Wet pavement contributes to nearly

Wet pavement contributes to nearly 1.2 million traffic crashes each year.

Here are some tips you’ll want to follow the next time you’re caught driving in the rain.

Safety starts before you drive, and your goal should be to see and be seen. Replace windshield wiper inserts that leave streaks or don’t clear the glass in a single swipe. Make sure all headlights, taillights, brake lights and turn signals are properly functioning so other drivers will see you during downpours. Turn on your headlights whenever you drive.

Proper tire tread depth and inflation are imperative to maintaining good traction on wet roadways. Check tread depth with a quarter inserted upside down into the tire groove. If you can see above Washington’s head, start shopping for new tires. Check each tire’s pressure, including the spare, at least once a month… and be sure to check the pressure when the tires are cold.

Avoid Cruise Control

Most modern cars feature cruise control. This feature works great in dry conditions, but when used in wet conditions, the chance of losing control of the vehicle can increase. To prevent loss of traction, the driver may need to reduce the car’s speed by lifting off the accelerator, which cannot be accomplished when cruise control is engaged.

When driving in wet-weather conditions, it is important to concentrate fully on every aspect of driving. Avoiding cruise control will allow the driver more options to choose from when responding to a potential loss-of-traction situation, thus maximizing your safety.

Slow Down and Leave Room

Slowing down during wet weather driving can be critical to reducing a car’s chance of hydroplaning, when the tires rise up on a film of water. With as little as 1/12 inch of water on the road, tires have to displace a gallon of water per second to keep the rubber meeting the road. Drivers should reduce their speed to correspond to the amount of water on the roadway. At speeds as low as 35 mph, new tires can still lose some contact with the roadway.

