The performance of the nanofiber as

The performance of the nanofiber as reinforcing agent is also
associated with other features such as surface charge (zeta potential).
According to Tholstrup Sejersen et al. (2007), nanosized particles
should have high zeta potential, so that the colloidal
suspension can resist aggregation, to increase its degree of
dispersion in the composite. In neutral water, all the CNFs suspensions
exhibited negative zeta potential; the values were 16.1
and 25.7 mV for the nanoparticles obtained by CT and ET,
respectively. Bondeson and Oksman (2007) reported that hydrolysis
with sulfuric acid elicited electrostatic repulsion between
nanofibers in suspension, and that this process introduced natural
sulfate groups into the nanofiber surface. However, ET led to CNFs
with the highest zeta potential, showing that the resulting nanofibers
were more electrically stable. Higher electrostatic repulsion
existed between the fibers in this case, providing enough surface
charges to stabilize the suspension. CNFs from CT, on the other
hand, were more likely to aggregate. This could jeopardize their
ability to act as reinforcing agents in polymer matrices.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประสิทธิภาพของ nanofiber ที่เป็นตัวแทนเสริมเป็นเกี่ยวข้องกับคุณลักษณะอื่น ๆ เช่นค่าธรรมเนียมพื้นผิว (แคเธอรีนซีตาเป็นไปได้)ตาม Tholstrup Sejersen et al. (2007), อนุภาคตัวรองควรมีศักยภาพสูงซีตา ให้การ colloidalระบบกันสะเทือนสามารถต้านทานรวม การเพิ่มขึ้นของระดับของกระจายตัวในคอมโพสิต กลางน้ำ บริการ CNFs ทั้งหมดจัดแสดงศักยภาพ ลบซีตา ค่า 16.1และ 25.7 mV สำหรับเก็บกักได้รับ CT และ ETตามลำดับ Bondeson และ Oksman (2007) รายงานว่า ไฮโตรไลซ์กับกรดซัลฟิวริก elicited repulsion สถิตระหว่างnanofibers ในระบบกันสะเทือน และว่า กระบวนการนี้นำธรรมชาติซัลเฟตกลุ่มเป็นผิว nanofiber อย่างไรก็ตาม ET นำไป CNFsด้วยสุดซีตาอาจเกิดขึ้น แสดงที่ nanofibers ได้ได้เพิ่มเติมด้วยระบบไฟฟ้ามีเสถียรภาพ Repulsion สถิตสูงอยู่ระหว่างเส้นใยในกรณีนี้ ให้พื้นที่เพียงพอค่าธรรมเนียมเพื่อรักษาเสถียรภาพการระงับ CNFs จาก CT อื่น ๆมือ ถูกมากอาจจะรวม นี้สามารถ jeopardize ของพวกเขาความสามารถในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนในพอลิเมอร์เมทริกซ์ภาคเอกชน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสิทธิภาพการทำงานของเส้นใยนาโนเป็นตัวแทนเสริมนอกจากนี้ยังมี
การเชื่อมโยงกับคุณสมบัติอื่น ๆ เช่นค่าใช้จ่ายพื้นผิว (ที่มีศักยภาพซีตา)
ตาม Tholstrup Sejersen และคณะ (2007) อนุภาค nanosized
ควรจะมีศักยภาพซีตาสูงเพื่อให้คอลลอยด์
ระงับสามารถต้านทานการรวมตัวเพื่อเพิ่มระดับของ
การกระจายตัวในการประกอบ ในน้ำที่เป็นกลางทั้งหมดสนอง CNFs
แสดงศักยภาพซีตาลบ ค่าที่เป็น? 16.1
และ? 25.7 mV สำหรับอนุภาคนาโนที่ได้จาก CT และ ET,
ตามลำดับ Bondeson และ Oksman (2007) รายงานว่าไฮโดรไลซ์
ด้วยกรดซัลฟูริกแคะเขม่นไฟฟ้าสถิตระหว่าง
เส้นใยนาโนในการระงับและว่ากระบวนการนี้นำธรรมชาติ
กลุ่มซัลเฟตเข้าไปในพื้นผิวเส้นใยนาโน แต่ ET นำไปสู่การ CNFs
ที่มีศักยภาพซีตาที่สูงที่สุดแสดงให้เห็นว่าเส้นใยนาโนทำให้
มีไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น เขม่นไฟฟ้าสถิตสูง
อยู่ระหว่างเส้นใยในกรณีนี้ให้พื้นผิวพอ
ค่าใช้จ่ายในการรักษาเสถียรภาพของระบบกันสะเทือน CNFs จาก CT ในอื่น ๆ
มือมีแนวโน้มที่จะรวม นี้อาจเป็นอันตรายต่อพวกเขา
ความสามารถในการทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเสริมเมทริกซ์ลิเมอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประสิทธิภาพของนาโนไฟเบอร์ที่เสริมตัวแทนยัง
ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติอื่น ๆเช่น ประจุที่ผิว ( ศักย์ซีต้า ) .
ตาม tholstrup sejersen et al . ( 2007 ) , nanosized อนุภาค
ควรมีศักยภาพซีต้าสูง เพื่อให้สารแขวนลอยคอลลอยด์
สามารถต้านการเกาะกลุ่มเพื่อเพิ่มระดับของ
กระจายในคอมโพสิต ในน้ำทั้งหมด cnfs สารแขวนลอย
เป็นกลางจัดแสดงศักยภาพค่าลบ มีค่า  16.1
 25.7 และ MV สำหรับอนุภาคนาโนที่ได้จาก CT และ ET
ตามลำดับ และ bondeson oksman ( 2007 ) รายงานว่า การย่อยด้วยกรดโดยใช้การขับไล่

ไฟฟ้าสถิตระหว่างเส้นใยในการระงับ และกระบวนการนี้รู้จักธรรมชาติ
ซัลเฟตกลุ่มเข้าไปในพื้นผิวนาโนไฟเบอร์ . อย่างไรก็ตาม และนำไปสู่ cnfs
ที่มีศักยภาพสูงที่สุดเพื่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผลเส้นใย
มีไฟฟ้ามีเสถียรภาพมากขึ้น สูงกว่าอนุกรรมการ
อยู่ระหว่างเส้นใย ในกรณีนี้ ให้ข้อกล่าวหาพื้นผิว
พอที่จะทำให้ระงับ cnfs จาก CT , บนมืออื่น ๆ
, มีแนวโน้มที่จะรวม . นี้จะทำให้ความสามารถในการทำหน้าที่ของพวกเขา
เสริมตัวแทนในพอลิเมอร์เมทริกซ์