กับดักรายได้ปานกลาง
1.อะไรคือกับดักรายได้ปานกลาง?
คำว่า “กับดักรายได้ปานกลาง” (middle-income trap) เริ่มปรากฏในงานวิจัยของธนาคารโลกในปี 2007 หลังจากนั้นมีบทความและการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ปรากฏออกมาจำนวนมาก ในช่วงเวลา 3-4 ปี มานี้ จากการชะลอตัวของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการหดตัวของการส่งออก เรื่องกับดักรายได้ปานกลางนี้มีการพูดถึงในประเทศไทยมากขึ้น แท้จริงแล้วประเทศไทยได้ติดอยู่ในกับดักนี้เป็นเวลาหลายปีแล้ว ตามการจำแนกรายได้ของธนาคารโลก ได้มีประเทศไทยได้เข้าสู่สถานะมีระดับรายได้ปานกลาง (middle-income country) ตั้งแต่ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจในปี 1997 หลายปีแล้ว ในปี 2011 ธนาคารโลกประกาศว่าประเทศไทยได้เลื่อนฐานะจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับต่ำ (lower- middle-income country) สู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลางระดับสูง (upper- middle-income country) แล้ว แต่จากการชะลอตัวลงอย่างมากของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยคงต้องอยู่ในสภาพประเทศที่รายได้ปานกลางต่อไปอีกหลายปี และมีผู้เห็นว่าประเทศของเรากำลังติดอยู่กับประเทศรายได้ปานกลางเช่นเดียวกับอีกหลายประเทศทั่วโลก
“กับดักรายได้ปานกลาง” คือ สภาพของประเทศสามารถพัฒนาจากประเทศยากจนที่มีรายได้ต่ำเข้าสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง แต่ก็ต้อง “ติดหล่ม” อยู่ในสภาพรายได้ปานกลาง โดยไม่มีแนวโน้มที่จะก้าวไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง
จากการศึกษาที่ผ่านมา ประเทศต่างๆในโลกมีเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ที่มีการกล่าวถึงกันมากก็อย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลีและไต้หวัน ส่วนประเทศที่ติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลางนั้นมีจำนวนมาก เช่น ประเทศต่างๆในอเมริกาใต้และประเทศส่วนใหญ่ในเอเชีย อย่างไรก็ตามหากไม่ได้ระบุระยะเวลาที่ชัดเจนแล้ว ประเทศที่มีรายได้ต่ำทุกประเทศจะสามารถเลื่อนฐานะไปสู่ประเทศรายได้ปานกลางได้ ตราบใดที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าศูนย์ แต่ประเทศที่มีการเจริญเติบโตช้า อาจต้องใช้เวลานานหลายทศวรรษจึงสามารถก้าวสู่ประเทศที่มีรายได้สูงได้ จึงมีผู้กล่าวว่า การที่ประเทศหนึ่งจะถูกจัดว่าประสบผลสำเร็จในการก้าวจากประเทศรายได้ระดับปานกลางสู่ประเทศรายได้สูงนั้น จะต้องเป็นประเทศที่สามารถเขยิบขึ้นจากรายได้ปานกลางไปสู่ระดับรายได้สูงได้ในระยะเวลาที่ไม่ยาวนานนัก เช่น จากประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงสู่ประเทศมีรายได้สูงอาจใช้เวลาเพียง 10 – 15 ปี ส่วนประเทศอื่นๆที่มีการเจริญเติบโตแต่ไม่สามารถเขยิบขึ้นจากรายได้ปานกลางเป็นรายได้สูงเป็นเวลานานหลายทศวรรษนั้น ถือได้ว่าเป็นประเทศที่ติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง
