาบ่นเกี่ยวกับการเปลี่ยนจากการขี่จักรยานเพื่อการขับขี่รถยนต์เครื่องยนต์เผาไหม้ในทศวรรษหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนอร์ทอเมริกันขยายถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการผลิตรถยนต์มากขึ้น นี้ทำเพื่อให้ทันกับความต้องการ แต่ยังสามารถสร้างเป็นวงจรของการขยายตัวและความต้องการตามความต้องการ ตามด้วยการขยายตัวมากขึ้นและเหลือเรากับพื้นที่น้อยมากสำหรับการขยายตัวมากขึ้นและการจราจรใช้ที่ความจุในเมืองมากระบบทางหลวงระหว่างรัฐใส่อเมริกาบนเส้นทางการพึ่งพารถยนต์ข้างนอกเมืองอเมริกาเหนือ เครือข่ายรัฐได้รับ ระบบทางหลวงระหว่างรัฐของประธานาธิบดีไอเซนฮาวร์ที่รัก–และหลายปรบมือระหว่างรัฐเพื่อปรับปรุงการเคลื่อนไหวของสินค้า ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม ระบบรัฐส่งเสริมให้โซลูชั่นที่ทำให้หลายคนอเมริกันเหนือเพื่อจะสมบูรณ์ขึ้นอยู่กับรถยนต์ของพวกเขาอาศัยอยู่ชีวิตของพวกเขาทุกวัน .ระบบทางหลวงระหว่างรัฐ เดิมคาดว่าจะเสียค่าใช้จ่าย $ 25 พันล้านกว่า 12 ปี แต่สิ้นสุดการคิดต้นทุน $ 114 พันล้านกว่า 35 ปี ( หรือ $ 425 พันล้านดอลลาร์ในปี 2006 )$ 425 ล้านดอลลาร์สามารถซื้อค่อนข้างดี ระบบรถไฟความเร็วสูง และบริการ เส้นทางที่จะสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนมากกว่าการไม่ยั่งยืนแผ่กิ่งก้านสาขาที่มีผลจากการลงทุนของเราในระบบทางหลวง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเคยมีที่จะทำงานสำหรับสำนักงานสาธารณะวิดีโอต่อไปนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของตลาดถนนซานฟรานซิสโกจาก 2448 ถึง 2009มันน่าสนใจเพื่อดูวิธีการที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวอย่างใน 1905 วิธีการได้อย่างรวดเร็วสิ่งที่ย้ายเมื่อรถยนต์กลายเป็นที่โดดเด่นเพื่อการเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ อีกครั้งในศตวรรษที่ 21 จากการติดขัดนั้นมีผลจากการที่รถยนต์มากเกินไปที่คุณสามารถดู , bicyclists ค่อนข้างทั่วไปใน พ.ศ. 2448 ส่วนของคลิป แต่พวกเขาทั้งหมด แต่หายไปในปีต่อมาซึ่งทำให้ได้รับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ใน 2009 ส่วนของวิดีโอบิลเจมส์ จูเนียร์ ปี 1907 ที่โตรอนโตเปลี่ยนจากรถไฟเพื่อการขนส่งทางอากาศ การขนส่ง และเรือในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา การเดินทางทางอากาศ , รถบรรทุกขนส่งและเรือมหาสมุทรเดินทางได้โดดเด่นสำหรับการย้ายบุคคลและผลิตภัณฑ์ทั่วโลก–ขยับจากรถไฟเดินทางในทศวรรษก่อนผู้โดยสารที่ใช้สนามบินชุมทาง UK เพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านผู้โดยสารในปี 1957 ถึงมหันต์ 241 ล้านผู้โดยสารในปี 2550เรื่องที่คล้ายกันสามารถพบได้เมื่อมองที่เป็นเจ้าของรถยนต์ ใน 1960 สหรัฐอเมริกามี 74 ล้านยานยนต์–มีประชากร 180 ล้านบาท ( รถทุก 5 คน ) โดยปี 2004 จำนวนของยานพาหนะที่เติบโตถึง 237 ล้านคัน และเมื่อเปรียบเทียบกับประชากร 293 ล้าน ( ที่เทียบเท่ารถทุก 1.2 คน )ถ้าเราสมมติว่า 75% ของชาวอเมริกันในปี 2004 มีใบอนุญาตขับรถ นั่นหมายความว่า จะมีค่าเฉลี่ยของมากกว่า 1 คันต่อควบคุมใบอนุญาตในปี 2004 ) และแนวโน้มนี้ยังไม่ลดลงอเมริกาเหนือจะเปลี่ยนจักรยานสำหรับการขนส่งอย่างไรก็ตาม ด้วยการจำกัดปริมาณของพื้นที่สำหรับรถยนต์ระดับบันทึกของโรคอ้วนและเพิ่มความตระหนักของสภาพแวดล้อมของเราลดน้อยลง ประชาชนมีการเปลี่ยนไปใช้จักรยานสำหรับ–การขนส่งเช่นเดียวกับที่พวกเขาทำในประเทศเนเธอร์แลนด์สำหรับทศวรรษที่ผ่านมาหลังจากการสุ่มตัวอย่างหลายโหมดที่แตกต่างกันของการขนส่งข้ามปี ผมสามารถพูดอย่างมั่นใจว่าจักรยานเป็นมีประสิทธิภาพมากที่สุดและเชื่อถือได้และโหมดสนุกของ t