been controversial. For some, equal

been controversial. For some, equalization has affected only
civil rights and voting rights; for others, it has extended into
the socioeconomic sphere. People who are systematically
handicapped by poverty from making the most of their citizenship
rights are deemed on this view to have been relegated
to second-class status, necessitating remedial action
through equalization. But through all the differences of interpretation,
the principle of equal citizenship has come to
be universally accepted. Every position, no matter how reactionary,
is now defended under the colors of this principle.
Its greatest, most recent victory was won by the civil rights
movement of the 1960s in the United States. It is worth noting
that even the adversaries of extending voting rights to
blacks in the southern states found some pretext consistent
with universalism, such as “tests” to be administered to
would-be voters at the time of registration.
By contrast, the second change, the development of the
modern notion of identity, has given rise to a politics of difference.
There is, of course, a universalist basis to this as
well, making for the overlap and confusion between the two.
Everyone should be recognized for his or her unique identity.
But recognition here means something else. With the politics
of equal dignity, what is established is meant to be universally
the same, an identical basket of rights and immunities;
with the politics of difference, what we are asked to recognize
is the unique identity of this individual or group, their
distinctness from everyone else. The idea is that it is precisely
this distinctness that has been ignored, glossed over,
assimilated to a dominant or majority identity. And this assimilation
is the cardinal sin against the ideal of authenticity.15

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การแย้ง สำหรับบางคน การปรับแต่งมีผลเท่านั้นสิทธิพลเมืองและสิทธิการลงคะแนนเสียง ผู้อื่น จึงได้ขยายเป็นเรื่องประชากร ผู้ที่มีระบบอำนวยการ โดยความยากจนจากที่สุดของสัญชาติของตนสิทธิจะถือในมุมมองนี้ได้ถูก relegatedอันดับสองได้รับสถานะ necessitating ดำเนินการเยียวยาผ่านการปรับแต่ง แต่ ผ่านความแตกต่างของการตีความหลักสัญชาติเท่ามาเป็นแบบที่ยอมรับ ทุกตำแหน่ง ไม่ว่าอย่างไรในเชิงตอนนี้มีปกป้องภายใต้สีของหลักการนี้ชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุด ล่าสุดชนะ โดยสิทธิพลเมืองเคลื่อนไหวของช่วงปี 1960 ในสหรัฐอเมริกา กล่าวที่แม้แต่คู่แข่งของขยายสิทธิลงคะแนนเสียงดำในอเมริกาใต้พบข้ออ้างบางอย่างสอดคล้องกันมีลัทธิ เช่น "ทดสอบ" การบริหารการผู้ลงคะแนนที่ปรากฏในทะเบียนโดยคมชัด ที่สองเปลี่ยนแปลง การพัฒนาความทันสมัยของตน มีกำหนดขึ้นการเมืองความแตกต่างมี ของหลักสูตร พื้นฐาน universalist นี้เป็นดี ทำการทับซ้อนและความสับสนระหว่างสองทุกคนควรรับรู้เอกลักษณ์เฉพาะของเขา หรือเธอแต่การรู้นี่หมายถึง อย่างอื่น กับการเมืองของศักดิ์ศรีเท่ากัน สิ่งสำเร็จจะหมายถึงการเกลียดชังเหมือนกัน มีตะกร้าเหมือนกันสิทธิและ immunitiesกับการเมืองของความแตกต่าง สิ่งเราจะต้องรู้จักเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละ หรือ กลุ่ม นี้ของพวกเขาdistinctness จากคนอื่น มีความคิดว่า มันเป็นdistinctness นี้ที่มีการละเว้น glossed มากกว่าขนบธรรมเนียมประเพณีให้ตัวหลัก หรือส่วนใหญ่ และอันนี้บาปของคาร์ดินัลกับของ authenticity.15