ในความเป็นจริงประเทศต่างๆในโลกไม่ว่าจะมีระดับรายได้มากน้อยเพียงใด ล้วนมีโอกาสติดหล่มหรือติดกับดักการเจริญเติบโตช้าหรือถึงกับมีการถดถอยในการพัฒนาเศรษฐกิจ เมื่อหลายสิบปีก่อนนักเศรษฐศาสตร์ที่ศึกษาการพัฒนาเศรษฐกิจมีการกล่าวถึง “วงจรชั่วร้ายของความยากจน” (Vicious cycle of poverty) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศยากจนหลายประเทศ คือ ตกอยู่ในวงจรความยากจนโดยไม่สามารถหลุดพ้นได้ เนื่องจากสาเหตุหลายประการ คือ มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำ แต่กลับมีประชากรเพิ่มขึ้นในอัตราสูง ทำให้รายได้เฉลี่ยของประชาชนตกต่ำ มีการบริโภค การออม การลงทุนในระดับต่ำ เมื่อเป็นเช่นนี้เศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ก็ไม่มีทางที่จะหลุดพ้นจากความยากจนได้ นอกจากประเทศที่มีรายได้ต่ำแล้ว ถ้าหันมาพิจารณาประเทศที่มีรายได้สูง จะพบว่าประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจต่ำและบางประเทศถึงกับมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ติดลบเป็นเวลาต่อเนื่องกันหลายปี จะเห็นได้ว่าประเทศที่มีรายได้สูงก็มี “กับดัก” การชะงักงันของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่เป็นเพียงประเทศที่มีระดับรายได้ปานกลางเท่านั้นที่มี “กับดัก” ประเทศต่างๆในทุกระดับรายได้ล้วนมีปัญหาการชะงักงันหรือการถดถอยทางเศรษฐกิจได้ทั้งนั้น
อย่างไรก็ตามประเทศที่เป็นประเทศรายได้ระดับปานกลางอยู่แล้ว จำเป็นต้องมีการพิจารณาว่า เหตุใดประเทศของตนจึงติดอยู่ในกับดักรายได้ปานกลาง และเมื่อไรจึงจะหลุดพ้นกับดักนี้และก้าวมาเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงสักที การศึกษาเรื่องกับดักรายได้ปานกลาง จึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีสาระและสมควรแก่การให้ความสนใจ
ปัจจัยที่ทำให้ติดกับดักรายได้ปานกลาง
ทำไมประเทศที่สามารถพัฒนาขึ้นมาจากประเทศยากจนสู่ประเทศที่มีรายได้ปานกลาง จึงไม่สามารถพัฒนาต่อไปเป็นประเทศที่มีรายได้สูงได้ เรื่องนี้มีการศึกษาวิเคราะห์กันมาเป็นเวลานานและมีผลงานทางวิชาการผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก
การที่ประเทศต้องติดกับดักรายได้ปานกลาง สาเหตุสำคัญเนื่องมาจากการสูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขัน ประเทศที่ต้องเพิ่งพาการส่งออกในการสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่สามารถขยายการส่งออกได้มาก หรือมีการหดตัวในปริมาณการส่งออก เนื่องจากสินค้าที่ผลิตได้ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าของประเทศอื่นในตลาดโลก การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต้องประสบกับข้อจำกัดหลายประการ การผลิตในภาคเศรษฐกิจต่างๆ ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตร และบริการมีคุณภาพต่ำ เทคโนโลยีการผลิตไม่เพียงแต่มีความล้าหลังกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว ยังต้องเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศที่มีรายได้ต่ำกว่าซึ่งมีการไล่ตามได้ทันทางด้านเทคโนโลยีและคุณภาพของสินค้า ทั้งยังมีค่าจ้างแรงงานและต้นทุนทางด้านอื่นๆที่ต่ำกว่า ประเทศที่ติดกับดักรายได้ปานกลางเหล่านี้การจะพัฒนาเศรษฐกิจให้มีระดับที่สูงต้องประสบกับอุปสรรคนานาประการ ทั้งข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยี คุณภาพของกกำลังคน การขาดแคลนสิ่งสาธารณูปโภคและการไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ในขณะที่ต้นทุนการผลิต เช่น ค้าจ้างแรงงานและต้นทุนอื่นเขยิบตัวสูงขึ้น แต่ประสิทธิภาพการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นตามอัตราเพิ่มของต้นทุน
ปัญหาที่ทำให้ติดกับดักรายได้ปานกลางของแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกันบ้าง แต่จากประสบการณ์ของประเทศต่างๆที่ต้องติดกับดักรายได้ปานกลาง ปัจจัยสำคัญสรุปได้ ดังนี้
ละเลยการพั