To understand and address the chall

To understand and address the challenge of achieving STEM literacy for all students begins with understanding and defining its component parts and the relationships between them.
Scientific literacy is the ability to use scientific knowledge (in physics, chemistry, biological sciences, and earth/space sciences) and processes to understand the natural world and to participate in decisions that affect it (in three main areas — science in life and health, science in Earth and environment, and science in technology).
Technological literacy is the ability to use, manage, understand, and assess technology. Students should know how to use new technologies, understand how new technologies are developed, and have skills to analyze how new technologies affect us, our nation, and the world.
Engineering literacy is the understanding of how products, processes, and systems are developed via the engineering design process. Engineering design is the systematic and creative application of scientific and mathematic principles to practical ends such as the design, manufacture, and operation of efficient and economical structures, machines, processes, and systems.
Mathematical literacy is the ability to analyze, reason, and communicate ideas effectively through posing, formulating, solving, and interpreting solutions to mathematical problems in a variety of situations.
STEM literacy is the ability to identify and apply concepts and content from science, technology, engineering, and mathematics to understand and solve challenges or problems that cannot be resolved by any one disciplinary approach. Each of the STEM disciplines include particular habits of mind, ways of thinking, and core content that are essential to STEM literacy. And, while mastery in each STEM discipline is necessary, so too is the ability to recognize and appreciate the connections among them. STEM literacy is achieved when a student is able to apply his or her understanding of how the world works within and across these four interrelated disciplines to improve the social, economic, and environmental conditions of their local and global community. The end result is that the whole of STEM literacy is greater than the sum of its individual disciplinary parts. Moreover, STEM education must also be situated in the context of 21st century skills such as adaptability, communication, collaboration, problem-solving, and systems thinking. To achieve these ends students must have the opportunity to develop from novice to expert in their understanding in all of these areas through experiences that begin in preschool and are intentionally expanded and refined throughout their K12 experience.
This framework provides a unifying definition of STEM literacy that is firmly rooted in a set of desired outcomes - prepared citizenry, postsecondary success, and an enhanced and diverse STEM pipeline - and aligned with a comprehensive career and college ready agenda. This definition does not prescribe a single model or approach as the sole solution, but rather allows for schools and districts to mobilize their unique local and regional resources in flexible ways to achieve those outcomes. This outcomes-driven approach can reduce confusion about the meaning of STEM, and allow schools and communities to build ownership and support for models that draw upon their local context and assure student success.