AbstractOBJECTIVE:Midwives may play

Abstract
OBJECTIVE:
Midwives may play an important role in oral health promotion of pregnant women, whom they are in close contact with. Our aim was to evaluate an educational intervention on the oral health attitude and practices among the junior midwifery students of Tehran University of Medical Sciences in 2010.
MATERIALS AND METHODS:
The junior midwifery students were divided into intervention (n=29) and control (n=33) groups. The intervention group was first educated about general oral health, oral hygiene practices during pregnancy, and tooth brushing and flossing on models. Subsequently, the students performed role playing to ensure they understood the aforementioned lessons correctly. Before and three months after the training course the students filled out a validated self-administered questionnaire and a simplified plaque index was recorded. Statistical analysis was done by Mann-Whitney test and linear regression models.
RESULTS:
Before the intervention, the mean scores of attitude in general oral health for the intervention and control groups were 5.8 and 5.4, respectively, which improved to 8.9 and 5.4 after the intervention (P

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์:Midwives อาจเล่นมีบทบาทสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากของหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่อยู่ในติดต่อใกล้ชิดกับ เป้าหมายของเราคือการ ประเมินการจัดการศึกษาทัศนคติสุขภาพช่องปากและปฏิบัติระหว่างเรียนหมอตำแยจูเนียร์ของเตหะรานมหาวิทยาลัยของวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี 2553วัสดุและวิธีการ:หมอตำแยสำหรับเด็กนักเรียนถูกแบ่งออกเป็นการแทรกแซง (n = 29) และควบคุม (n = 33) กลุ่ม แทรกแซงของกลุ่มได้รับการศึกษาแรกเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากทั่วไป ปฏิบัติอนามัยช่องปากในระหว่างตั้งครรภ์ และฟันแปรง และแผลในรูปแบบ ในเวลาต่อมา นักเรียนดำเนินบทบาทเล่นให้พวกเขาเข้าใจบทเรียนดังกล่าวอย่างถูกต้อง ก่อน และสามเดือนหลังจากการฝึกอบรมนักเรียนกรอกแบบสอบถามด้วยตนเองปกครองตรวจ และบันทึกดัชนีหินปูนที่เรียบง่าย วิเคราะห์ทางสถิติได้โดยทดสอบมานน์วิทนีย์และแบบจำลองถดถอยเชิงเส้นผลลัพธ์:ก่อนที่จะแทรกแซง คะแนนเฉลี่ยของทัศนคติด้านสุขภาพช่องปากทั่วไปสำหรับกลุ่มแทรกแซงและควบคุมได้ 5.8 และ 5.4 ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.9 นอกและ 5.4 หลังจากแทรกแซง (P < 0.001) คะแนนเฉลี่ยของทัศนคติสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์ยัง 20.4 ในกลุ่มแทรกแซง และเพิ่มขึ้น 30.9 (P < 0.001) กลุ่มแทรกแซงสาธิตปฏิบัติสุขภาพช่องปากที่ดีมากในการตั้งครรภ์และคะแนนดัชนีหินปูนล่างหลังจากแทรกแซงสรุป:ค้นหาสัญญาเกี่ยวกับทัศนคติและการปฏิบัติปรับปรุงนักเรียน ๒๔๖๓ หลังจากเข้าร่วมในหลักสูตรระยะสั้นในการสร้างเสริมสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์แสดงความจำเป็นแก่โปรแกรมการฝึกอบรม โดยรวมเรื่องนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์:
ตำแยอาจมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพช่องปากของหญิงตั้งครรภ์, ผู้ที่พวกเขาอยู่ในการติดต่อใกล้ชิดกับ จุดมุ่งหมายของเราคือการประเมินการแทรกแซงการศึกษาเกี่ยวกับทัศนคติสุขภาพช่องปากและการปฏิบัติในหมู่นักเรียนผดุงครรภ์จูเนียร์ของมหาวิทยาลัยเตหะรานวิทยาศาสตร์การแพทย์ในปี 2010.
วัสดุและวิธีการ:
นักเรียนผดุงครรภ์จูเนียร์ถูกแบ่งออกเป็นการแทรกแซง (n = 29) และการควบคุม (n = 33) กลุ่ม กลุ่มทดลองได้รับการศึกษาแรกที่เกี่ยวกับสุขภาพช่องปากโดยทั่วไปการปฏิบัติสุขอนามัยช่องปากในระหว่างการตั้งครรภ์และการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันในรูปแบบ ต่อจากนั้นนักเรียนแสดงบทบาทการเล่นเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจบทเรียนดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง ก่อนและสามเดือนหลังจากการฝึกอบรมหลักสูตรนักเรียนกรอกแบบสอบถามการตรวจสอบและดัชนีคราบจุลินทรีย์ง่ายที่ถูกบันทึกไว้ การวิเคราะห์ทางสถิติโดยการทดสอบ Mann-Whitney และรูปแบบการถดถอยเชิงเส้น.
ผลการศึกษา:
ก่อนที่จะแทรกแซงค่าเฉลี่ยของทัศนคติในการดูแลสุขภาพช่องปากโดยทั่วไปสำหรับการแทรกแซงและกลุ่มควบคุมเป็น 5.8 และ 5.4 ตามลำดับซึ่งปรับตัวดีขึ้นเป็น 8.9 และ 5.4 หลังจากที่ การแทรกแซง (p <0.001) ค่าเฉลี่ยของคะแนนทัศนคติสุขภาพช่องปากในการตั้งครรภ์เป็น 20.4 ในกลุ่มแทรกแซงและเพิ่มขึ้นถึง 30.9 (p <0.001) กลุ่มทดลองแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติที่สุขภาพช่องปากที่ดีมากในการตั้งครรภ์และให้คะแนนดัชนีคราบจุลินทรีย์ที่ลดลงหลังจากการแทรกแซง.
สรุป:
การค้นพบที่มีแนวโน้มเกี่ยวกับทัศนคติและการปรับปรุงการปฏิบัติในการผดุงครรภ์หลังจากที่นักเรียนมีส่วนร่วมในหลักสูตรระยะสั้นในการส่งเสริมสุขภาพช่องปากในการตั้งครรภ์แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะเสริมสร้าง โปรแกรมการฝึกอบรมของพวกเขาโดยรวมถึงเรื่องนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์นามธรรม
:
หมอตำแยอาจมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพช่องปากของหญิงตั้งครรภ์ที่พวกเขากำลังติดต่อกับ เป้าหมายของเราคือเพื่อประเมินผลการแทรกแซงการศึกษาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก ทัศนคติ และการปฏิบัติของนักเรียน นักเรียนผดุงครรภ์ มหาวิทยาลัยเตหะราน วิทยาศาสตร์การแพทย์ ในปี 2010

