From 1925 to 1932, Schumpeter held

From 1925 to 1932, Schumpeter held a chair at the University of Bonn, Germany. He lectured at Harvard in 1927–1928 and 1930. In 1931, he was a visiting professor at The Tokyo College of Commerce. In 1932, Schumpeter moved to the United States, and soon began what would become extensive efforts to help central European economist colleagues displaced by Nazism.[7] Schumpeter also became known for his opposition to Marxism and socialism that he thought would lead to dictatorship, and even criticized President Franklin Roosevelt's New Deal.[8] In 1939 Schumpeter became a US citizen. In the beginning of WWII, the FBI investigated him and his wife (a prominent scholar of Japanese economics) for pro-Nazi leanings, but no evidence was found of Nazi sympathies.[9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จาก 1925 1932, Schumpeter จัดเก้าอี้เป็นที่มหาวิทยาลัยบอนน์ เยอรมนี เขา lectured ที่ฮาร์วาร์ดใน 1927-1928 และ 1930 ในปี 1931 เขาเป็นศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยของโตเกียวพาณิชย์ ในปี 1932, Schumpeter ย้ายไปสหรัฐอเมริกา และเร็ว ๆ นี้ เริ่มจะเป็นความพยายามมากมายเพื่อช่วยเพื่อนนักเศรษฐศาสตร์ยุโรปกลางพลัดถิ่น โดยซี[7] Schumpeter กลายเป็นที่รู้จักของเขาคัดค้านลัทธิมากซ์และสังคมนิยมที่เขาคิดว่า จะนำไปสู่เผด็จการ และแม้กระทั่งวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของประธานาธิบดีแฟรงคลินรูสเวลต์ใหม่[8] ในปีพ.ศ. 2482 Schumpeter กลายเป็น พลเมืองสหรัฐอเมริกา ในจุดเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่ FBI ที่สอบสวนเขาและภรรยาของเขา (นักเรียนทุนเด่นเศรษฐกิจญี่ปุ่น) สำหรับสนับสนุนนาซี leanings แต่หลักฐานไม่พบของนาซี sympathies[9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จาก 1925-1932, ชัมจัดเก้าอี้ที่มหาวิทยาลัยบอนน์ประเทศเยอรมนี เขาสอนที่ Harvard ใน 1927-1928 และ 1930 ในปี 1931 เขาเป็นอาจารย์ไปที่โตเกียววิทยาลัยพาณิชยศาสตร์ ในปี 1932, ชัมย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและไม่ช้าก็เริ่มที่จะกลายเป็นความพยายามที่ครอบคลุมเพื่อช่วยให้เพื่อนร่วมงานของนักเศรษฐศาสตร์กลางยุโรปแทนที่ด้วยนาซี. [7] ชัมก็กลายเป็นที่รู้จักกันในการต่อสู้กับมาร์กซ์และสังคมนิยมของเขาว่าเขาคิดว่าจะนำไปสู่​​การปกครองแบบเผด็จการ และแม้กระทั่งการวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีแฟรงคลินรูสเวลของข้อตกลงใหม่. [8] 1939 ในชัมกลายเป็นพลเมืองสหรัฐ ในการเริ่มต้นของสงครามโลกครั้งที่สองเอฟบีไอสอบสวนเขาและภรรยาของเขา (นักวิชาการที่โดดเด่นของเศรษฐกิจญี่ปุ่น) สำหรับ leanings โปรนาซี แต่ไม่พบหลักฐานของความเห็นอกเห็นใจนาซี. [9] [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จาก 2468 ถึง 2475 ชัมจัดเก้าอี้ที่มหาวิทยาลัยบอนน์ , เยอรมนี เขาสอนที่ฮาร์วาร์ดในปี 1927 – 1928 และ 1930 ในปี 1931 , เขาเป็นศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยโตเกียวพาณิชย์ ใน พ.ศ. 2475 ชุมปีเตอร์ย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และจะเริ่มเร็วๆนี้แล้วจะกลายเป็นความพยายามที่กว้างขวางจะช่วยให้ธนาคารกลางยุโรปนักเศรษฐศาสตร์เพื่อนร่วมงานย้ายจากลัทธินาซี[ 7 ] ชัมยังกลายเป็นที่รู้จักสำหรับฝ่ายตรงข้าม ทฤษฎีการเมือง และสังคมนิยม ที่เขาคิดว่าจะนำไปสู่เผด็จการ และวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดี Franklin Roosevelt ข้อตกลงใหม่ [ 8 ] ใน 1939 ชัมเป็นพลเมืองสหรัฐฯ ในตอนต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง , เอฟบีไอสืบสวน เขาและภรรยาของเขา ( นักวิชาการที่โดดเด่นทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ) สำหรับโปร leanings นาซี ,แต่ไม่มีหลักฐานก็พบโปรนาซี [ 9 ] [ 10 ]