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพื่อทำความเข้าใจ และด้านการบรรลุก้าน วัดสำหรับนักเรียนทุกคนเริ่มต้น ด้วยการทำความเข้าใจ และกำหนดส่วนประกอบและความสัมพันธ์ระหว่างรู้วิทยาศาสตร์คือ ความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (ในวิชาฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา และวิทยาศาสตร์โลก/พื้นที่) และ การเข้าใจธรรมชาติของโลกและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่จะส่งผลกระทบต่อ (ในสามด้านหลักคือวิทยาศาสตร์ในชีวิต และสุขภาพ วิทยาศาสตร์ในโลกและสิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี)เทคโนโลยีสามารถเป็นความสามารถในการใช้ จัดการ เข้าใจ และประเมินเทคโนโลยี นักเรียนควรรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่ เข้าใจวิธีใหม่มีพัฒนาเทคโนโลยี และมีทักษะในการวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีมีผลต่อเรา ของประเทศ และโลกวิศวกรรมศาสตร์สามารถเป็นที่เข้าใจว่าผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และระบบจะพัฒนาผ่านขั้นตอนการออกแบบวิศวกรรม วิศวกรรมออกแบบเป็นระบบ และสร้างสรรค์ประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์เพื่อสิ้นสุดการปฏิบัติเช่นการออกแบบ ผลิต และการดำเนินงานมีประสิทธิภาพ และประหยัดโครงสร้าง เครื่องจักร กระบวนการ ระบบและสามารถทางคณิตศาสตร์คือ ความสามารถใน การ วิเคราะห์ เหตุผล การสื่อสารความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการวางตัว formulating แก้ไข และการตีความการแก้ไขปัญหาทางคณิตศาสตร์ในสถานการณ์ที่หลากหลายก้านวัดเป็นความสามารถในการระบุ และใช้แนวคิดและเนื้อหาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์เพื่อทำความเข้าใจ และแก้ปัญหาความท้าทายหรือปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ โดยวิธีการทางวินัยใด ๆ หนึ่ง สาขาก้านไว้เฉพาะนิสัยของจิตใจ วิธีคิด และเนื้อหาหลักที่จำเป็นต่อการเกิดสามารถ และ ใน ขณะที่เป็นครูในแต่ละก้านวินัยเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อจะสามารถรับรู้ และชื่นชมการเชื่อมต่อระหว่างกัน ก้านสามารถทำเมื่อนักเรียนสามารถนำไปใช้ของเขา หรือเธอเข้าใจว่าโลกทำงานภายใน และสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง 4 เพื่อปรับปรุงสังคม เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมของชุมชนท้องถิ่น และส่วนกลางของพวกเขาเหล่านี้ ผลลัพธ์สุดท้ายคือว่า ทั้งหมดของก้านวัดมากกว่าผลรวมของส่วนของวินัย นอกจากนี้ ศึกษาสเต็มต้องยังอยู่ในบริบทของศตวรรษที่ 21 ทักษะหลากหลาย สื่อสาร ร่วมกัน การ แก้ปัญหา และระบบความคิด เพื่อให้บรรลุปลายเหล่านี้ นักเรียนต้องมีโอกาสที่จะพัฒนาจากสามเณรเพื่อผู้เชี่ยวชาญในความเข้าใจในทุกด้านผ่านประสบการณ์ที่เริ่มต้นในหอศิลป์ และตั้งใจขยาย และบริสุทธิ์ตลอดประสบการณ์ K12กรอบนี้ให้คำจำกัดความที่รวมกันของก้านวัดที่แน่นหนาในชุดผลลัพธ์ที่ระบุ- เตรียมผดุง สำเร็จ postsecondary และ ตอนก้านเพิ่มขึ้น และมีความหลากหลาย - และสอดคล้องกับอาชีพที่ครอบคลุมและวิทยาลัยพร้อมวาระการประชุม คำนิยามนี้กำหนดรูปแบบเดียวหรือวิธีการเป็นการแก้ปัญหาแต่เพียงผู้เดียว แต่ค่อนข้าง ช่วยให้โรงเรียนและเขตการระดมทรัพยากรท้องถิ่น และภูมิภาคของตนเฉพาะในวิธีที่ยืดหยุ่นเพื่อให้บรรลุผลดังกล่าว วิธีการขับเคลื่อนผลนี้สามารถลดความสับสนเกี่ยวกับความหมายของก้าน และอนุญาตให้โรงเรียนและชุมชนเพื่อสร้างความเป็นเจ้าของและการสนับสนุนสำหรับรูปแบบที่วาดตามบริบทของท้องถิ่น และให้นักเรียนประสบความสำเร็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อทำความเข้าใจและแก้ไขปัญหาของการบรรลุความรู้ STEM สำหรับนักเรียนทุกคนเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจและการกำหนดชิ้นส่วนของมันและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา.
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์, เคมี, ชีววิทยา, และแผ่นดิน / วิทยาศาสตร์พื้นที่ ) และกระบวนการที่จะเข้าใจธรรมชาติของโลกและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่มีผลต่อมัน (ในสามด้านหลัก - วิทยาศาสตร์ในชีวิตและสุขภาพวิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี).
ความรู้ทางเทคโนโลยีคือความสามารถที่จะใช้ในการจัดการ เข้าใจและประเมินเทคโนโลยี นักเรียนควรรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีใหม่เข้าใจว่าเทคโนโลยีใหม่ที่มีการพัฒนาและมีทักษะในการวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีใหม่ส่งผลกระทบต่อเราประเทศของเราและโลก.
ความรู้วิศวกรรมเป็นความเข้าใจในวิธีการที่ผลิตภัณฑ์กระบวนการและระบบที่มีการพัฒนาผ่านทาง ขั้นตอนการออกแบบวิศวกรรม การออกแบบทางวิศวกรรมเป็นโปรแกรมที่เป็นระบบและความคิดสร้างสรรค์ของหลักการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ที่จะสิ้นสุดลงในทางปฏิบัติเช่นการออกแบบการผลิตและการดำเนินงานของโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพและประหยัดเครื่องจักรกระบวนการและระบบ.