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การโต้เถียง สำหรับบางคนเท่าเทียมกันได้รับผลกระทบเพียง
สิทธิพลเมืองและสิทธิออกเสียงลงคะแนน สำหรับคนอื่น ๆ ก็มีการขยายไปใน
วงสังคมและเศรษฐกิจ คนที่จะเป็นระบบ
พิการโดยความยากจนจากการทำมากที่สุดของการเป็นพลเมืองของพวกเขา
จะถือว่าสิทธิในมุมมองนี้จะได้รับการผลักไส
สถานะชั้นสองทั้งนี้การดำเนินการแก้ไข
ผ่านการทำให้เท่าเทียมกัน แต่ผ่านทุกความแตกต่างของการตีความ
หลักการของการเป็นพลเมืองที่เท่าเทียมกันมีมาให้
ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทุกตำแหน่งไม่ว่าการตอบสนอง
จะได้รับการปกป้องภายใต้สีของหลักการนี้.
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดชัยชนะล่าสุดของมันก็ชนะสิทธิมนุษยชน
การเคลื่อนไหวของปี 1960 ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นมูลค่า noting
ว่าแม้ฝ่ายตรงข้ามของการขยายสิทธิในการออกเสียงเพื่อ
คนผิวดำในรัฐทางใต้พบข้ออ้างบางอย่างที่สอดคล้อง
กับสากลเช่น "ทดสอบ" เพื่อจะบริหารเพื่อ
จะเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในช่วงเวลาของการลงทะเบียน.
ในทางตรงกันข้ามการเปลี่ยนแปลงที่สอง การพัฒนา
ความคิดที่ทันสมัยของตนได้ก่อให้เกิดความแตกต่างทางการเมือง.
มีของหลักสูตรพื้นฐานสากลถึงนี้เป็น
อย่างดีทำให้การซ้อนทับกันและความสับสนระหว่างสอง.
ทุกคนควรจะได้รับการยอมรับของเขาหรือ เอกลักษณ์เฉพาะของเธอ.
แต่การรับรู้ที่นี่หมายถึงอย่างอื่น กับการเมือง
ศักดิ์ศรีเท่ากับสิ่งที่จะจัดตั้งขึ้นจะหมายถึงการเป็นสากล
เดียวกันตะกร้าที่เหมือนกันของสิทธิและความคุ้มกัน;
กับการเมืองของความแตกต่างสิ่งที่เราจะขอให้ตระหนักถึงความ
เป็นเอกลักษณ์ของบุคคลนี้หรือกลุ่มของพวกเขา
แตกต่าง จากคนอื่น แนวคิดก็คือว่ามันเป็นเพราะ
ความแตกต่างนี้ที่ได้รับการละเว้นกลบเกลื่อน,
หลอมรวมความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นหรือส่วนใหญ่ และการดูดซึมนี้
เป็นบาปพระคาร์ดินัลกับอุดมคติของ authenticity.15

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การขัดแย้ง สำหรับบางคน ความที่ได้รับผลกระทบเท่านั้น
สิทธิและสิทธิการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง สำหรับคนอื่น มันมีการขยายเข้าสู่
ทรงกลมทางเศรษฐกิจสังคม คนที่รับ
พิการโดยความยากจนจากการทำส่วนใหญ่ของพลเมือง
สิทธิของพวกเขาถือว่าในมุมมองนี้ได้รับ relegated เพื่อให้ค่า

สถานะชั้นสองผ่านที่ได้รับการปรับ .แต่ผ่านทุกความแตกต่างในการตีความ หลักการของการเท่ากัน

มาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง . ทุกตำแหน่ง ไม่ว่านะ
ตอนนี้ปกป้องภายใต้สีหลักการนี้ .
ของที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ชัยชนะล่าสุดชนะสิทธิ
เคลื่อนไหวของปี 1960 ในสหรัฐอเมริกา เป็นมูลค่า noting
ที่แม้แต่คู่แข่งของการขยายสิทธิการลงคะแนนเสียง

คนผิวดำในรัฐทางใต้พบข้ออ้างบางอย่างที่สอดคล้องกับ universalism
เช่น " ทดสอบ " เพื่อจะบริหาร

เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเวลาของการลงทะเบียน .
โดยความคมชัด , การเปลี่ยนแปลงที่สองการพัฒนา
ค่านิยมสมัยใหม่ในตัว ได้ให้สูงขึ้นเพื่อการเมืองของความแตกต่าง .
มีหลักสูตร พื้นฐานนี้เป็น
Universalistก็ทำให้ความซ้ำซ้อนและสับสนระหว่างสอง .
ทุกคนควรจะยอมรับใน ของเขาหรือเธอ เอกลักษณ์ .
แต่ยอมรับในที่นี้หมายถึงอะไร กับการเมือง
ของศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน เกิดอะไรขึ้นจะหมายถึงการเป็นสากล
เหมือนกัน ตะกร้าที่เหมือนกันของสิทธิและความคุ้มกัน ;
กับการเมืองที่แตกต่าง สิ่งที่เราต้องจำ
คือเอกลักษณ์ของบุคคล หรือกลุ่ม ความชัดเจนของพวกเขา
จากคนอื่น แนวคิดก็คือว่ามันแน่นอน
นี้เด่นที่ถูกละเลย glossed มากกว่า
, ขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นเด่น หรือส่วนใหญ่ของตัวตน และการผสมผสาน
เป็นน่าเร้าใจกับอุดมคติของ 15
ของแท้