Two main issues were discussed at t

Two main issues were discussed at the analyst meeting yesterday. 1)
PTT has planned to sell its entire shareholding of 27.22% in BCP in order
to reduce its monopoly in the refinery business. However, if the share
selling does occur, BCP still believes that it would not affect its business
operation since their current business relationship is mostly in a form of
technology and knowledge exchanges and combining raw material
orders for lower production cost, which have had insignificant benefit for
the current operation of BCP. 2) Regarding the penetration into an
upstream business of petroleum production and exploration which has
been objected by shareholders and investors, PTT explained that the
investment would help strengthen domestic crude oil supply for BCP’s
refinery in the long run. It is preliminarily believed that PTT will join with
a company that has an expertise and experience in this business.
However, with the B5bn cash in hand, BCP’s cash flow from operation of
B5bn a year on average, and low net D/E ratio of only 0.22x, PTT has a
potential to invest in the business without an impact on BCP’s financial
status.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาหลักสองได้อภิปรายในการประชุมเมื่อวานนี้นักวิเคราะห์ 1)ปตท.มีแผนจะขายหุ้นทั้งหมดของ 27.22% BCP ในใบสั่งเพื่อลดการผูกขาดในธุรกิจโรงกลั่น อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้ร่วมกันขายเกิดขึ้น BCP ยังเชื่อว่า มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการดำเนินงานเนื่องจากความสัมพันธ์ทางธุรกิจปัจจุบันส่วนใหญ่ในรูปแบบของแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยีและวัตถุดิบรวมประโยชน์ของใบสั่งสำหรับต้นทุนการผลิตต่ำ ซึ่งมีสำคัญสำหรับการดำเนินงานปัจจุบันของ BCP 2) เจาะเข้าไปในเกี่ยวกับการธุรกิจขั้นต้นน้ำซึ่งมีการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแล้วปตท. objected โดยผู้ถือหุ้นและนักลงทุน อธิบายว่า การลงทุนจะช่วยเพิ่มอุปทานน้ำมันดิบภายในประเทศสำหรับของ BCPโรงกลั่นในระยะยาว Preliminarily เชื่อว่า PTT จะเข้าร่วมด้วยบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้อย่างไรก็ตาม ด้วยการ B5bn เงินสดในมือ BCP ของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของB5bn ปีกับค่าเฉลี่ย และต่ำสุทธิ D/E อัตราเพียง$ 0.22 x ปตท.มีการศักยภาพในการลงทุนในธุรกิจโดยไม่มีผลกระทบด้าน BCP ของเงินสถานะการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สองประเด็นหลักที่จะมีการหารือในที่ประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ 1)
ปตท. มีการวางแผนที่จะขายสัดส่วนการถือหุ้นทั้งหมดของ 27.22% ใน BCP ในการสั่งซื้อ
เพื่อลดการผูกขาดในธุรกิจโรงกลั่น แต่ถ้าหุ้น
ที่ขายไม่เกิดขึ้น บริษัท ฯ ยังคงเชื่อว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ บริษัท ฯ
ดำเนินการมาตั้งแต่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของพวกเขาในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบของ
เทคโนโลยีและการแลกเปลี่ยนความรู้และการรวมวัตถุดิบที่
สั่งซื้อสำหรับต้นทุนการผลิตลดลงซึ่งมีผลประโยชน์ที่ไม่มีนัยสำคัญ สำหรับ
การดำเนินการปัจจุบันของ BCP 2) เกี่ยวกับการรุกเข้าสู่
ธุรกิจต้นน้ำของการผลิตปิโตรเลียมและการสำรวจซึ่งได้
รับการคัดค้านจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุนปตท. ชี้แจงว่า
การลงทุนจะช่วยเสริมสร้างอุปทานน้ำมันดิบในประเทศของ BCP
โรงกลั่นในระยะยาว มันเป็นความเชื่อในเบื้องต้นว่าปตท. จะได้ร่วมกับ
บริษัท ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้.
แต่ด้วยเงินสด 5 พันล้านบาทในมือของกระแสเงินสดของ BCP จากการดำเนินการ
5 พันล้านบาทต่อปีโดยเฉลี่ยสุทธิต่ำ D / E ของ บริษัท เพียง 0.22 เท่า, ปตท. มี
ศักยภาพในการลงทุนในธุรกิจโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินของ บริษัท
สถานะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สองประเด็นหลักที่ถูกกล่าวถึงในการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ 1 ) ปตท. ได้วางแผน
ขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท เพื่อ 27.22 %
ลดของการผูกขาดในธุรกิจโรงกลั่น แต่ถ้าแบ่งปัน
ขายเกิดขึ้น บริษัทยังเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานทางธุรกิจ
นับตั้งแต่ความสัมพันธ์ทางธุรกิจในปัจจุบันของพวกเขาส่วนใหญ่ในรูปแบบของ
การแลกเปลี่ยนและการรวมวัตถุดิบ
สั่งซื้อเพื่อลดต้นทุนการผลิต เทคโนโลยี และความรู้ ซึ่งมีประโยชน์ไม่
ปฏิบัติการปัจจุบันของบริษัท . 2 ) เกี่ยวกับการเจาะเข้าไปในธุรกิจต้นน้ำของการผลิตปิโตรเลียมการสำรวจ

ถูกคัดค้านและมีผู้ถือหุ้นและนักลงทุน ปตท. ชี้แจงว่า
การลงทุนจะช่วยเสริมสร้างอุปทานน้ำมันดิบในประเทศบริษัท
โรงกลั่นในระยะยาว มันคือ เบื้องต้นเชื่อว่า ปตท. จะเข้าร่วมกับ
เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจนี้ .
แต่ด้วย b5bn เงินสดในมือ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท
b5bn ปีโดยเฉลี่ย และ D / E Ratio ต่ำสุทธิเพียงของ ปตท. มี
ศักยภาพที่จะลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท
.