ความรู้ทางคณิตศาสตร์คือความสามารถในการวิเคราะห์เหตุผลและการสื่อสาร ความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านการวางตัวการสร้างสูตรการแก้และการตีความการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในความหลากหลายของสถานการณ์.
STEM ความรู้ความสามารถในการระบุและนำแนวคิดและเนื้อหาจากวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีวิศวกรรมและคณิตศาสตร์ที่จะเข้าใจและแก้ปัญหาความท้าทายหรือปัญหาที่ ไม่สามารถแก้ไขได้โดยวิธีการทางวินัยอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ละสาขาวิชา STEM รวมถึงนิสัยเฉพาะของจิตใจวิธีการคิดและเนื้อหาหลักที่มีความสำคัญต่อความรู้ STEM และในขณะที่การเรียนรู้ต้นกำเนิดอยู่ในระเบียบวินัยเป็นสิ่งที่จำเป็นในแต่ละดังนั้นก็คือความสามารถในการรับรู้และชื่นชมการเชื่อมต่อในหมู่พวกเขา ความรู้ STEM จะประสบความสำเร็จเมื่อนักเรียนสามารถที่จะใช้ความเข้าใจของเขาหรือเธอว่าโลกของการทำงานภายในและทั่วทั้งสี่สาขาวิชาที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์ทางสังคมเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมของชุมชนในท้องถิ่นและระดับโลกของพวกเขา ผลลัพธ์ที่ได้คือที่รวมของความรู้ STEM มากกว่าผลรวมของส่วนทางวินัยของแต่ละบุคคล นอกจากนี้การศึกษาต้นจะต้องอยู่ในบริบทของทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่นการปรับตัว, การสื่อสาร, การทำงานร่วมกันในการแก้ปัญหาและการคิดเชิงระบบ เพื่อให้บรรลุถึงปลายเหล่านี้นักเรียนจะต้องมีโอกาสที่จะพัฒนาจากสามเณรที่มีความเชี่ยวชาญในการทำความเข้าใจของพวกเขาในทุกพื้นที่เหล่านี้ผ่านประสบการณ์ที่จะเริ่มต้นในเด็กก่อนวัยเรียนและมีการขยายตัวโดยเจตนาและการกลั่นตลอดประสบการณ์ K12 ของพวกเขา.
กรอบนี้จะให้ความหมายที่รวมความรู้ STEM ว่า เป็นที่ฝังแน่นในชุดของผลลัพธ์ที่ต้องการ - ประชาชนเตรียมความสำเร็จ postsecondary และท่อ STEM ที่เพิ่มขึ้นและมีความหลากหลาย - และสอดคล้องกับอาชีพที่ครอบคลุมและวิทยาลัยวาระการประชุมพร้อม คำนิยามนี้ไม่ได้กำหนดรูปแบบเดียวหรือวิธีการเป็นวิธีการแก้ปัญหา แต่เพียงผู้เดียว แต่ช่วยให้โรงเรียนและเขตพื้นที่การระดมทรัพยากรท้องถิ่นและภูมิภาคของพวกเขาที่ไม่ซ้ำกันในรูปแบบที่มีความยืดหยุ่นเพื่อให้บรรลุผลเหล่านั้น วิธีการที่ขับเคลื่อนด้วยผลนี้สามารถลดความสับสนเกี่ยวกับความหมายของต้นกำเนิดและอนุญาตให้โรงเรียนและชุมชนในการสร้างความเป็นเจ้าของและการสนับสนุนที่วาดตามบริบทของท้องถิ่นของพวกเขาและมั่นใจความสำเร็จของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เข้าใจและที่อยู่ที่ท้าทายของขบวนการต้นการรู้สำหรับนักเรียนทั้งหมดเริ่มต้นด้วยความเข้าใจและการกำหนดส่วนประกอบและความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา .
