บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุปร

บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1
มหาวิทยาลัยพะเยา ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยา เลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธี การสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (Quota sampling) โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 350 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อโดยใช้ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าต่ำสุด และค่าสูงสุด เพื่อใช้ในการพรรณนาข้อมูลทั่วไป หาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยา โดยใช้
ไคสเเควร์ (Chi-Square Test)
ผลการวิจัยพบว่า นิสิชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยา ส่วนใหญ่ไม่เคยสูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 78.3 กลุ่มที่สูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 13.1 และกลุ่มที่สูบบุหรี่แต่เลิกแล้วคิดเป็นร้อยละ 8.6 สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการสูบบุหรี่ของนิสิตได้แก่ ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ ทัศนคติเกี่ยวกับการสูบบุหรี่ สถานที่นิสิตพักอาศัยอยู่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และพบว่าปัจจัยที่ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายได้ของนิสิต สถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว การออกกำลังกาย การเป็นนักกีฬา ระดับการได้รับข่าวสาร กิจกรรมที่ทำเวลาว่าง สถานภาพสมรสบิดา-มารดา บุคคลที่ต้องการยึดถือเป็นแบบอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (สุ่มตัวอย่างโควตา) โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 350 คนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อโดยใช้ความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดเพื่อใช้ในการพรรณนาข้อมูลทั่วไปหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาโดยใช้ไคสเเควร์ (การทดสอบไคสแควร์) ผลการวิจัยพบว่านิสิชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาส่วนใหญ่ไม่เคยสูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 78.3 กลุ่มที่สูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 13.1 และกลุ่มที่สูบบุหรี่แต่เลิกแล้วคิดเป็นร้อยละ 8.6 สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการสูบบุหรี่ของนิสิตได้แก่ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ทัศนคติเกี่ยวกับการสูบบุหรี่สถานที่นิสิตพักอาศัยอยู่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพบว่าปัจจัยที่ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้แก่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายได้ของนิสิตสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวการออกกำลังกายการเป็นนักกีฬาระดับุคคลที่ต้องการยึดถือเป็นแบบอย่างบการได้รับข่าวสารกิจกรรมที่ทำเวลาว่างสถานภาพสมรสบิดา-มารดา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1
มหาวิทยาลัยพะเยาประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธี การสุ่มตัวอย่างแบบโควตา (โควต้าการสุ่มตัวอย่าง) โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 350 คน วิเคราะห์ข้อโดยใช้ความถี่ร้อยละค่า เฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดเพื่อใช้ในการพรรณนาข้อมูลทั่วไป 1 โดยมหาวิทยาลัยพะเยาใช้
ไคสเเห่งควร์ (Chi-square test)
ผลการวิจัยพบว่านิสิชาย ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยา 78.3 กลุ่มที่สูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 13.1 8.6 ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ทัศนคติเกี่ยวกับ การสูบบุหรี่สถานที่นิสิตพักอาศัยอยู่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายได้ของนิสิต สถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวการออกกำลังกายการเป็นนักกีฬาระดับการได้รับข่าวสารกิจกรรมที่ทำเวลาว่างสถานภาพสมรสบิดา - มารดาบุคคลที่ต้องการยึดถือเป็นแบบอย่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ : การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1มหาวิทยาลัยพะเยาประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบโควตา ( ตัวอย่างแบบโควต้า ) โดยมีกลุ่มตัวอย่าง 350 คนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ใช้แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อโดยใช้ความถี่ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบ ี่ยงเบนมาตรฐานค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดเพื่อใช้ในการพรรณนาข้อมูลทั่วไปหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของนิสิตชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาโดยใช้ไคสเเควร์ ( ไคสแควร์ )ผลการวิจัยพบว่านิสิชายชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยพะเยาส่วนใหญ่ไม่เคยสูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละเท่ากับกลุ่มที่สูบบุหรี่คิดเป็นร้อยละ 13.1 และกลุ่มที่สูบบุหรี่แต่เลิกแล้วคิดเป็นร้อยละ 8.6 สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการสูบบุหรี่ของนิสิตได้แก่ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ทัศนคติเกี่ยวก ับการสูบบุหรี่สถานที่นิสิตพักอาศัยอยู่การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และพบว่าปัจจัยที่ไม่มีผลต่อพฤติกรรมการสูบบุหรี่ได้แก่ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายได้ของนิสิตสถานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวการออกกำลังกายการเป็นนักกีฬาระดับการได้รับข่าวสารกิจกรรมที่ทำเวลาว ่างสถานภาพสมรสบิดา - มารดาบุคคลที่ต้องการยึดถือเป็นแบบอย่าง