Research and evidence supporting co

Research and evidence supporting constructivism[edit]

Hmelo-Silver, Duncan, & Chinn cite several studies supporting the success of the constructivist problem-based and inquiry learning methods. For example, they describe a project called GenScope, an inquiry-based science software application. Students using the GenScope software showed significant gains over the control groups, with the largest gains shown in students from basic courses.[5]

Hmelo-Silver et al. also cite a large study by Geier on the effectiveness of inquiry-based science for middle school students, as demonstrated by their performance on high-stakes standardized tests. The improvement was 14% for the first cohort of students and 13% for the second cohort. This study also found that inquiry-based teaching methods greatly reduced the achievement gap for African-American students.[5]

Guthrie et al. (2004) compared three instructional methods for third-grade reading: a traditional approach, a strategies instruction only approach, and an approach with strategies instruction and constructivist motivation techniques including student choices, collaboration, and hands-on activities. The constructivist approach, called CORI (Concept-Oriented Reading Instruction), resulted in better student reading comprehension, cognitive strategies, and motivation.[6]

Jong Suk Kim found that using constructivist teaching methods for 6th graders resulted in better student achievement than traditional teaching methods. This study also found that students preferred constructivist methods over traditional ones. However, Kim did not find any difference in student self-concept or learning strategies between those taught by constructivist or traditional methods.[7]

Doğru and Kalender compared science classrooms using traditional teacher-centered approaches to those using student-centered, constructivist methods. In their initial test of student performance immediately following the lessons, they found no significant difference between traditional and constructivist methods. However, in the follow-up assessment 15 days later, students who learned through constructivist methods showed better retention of knowledge than those who learned through traditional methods

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

งานวิจัยและหลักฐานที่สนับสนุนศิลปะเค้าโครง [แก้ไข]Hmelo-ซิลเวอร์ ดันแคน และ Chinn อ้างอิงหลายการศึกษาสนับสนุนความสำเร็จของแบบสร้างสรรค์นิยมตามปัญหาและสอบถามวิธีการเรียนรู้ ตัวอย่าง พวกเขาอธิบายโครงการที่เรียกว่า GenScope ประยุกต์ซอฟต์แวร์วิทยาศาสตร์จากการสอบถาม นักเรียนที่ใช้ซอฟต์แวร์ GenScope พบกำไรอย่างมีนัยสำคัญมากกว่ากลุ่มควบคุม กับกำไรที่ใหญ่ที่สุดที่แสดงในนักเรียนจากหลักสูตรพื้นฐาน [5]Al. et Hmelo เงินอ้างอิงการศึกษาขนาดใหญ่ โดย Geier บนประสิทธิภาพของวิทยาศาสตร์โดยใช้การสอบถามสำหรับนักเรียนมัธยม ยังเป็นโดยการปฏิบัติเกี่ยวกับการทดสอบมาตรฐานระทึก ปรับปรุงเป็น 14% ใน cohort แรกของนักเรียนและ 13% สำหรับ cohort ที่สอง การศึกษานี้พบว่า วิธีสอนโดยใช้การสอบถามมากลดช่องว่างความสำเร็จสำหรับนักศึกษา African-American [5]Guthrie et al. (2004) เปรียบเทียบวิธีสอน 3 ชั้นประถมศึกษาปีที่สามอ่าน: วิธีการแบบดั้งเดิม วิธีเฉพาะคำแนะนำกลยุทธ์ และวิธีการ ด้วยกลยุทธ์การสอนและแบบสร้างสรรค์นิยมแรงจูงใจเทคนิครวมทั้งตัวนักเรียน ร่วมกัน และกิจกรรมอีกด้วย วิธีแบบสร้างสรรค์นิยม เรียกว่า CORI (Concept-Oriented อ่านคำแนะนำ), ให้อ่านทำความเข้าใจ รับรู้ และกลยุทธ์แรงจูงใจนักเรียนที่ดีขึ้น [6]Jong Suk Kim พบว่า ใช้แบบสร้างสรรค์นิยมสอนวิธีสำหรับนักเรียนชั้น 6 ให้นักเรียนผลสัมฤทธิ์ที่ดีกว่าวิธีการสอนแบบดั้งเดิม การศึกษานี้พบว่า นักเรียนต้องการแบบสร้างสรรค์นิยมวิธีผ่านคนดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม คิมไม่พบความแตกต่างใน self-concept นักศึกษา หรือเรียนรู้กลยุทธ์ผู้สอน โดยวิธีการแบบดั้งเดิมหรือแบบสร้างสรรค์นิยม [7]Doğru และ Kalender เปรียบเทียบห้องเรียนวิทยาศาสตร์โดยใช้วิธีแปลกครูแบบดั้งเดิมที่ใช้นักเรียนแปลก แบบสร้างสรรค์นิยมวิธี ในของพวกเขาเริ่มต้นการทดสอบประสิทธิภาพในการทำงานของนักเรียนต่อการเรียน พวกเขาพบไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างแบบดั้งเดิม และแบบสร้างสรรค์นิยมวิธีการ อย่างไรก็ตาม ในการติดตามประเมินผลภายหลัง 15 วัน นักเรียนที่เรียนรู้ผ่านวิธีการแบบสร้างสรรค์นิยมแสดงให้เห็นว่ารักษาความรู้ดีกว่าคนที่เรียนรู้ผ่านวิธีการแบบดั้งเดิม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิจัยและหลักฐานประกอบ Hmelo - based ตัวอย่างเช่นพวกเขาอธิบายโครงการที่เรียกว่า - วิทยาศาสตร์ตามโปรแกรมซอฟต์แวร์ นักเรียนใช้ซอฟต์แวร์ Hmelo-Silver et al, นอกจากนี้ยังกล่าวถึงการศึกษาขนาดใหญ่โดย การปรับปรุงเป็น การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าการสอบสวนตามวิธีการสอนที่ลดลงอย่างมากช่องว่างความสำเร็จสำหรับนักเรียนอเมริกันGuthrie et al, (2004) คอนสตรัคติวิธีการที่เรียกว่า จงซอกคิมพบว่าการใช้วิธีการสอนที่คอนสตรัคติสำหรับนักเรียนระดับประถม การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่านักเรียนที่ต้องการวิธีการคอนสตรัคติกว่าคนแบบดั้งเดิม แต่คิมไม่พบความแตกต่างใด ๆ ในแนวความคิดของนักเรียนด้วยตนเองหรือกลยุทธ์การเรียนรู้ระหว่างผู้สอนโดยวิธีการแบบดั้งเดิมหรือคอนสตรัคติ อย่าG RU - วิธีการเป็นศูนย์กลางให้กับผู้ใช้ของนักเรียน- ศูนย์กลางคอนสตรัคติ วิธีการ ในการทดสอบครั้งแรกของพวกเขาในประสิทธิภาพของนักเรียนทันทีหลังจากบทเรียนที่พวกเขาพบว่าไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างวิธีการแบบดั้งเดิมและคอนสตรัคติ อย่างไรก็ตามในการประเมินติดตาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยและหลักฐานสนับสนุนสรรค์ [ แก้ไข ]