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ คือ ความสามารถในการใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ( ฟิสิกส์ เคมี วิทยาศาสตร์ชีวภาพโลกอวกาศและวิทยาศาสตร์ ) และกระบวนการที่จะเข้าใจธรรมชาติของโลก และมีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่มีผลต่อมัน ( ใน 3 พื้นที่หลัก - วิทยาศาสตร์ในชีวิตและสุขภาพ วิทยาศาสตร์ โลก สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ) .
ส่วนผมมีความสามารถในการใช้ ดูแล เข้าใจ และประเมินเทคโนโลยี นักเรียนควรรู้วิธีที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่เข้าใจว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่พัฒนาขึ้น และมีทักษะในการวิเคราะห์ว่าเทคโนโลยีใหม่ส่งผลกระทบต่อเรา ประเทศของเราและโลก
ความรู้วิศวกรรมคือการเข้าใจวิธีการที่ผลิตภัณฑ์ กระบวนการ และระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยวิศวกรออกแบบกระบวนการการออกแบบวิศวกรรมระบบ และงานสร้างสรรค์ของหลักการทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เพื่อสิ้นสุดปฏิบัติ เช่น การออกแบบ การผลิต และการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ และประหยัด โครงสร้าง ระบบ เครื่องจักร กระบวนการ และ .
การรู้ทางคณิตศาสตร์ ความสามารถในการ วิเคราะห์ เหตุผล และสื่อสารความคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านวางตัว สร้าง แก้ไขล่ามและการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ในหลากหลายสถานการณ์
ก้านความรู้คือความสามารถในการระบุและใช้แนวคิดและเนื้อหาจากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ให้เข้าใจและแก้ปัญหาความท้าทายหรือปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยวิธีการใด ๆ หนึ่ง วินัย . แต่ละก้านสาขารวมเฉพาะนิสัยของจิตใจ วิธีคิดเนื้อหาหลักที่สำคัญ และต้นมี . และในขณะที่การเรียนรู้ในแต่ละต้น วินัยที่จำเป็นเลย คือความสามารถในการรับรู้และซาบซึ้งในความสัมพันธ์ของพวกเขา ก้านการรู้เกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนสามารถประยุกต์ใช้ความเข้าใจของเขาหรือเธอของวิธีการทำงานในโลกภายในและข้ามเหล่านี้สี่คาบสาขาพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและสภาพสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นของตนและชุมชนทั่วโลก ผลลัพธ์ที่ได้คือว่าทั้งต้นใช้เป็นมากกว่าผลรวมของชิ้นส่วนของมันแต่ละวินัย นอกจากนี้ การศึกษายังต้องอยู่ในบริบทของทักษะในศตวรรษที่ 21 เช่น การปรับตัว การสื่อสาร ความร่วมมือ การแก้ปัญหา และการคิดระบบเพื่อให้บรรลุนี้จบลง นักเรียนจะต้องมีโอกาสที่จะพัฒนาจากสามเณรเพื่อผู้เชี่ยวชาญในความเข้าใจของพวกเขาในพื้นที่เหล่านี้ทั้งหมด ผ่านประสบการณ์ที่เริ่มในเด็กก่อนวัยเรียนและตั้งใจจะขยายและการกลั่นตลอดประสบการณ์ K12 .
กรอบนี้มีการรวมนิยามของก้านความรู้ที่ฝังแน่นในชุดของผลลัพธ์ที่ต้องการ - ประชาชนที่เตรียมไว้ ,ความสำเร็จ Postsecondary และเพิ่มขึ้นและท่อ - ก้านที่หลากหลายและสอดคล้องกับอาชีพและวิทยาลัยวาระครอบคลุมพร้อม นิยามนี้ไม่ได้สั่งแบบเดียวหรือแบบเป็นโซลูชั่นที่เพียง แต่ช่วยให้โรงเรียนและเขตในการระดมทรัพยากรของพวกเขาเฉพาะในภูมิภาคและท้องถิ่นในวิธีที่ยืดหยุ่นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์เหล่านั้นนี้ผลวิธีการขับเคลื่อน สามารถลดความสับสนเกี่ยวกับความหมายของลำต้น และช่วยให้โรงเรียนและชุมชนเพื่อสร้างความเป็นเจ้าของและการสนับสนุนสำหรับรุ่นที่วาดตามบริบทท้องถิ่นของตน และรับประกันความสำเร็จ
นักเรียน .