X-ray diffraction patterns of silic

X-ray diffraction patterns of silica produced by various acids are shown in Fig. 5(a). The broad diffraction peak at 2θ angle of 22.5° is a typical silica characteristic, attributed to the absence of an ordered crystalline structure [23]. This result reveals that sodium silicate samples treated with various types of acid do not affect the crystalline structure of products. Peak intensity of silica obtained from rice husk ash is higher than that of silica produced from the alkali extraction process. This is because heating silica at high temperature will convert a less ordered structure to a more highly ordered structure [17]. The literature observed a similar pattern for silica obtained from rice husk combustion [35]. Notably, when we wash the aquagel once with water after silica formation, a small peak presents at 2θ angle from 31° to 33° in the sample, due to the formation of NaCl residue. However, the salt peak disappears when the aquagel is water-washed three times, indicating a much lower sodium concentration. This study thus concludes that water washing the aquagel at least three times was more effective in removing sodium impurities than that of a single aquagel washing with water.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปแบบการเลี้ยวเบนเอ็กซ์เรย์ของซิลิก้าที่ผลิต ด้วยกรดต่าง ๆ จะแสดงใน Fig. 5(a) คการเลี้ยวเบนที่กว้างที่มุม 22.5 องศา 2θ มีลักษณะเป็นซิลิกาทั่วไป บันทึกการขาดงานของการสั่งผลึกโครงสร้าง [23] ผลลัพธ์นี้พบว่า ตัวอย่างโซเดียมรักษา ด้วยกรดชนิดต่าง ๆ ไม่มีผลต่อโครงสร้างผลึกของผลิตภัณฑ์ ความเข้มสูงสุดของซิลิกาที่ได้จากเถ้าแกลบจะสูงกว่าที่ผลิตจากกระบวนการสกัดแอลคาไลก้า ทั้งนี้เนื่องจากซิลิก้าที่อุณหภูมิสูงความร้อนจะแปลงโครงสร้างการสั่งซื้อน้อยกว่าโครงสร้างมากกว่าสั่ง [17] เอกสารประกอบการการสังเกตรูปแบบเหมือนในซิลิกาที่ได้จากการเผาไหม้แกลบข้าว [35] ยวด เมื่อเราล้าง aquagel ครั้งน้ำหลังจากการก่อตัวของซิลิก้า สูงสุดเล็กแสดงที่มุม 2θ จาก 31° ° 33 ในตัวอย่าง เนื่องจากการก่อตัวของ NaCl สารตกค้าง อย่างไรก็ตาม คเกลือหายไปเมื่อ aquagel เป็นน้ำล้างสามครั้ง แสดงมากล่างโซเดียมเข้มข้น การศึกษานี้จึงสรุปว่า น้ำล้าง aquagel ตัวน้อยสามครั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการลบสิ่งสกปรกโซเดียมมากกว่าที่ aquagel เดียวที่ล้างน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบการเลี้ยวเบนรังสีเอกซ์ของซิลิกาที่ผลิตโดยกรดต่างๆที่แสดงในรูป 5 (ก) เลนส์กว้างสูงสุดที่มุม2θ 22.5 °เป็นลักษณะซิลิกาทั่วไปประกอบกับกรณีที่ไม่มีโครงสร้างผลึกสั่ง [23] ผลที่ได้นี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มตัวอย่างที่ได้รับการรักษาโซเดียมซิลิเกตกับประเภทต่างๆของกรดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างผลึกของผลิตภัณฑ์ จุดสูงสุดของซิลิกาที่ได้จากขี้เถ้าแกลบเป็นราคาที่สูงกว่าของซิลิกาที่ผลิตจากกระบวนการสกัดอัลคาไล เพราะนี่คือซิลิกาความร้อนที่อุณหภูมิสูงจะแปลงโครงสร้างที่สั่งซื้อน้อยที่จะมีโครงสร้างที่สั่งซื้อสูงขึ้น [17] วรรณกรรมสังเกตรูปแบบที่คล้ายกันสำหรับซิลิกาที่ได้จากการเผาไหม้แกลบ [35] โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราล้าง aquagel ครั้งด้วยน้ำหลังจากการก่อซิลิกาของขวัญยอดเขาเล็ก ๆ ที่มุม2θจาก 31 °ถึง 33 °ในตัวอย่างเนื่องจากการก่อตัวของสารตกค้างโซเดียมคลอไรด์ อย่างไรก็ตามยอดเกลือหายไปเมื่อ aquagel เป็นน้ำล้างสามครั้งแสดงให้เห็นความเข้มข้นของโซเดียมต่ำก​​ว่ามาก การศึกษาครั้งนี้จึงสรุปว่าการล้างน้ำ aquagel อย่างน้อยสามครั้งมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการลบสิ่งสกปรกโซเดียมกว่า aquagel เดียวซักผ้าด้วยน้ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปแบบการเลี้ยวเบนรังสีเอ็กซ์ของซิลิกาที่ผลิตจากกรดต่าง ๆที่แสดงในรูปที่ 5 ( ) เลนส์กว้างสูงสุดที่ 2 θมุม 22.5 เมตร เป็นลักษณะซิลิกาทั่วไป ประกอบกับการขาดสั่งผลึกโครงสร้าง [ 23 ] ผลที่ได้นี้พบว่าตัวอย่างโซเดียมซิลิเกตที่ได้รับการรักษาด้วยกรดชนิดต่างๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของผลิตภัณฑ์ความเข้มสูงสุดของซิลิกาที่ได้จากแกลบจะสูงกว่าของอัลคาไลการสกัดซิลิกาที่ผลิตจากกระบวนการ นี้เป็นเพราะความร้อนซิลิกาที่อุณหภูมิสูงจะแปลงน้อยสั่งโครงสร้างอย่างสั่งโครงสร้าง [ 17 ] วรรณกรรมสังเกตลักษณะของซิลิกาที่ได้จากการเผาไหม้แกลบ [ 35 ] โดยเฉพาะเมื่อเราล้างด้วยน้ำหลังจากการก่อตัว aquagel เมื่อซิลิกา ยอดเล็ก ๆที่มุมθแสดง 2 จาก 31 / 33 องศา ในตัวอย่าง เนื่องจากการเกิด NaCl กาก อย่างไรก็ตาม ยอดเกลือหายไปเมื่อ aquagel น้ำล้าง 3 ครั้ง แสดงว่าความเข้มข้นของโซเดียมต่ำมากการศึกษานี้จึงสรุปได้ว่า น้ำล้าง aquagel อย่างน้อยสามครั้งมีประสิทธิภาพในการลบโซเดียมปลอมกว่าของเดียว aquagel ล้างด้วยน้ำ