hmelo เงิน , ดันแคน , &ชินอ้างถึงการศึกษาที่สนับสนุนความสำเร็จของตนเอง และการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้วิธี ตัวอย่างเช่นพวกเขาอธิบายโครงการที่เรียกว่า genscope การสอบถามจากซอฟต์แวร์โปรแกรมวิทยาศาสตร์ ที่เรียนโดยใช้ซอฟต์แวร์ genscope อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นมากกว่ากลุ่มควบคุมกับที่ใหญ่ที่สุดได้รับแสดงในนักเรียนจากหลักสูตรพื้นฐาน [ 5 ]

hmelo ซิลเวอร์ et al . ยังอ้างถึงขนาดใหญ่การศึกษาโดยไกเออร์บนประสิทธิภาพของวิทยาศาสตร์ตามการสอบถามสำหรับนักเรียน ม.ต้น ที่แสดงให้เห็นโดยการแสดงตนบนเดิมพันสูงตามมาตรฐานการทดสอบ การปรับปรุง 14% สำหรับหมู่คนแรกของนักเรียนและ 13% สำหรับเพื่อนรุ่นที่สองการศึกษานี้ยังพบว่า การใช้วิธีการสอนอย่างมากสามารถลดช่องว่างทางการเรียนสำหรับนักเรียนชาวอเมริกันแอฟริกัน . [ 5 ]

Guthrie et al . ( 2004 ) เปรียบเทียบสามวิธีสอนอ่านเกรด 3 : วิธีการแบบดั้งเดิม , กลยุทธ์การสอนเพียงวิธีการและวิธีการ ด้วยกลยุทธ์การสอนและเทคนิคการจูงใจตนเองรวมทั้งตัวเลือก นักเรียน นักศึกษาความร่วมมือและกิจกรรมภาคปฏิบัติ รูปแบบการสอนวิธีการเรียกโคริ ( แนวคิดที่มุ่งเน้นการสอนอ่าน ) พบในการอ่านเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นของนักเรียน , กลยุทธ์ , การคิดและแรงจูงใจ [ 6 ]

จองซุก คิม พบว่า การใช้วิธีสอนตามแนวคิดที่ 6 นักเรียนทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีขึ้นกว่าเดิม สอนวิธีการศึกษานี้ยังพบว่า นักเรียนชอบวิธีการคอนสมากกว่าคนปกติ อย่างไรก็ตาม คิม ไม่พบความแตกต่างในพฤติกรรมการเรียนรู้ระหว่างนักเรียน หรือกลยุทธ์ของกลุ่มตนเอง หรือวิธีการแบบดั้งเดิม [ 7 ]

ทำğ RU และปฏิทินเทียบวิทยาศาสตร์ห้องเรียนแบบครูเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตามแนวคิดโดยใช้ในการเริ่มต้นการทดสอบของนักเรียนทันทีตามบทเรียนที่พวกเขาพบว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างแบบดั้งเดิมและวิธีการที่ตนเอง อย่างไรก็ตามในการติดตามประเมิน 15 วันต่อมา นักเรียนที่เรียนด้วยวิธีการที่ดีกว่าการเก็บรักษาความรู้ให้ตนเองมากกว่าผู้ที่เรียนรู้ผ่านวิธีการแบบดั้งเดิม