วัสดุและวิธีการ :นักเรียนผดุงครรภ์ จูเนียร์ แบ่งเป็นการแทรกแซง ( n = 30 ) และการควบคุม ( n = 31 ) กลุ่ม กลุ่มการทดลองแรกศึกษาเกี่ยวกับทันตสุขภาพทั่วไป , สุขภาพช่องปากการปฏิบัติในระหว่างตั้งครรภ์ และฟันแปรง และ flossing บนโมเดล ต่อมานักเรียนปฏิบัติบทบาทการเล่นเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเข้าใจบทเรียนดังกล่าวได้อย่างถูกต้องก่อนและหลังการฝึกอบรม 3 เดือน หลักสูตรนักเรียนกรอกข้อมูลผ่านแบบสอบถามและแบบดัชนีแผ่นคราบจุลินทรีย์จะถูกบันทึก การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติโดยการทดสอบแบบ Mann Whitney และการถดถอยเชิงเส้น ผล :

ก่อนกิจกรรมแทรกแซง ค่าเฉลี่ยของคะแนนทัศนคติในสุขภาพช่องปากทั่วไปสำหรับการแทรกแซงและควบคุมจำนวน 5.8 แล้ว 5.4 ,ตามลำดับ ซึ่งเพิ่มขึ้น 8.9 และ 5.4 หลังการทดลอง ( p < 0.001 ) คะแนนเฉลี่ยทัศนคติสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์คือการในกลุ่มและเพิ่มขึ้น 30.9 ( p < 0.001 ) ในกลุ่ม แสดงดีขึ้นสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์ และดัชนีคราบจุลินทรีย์การปฏิบัติลดคะแนนหลังการทดลอง .

สรุป :แนวโน้มการค้นหาเกี่ยวกับทัศนคติ และการปฏิบัติในการพัฒนานักเรียนผดุงครรภ์ หลังจากเข้าร่วมหลักสูตรระยะสั้นส่งเสริมทันตสุขภาพในหญิงตั้งครรภ์แสดงให้เห็นความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มโปรแกรมการฝึกอบรมของพวกเขาโดยรวม เรื่อง นี้