To reduce chances of hydroplaning, drivers should slow down, avoid hard braking or turning sharply and drive in the tracks of the vehicle ahead of you. Also, it’s important for motorists to allow ample stopping distance between cars by increasing the following distance of the vehicle in front of them and beginning to slow down to stop for intersections, turns and other traffic early.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถนนเปียกก่อให้เกิดปัญหาการจราจรเกือบ 1.2 ล้านแต่ละปีนี่คือเคล็ดลับบางอย่างคุณจะต้องทำตามในครั้งถัดไปที่คุณกำลังจับรถยี่ห้อความปลอดภัยเริ่มต้นก่อนที่คุณขับ และเป้าหมายของคุณควรจะ เห็น และจะเห็น แทนแทรกปัดน้ำฝนกระจกหน้ารถที่ออกจากเส้น หรือไม่ล้างแก้วด้วยการปัดนิ้วเดียว ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค และไฟเลี้ยวถูกต้องทำงานเพื่อให้โปรแกรมควบคุมอื่นจะเห็นคุณในช่วงฝนที่ตกลง เปิดไฟหน้าของคุณทุกครั้งที่คุณขับยางที่เหมาะสมของดอกยางลึก และอัตราเงินเฟ้อมีความจำเป็นในการรักษาดียึดเกาะบนถนนเปียก ตรวจสอบความลึกของดอกยางกับไตรคว่ำแทรกร่องยาง ถ้าคุณสามารถดูด้านบนหัวของวอชิงตัน เริ่มซื้อยางใหม่ ตรวจสอบความดันลมยางแต่ละ รวมทั้งอะไหล่ เดือนละครั้งอย่างน้อย... และควรตรวจสอบความดันเมื่อยางยังเย็นอยู่หลีกเลี่ยงการควบคุมรถยนต์ที่ทันสมัยมีระบบควบคุม คุณลักษณะนี้ทำงานดีในสภาพแห้ง แต่เมื่อใช้ในสภาพเปียก สามารถเพิ่มโอกาสของการสูญเสียการควบคุมรถ เพื่อป้องกันการสูญเสียการยึดเกาะ โปรแกรมควบคุมอาจต้องลดความเร็วของรถ โดยยกออกใน ซึ่งไม่สามารถทำได้เมื่อมีการควบคุมมีส่วนร่วมเมื่อขับขี่ในสภาพอากาศที่เปียก มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะมีสมาธิเต็มที่ทุกด้านของการขับรถ หลีกเลี่ยงการควบคุมจะช่วยให้โปรแกรมควบคุมเพิ่มเติมสามารถเลือกจากการตอบสนองต่อสถานการณ์ขาดการดึงศักยภาพ จึง เพิ่มความปลอดภัยของคุณช้าลง และออกจากห้องพักชะลอตัวลงในระหว่างการขับขี่ในสภาพอากาศเปียกได้อย่างสำคัญในการลดโอกาสของรถยนต์ของ hydroplaning เมื่อยางขึ้นบนฟิล์มของน้ำ มีเพียง 1/12 นิ้วของน้ำบนถนน ยางต้องตาร์ทแกลลอนต่อวินาทีเพื่อให้ยางที่ประชุมถนน โปรแกรมควบคุมควรลดความเร็วให้ตรงกับปริมาณของน้ำบนท้องถนน ที่ความเร็วต่ำสุดที่ 35 ความเร็ว ยางใหม่ยังสามารถสูญเสียบางส่วนติดต่อกับถนนเพื่อลดโอกาสของ hydroplaning ไดร์เวอร์ควรช้าลง หลีกเลี่ยงการเบรก หรือเลี้ยวคมยาก และไดรฟ์ในแทร็คของรถก่อนคุณ ด้วย มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่ให้ระยะระหว่างรถยนต์โดยเพิ่มระยะทางต่อไปนี้ของรถด้านหน้า และเริ่มช้าลงหยุดสำหรับทางแยก เปลี่ยน และจราจรอื่น ๆ เร็วมากพอ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ถนนเปียกก่อให้เกือบ 1.2 ล้านคนการจราจรเกิดปัญหาในแต่ละปี. นี่คือเคล็ดลับบางอย่างที่คุณจะต้องการที่จะทำตามในครั้งต่อไปที่คุณกำลังจับขับรถในสายฝนมี. ความปลอดภัยเริ่มต้นก่อนที่คุณขับรถและเป้าหมายของคุณควรจะมองเห็นและมองเห็นได้ . แทนที่แทรกปัดน้ำฝนที่ออกจากลายเส้นหรือไม่กระจกใสในรูดเดียว ตรวจสอบให้แน่ใจทุกไฟหน้าไฟท้ายไฟเบรคและเปิดสัญญาณจะต้องทำงานไดรเวอร์อื่น ๆ ดังนั้นจะเห็นคุณในช่วงฝนที่ตกลงมา เปิดไฟหน้าของคุณเมื่อคุณขับรถ. ความลึกของดอกยางที่เหมาะสมและอัตราเงินเฟ้อที่มีความจำเป็นในการรักษาแรงดึงที่ดีบนถนนเปียก ตรวจสอบความลึกของดอกยางกับไตรมาสแทรกคว่ำเข้าไปในร่องยาง หากคุณสามารถดูเหนือหัวของวอชิงตันเริ่มซื้อยางใหม่ ตรวจสอบความดันยางแต่ละรวมทั้งอะไหล่อย่างน้อยเดือนละครั้ง ... และให้แน่ใจว่าได้ตรวจสอบความดันเมื่อยางมีอากาศหนาวเย็น. หลีกเลี่ยงการควบคุมเรือส่วนใหญ่รถยนต์สมัยใหม่มีการควบคุมเรือ คุณลักษณะนี้ใช้งานได้ดีในสภาพแห้ง แต่เมื่อใช้ในสภาพเปียก, โอกาสของการสูญเสียการควบคุมของยานพาหนะสามารถเพิ่ม เพื่อป้องกันการสูญเสียของการลากคนขับอาจจะต้องลดความเร็วของรถโดยการยกออกจากคันเร่งซึ่งไม่สามารถทำได้เมื่อควบคุมเรือเป็นธุระ. เมื่อขับรถในสภาพเปียกสภาพอากาศก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะมีสมาธิอย่างเต็มที่ในทุกแง่มุมของการขับรถทุกคน . หลีกเลี่ยงการควบคุมเรือจะช่วยให้ตัวเลือกคนขับรถมากขึ้นในการเลือกเมื่อการตอบสนองต่อสถานการณ์การสูญหายของแรงดึงศักยภาพทำให้การเพิ่มความปลอดภัยของคุณ. ช้าลงและออกจากห้องพักชะลอตัวลงในระหว่างการขับรถสภาพอากาศเปียกสามารถที่สำคัญเพื่อลดโอกาสของรถของอนุมาน เมื่อยางลุกขึ้นบนแผ่นฟิล์มของน้ำ ด้วยการเป็นเพียง 1/12 นิ้วของน้ำบนถนนที่มียางที่จะไล่แกลลอนน้ำต่อวินาทีเพื่อให้การประชุมยางถนน ไดรเวอร์ควรลดความเร็วของพวกเขาเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำบนถนน ที่ความเร็วต่ำเป็น 35 ไมล์ต่อชั่วโมงยางใหม่ยังคงสามารถสูญเสียการติดต่อกับถนนบาง. เพื่อลดโอกาสของการอนุมานไดรเวอร์ควรจะชะลอตัวลงอย่างหนักหลีกเลี่ยงการเบรกหรือเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและไดรฟ์ในแทร็คของรถข้างหน้าของคุณ นอกจากนี้มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ที่จะอนุญาตให้หยุดระยะระหว่างรถกว้างขวางโดยการเพิ่มระยะทางต่อไปนี้ของยานพาหนะในด้านหน้าของพวกเขาและเริ่มที่จะชะลอตัวลงจะหยุดสำหรับแยกเปลี่ยนและการจราจรอื่น ๆ ในช่วงต้น