“Whenyou takethis coupling offyoull

“Whenyou takethis coupling off
youllbeableto flex that universaljointin onedirection
but not theother
Because people make few pauses between words, when you don’t understand something, it often sounds like a long string of sounds. You have no idea how many words you heard. Even if there are some words that you know, you may not be able to recognize them because they may be glued together with other words.

There is no quick solution to this problem. You simply have to know a lot of words and phrases (and their pronunciations). If you know all the words in a sentence, you may be able to recognize them when you hear them, even if they are glued together. I said may, because there may be other difficulties:

•While you can read a sentence as slowly as you want, you cannot listen as slowly as you want. Some speakers talk quite fast, which can be a challenge.
•While spellings are the same all over the world, there are differences in pronunciation between different parts of the English-speaking world. Some speakers have unusual accents.
The only real way to learn to understand fast or accented speech is to spend a lot of time listening to many different speakers.

That is why understanding spoken English is so difficult for beginners. Without a large vocabulary and lots of practice, you are in serious trouble. Everything will sound like one long, strange word.

It’s easier to build your vocabulary with written English
While reading, you have as much time as you want. You can always stop and look up a difficult word in a dictionary. You can direct your attention to different parts of the sentence. You can re-read a sentence as many times as you like. With listening, this is troublesome. Stopping and rewinding a recording is inconvenient and sometimes impossible (live TV, movie theater, live person).

Another problem is related to spelling. If you want to look up a word in a dictionary, you have to know what the word is. In a book, the word is simply printed on the page. In speech, you may not know where the unknown word begins and how it is spelled. For example, if you hear something like this (/ɪnˈækt/), is it inact, enact or perhaps an act? Should you look under I, E or A in your dictionary?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"Whenyou takethis coupling ปิดyoullbeableto flex ที่ onedirection universaljointinแต่ไม่ theother เพราะคนทำไม่กี่ช่วงหยุดระหว่างคำ เมื่อคุณไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง มันมักจะเสียงเหมือนเสียงสายยาว คุณมีความคิดจำนวนคำที่คุณได้ยิน แม้ว่ามีบางคำที่คุณรู้ คุณอาจไม่สามารถรู้จักพวกเขา เพราะพวกเขาอาจจมปลักกับคำอื่น ๆ มีวิธีแก้ปัญหานี้ไม่ด่วน นอกจากนี้คุณก็จะต้องรู้คำและวลี (และการออกเสียง) ถ้าคุณรู้ว่าทุกคำในประโยค คุณอาจรู้จักพวกเขาเมื่อคุณได้ยินพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะติดกาวเข้าด้วยกัน ฉันกล่าวว่า พฤษภาคม เนื่องจากอาจมีปัญหาอื่น ๆ: •While คุณสามารถอ่านประโยคช้าคุณต้อง คุณไม่ฟังช้า ตามที่คุณต้องการ ลำโพงบางพูดค่อนข้างเร็ว ซึ่งอาจเป็นความท้าทาย •While เลือกเหมือนกันทั่วโลก มีความแตกต่างในการออกเสียงระหว่างส่วนต่าง ๆ ของโลกพูดภาษาอังกฤษ ลำโพงบางสำเนียงผิดปกติได้ วิธีการเรียนรู้ที่จะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว หรือยกเพื่อกำกับเสียงเสียงเท่านั้นจะใช้เวลาฟังลำโพงแตกต่างกันมาก นั่นคือเหตุผลที่การทำความเข้าใจการพูดภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่ มีคำศัพท์จำนวนมากและฝึก คุณมีปัญหาร้ายแรง ทุกอย่างจะฟังหนึ่งคำยาว แปลก ง่ายต่อการสร้างคำศัพท์ของคุณเขียนภาษาอังกฤษในขณะที่อ่าน คุณมีเวลามากเท่าที่คุณต้อง คุณสามารถหยุด และค้นหาคำยากในพจนานุกรม คุณสามารถตรงความสนใจของคุณไปยังส่วนต่าง ๆ ของประโยค คุณสามารถอ่านประโยคได้หลายครั้งเท่าที่คุณต้องการใหม่ ด้วยการฟัง นี้จะลำบาก หยุด และกรอกลับการบันทึกจะถูกละเลย และไม่บาง (ไลฟ์ทีวี หนัง ถ่ายทอดสดคน) ปัญหาอื่นเกี่ยวข้องกับการสะกดคำ ถ้าคุณต้องการค้นหาคำในพจนานุกรม คุณได้ทราบว่าคำคืออะไร หนังสือ คำมีเพียงแค่พิมพ์หน้า ในการพูด คุณอาจไม่รู้ที่การเริ่มต้นของคำที่ไม่รู้จักและการสะกด ตัวอย่าง ถ้าคุณได้ยินบางสิ่งเช่นนี้ (ɪnˈækt /), เป็น inact แสดงออก หรือบางทีการกระทำ คุณควรมองใต้ I, E หรือ A ในพจนานุกรมของคุณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"การมีเพศสัมพันธ์ whenyou takethis ออก
youllbeableto เฟล็กซ์ที่ universaljointin onedirection
แต่ไม่ theother
เพราะคนให้หยุดไม่กี่ระหว่างคำเมื่อคุณไม่เข้าใจบางสิ่งบางอย่างก็มักจะเสียงเหมือนสายยาวของเสียง คุณมีความคิดว่าหลายคำที่คุณไม่มีใครได้ยิน แม้ว่าจะมีคำบางคำที่คุณรู้ว่าคุณอาจจะไม่สามารถที่จะยอมรับพวกเขาเพราะพวกเขาอาจจะติดกาวร่วมกับคำอื่น ๆ . ไม่มีวิธีการแก้ปัญหาที่รวดเร็วในการแก้ไขปัญหานี้คือ เพียงแค่คุณต้องรู้จำนวนมากของคำและวลี (และออกเสียงของพวกเขา) ถ้าคุณรู้ว่าทุกคำในประโยคที่คุณอาจจะสามารถที่จะรู้จักพวกเขาเมื่อคุณได้ยินพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะติดกาวเข้าด้วยกัน ผมบอกว่าอาจเพราะอาจจะมีปัญหาอื่น ๆ : •ในขณะที่คุณสามารถอ่านประโยคเป็นอย่างช้า ๆ ตามที่คุณต้องการคุณไม่สามารถรับฟังเป็นอย่างช้า ๆ ตามที่คุณต้องการ ลำโพงบางพูดคุยค่อนข้างรวดเร็วซึ่งสามารถเป็นสิ่งที่ท้าทาย. •ในขณะที่สะกดเหมือนกันทั่วโลกมีความแตกต่างในการออกเสียงระหว่างส่วนต่าง ๆ ของโลกที่พูดภาษาอังกฤษ ลำโพงบางคนมีสำเนียงที่ผิดปกติ. เฉพาะทางจริงที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจคำพูดเร็วหรือสำเนียงคือการใช้จ่ายเป็นจำนวนมากเวลาฟังลำโพงที่แตกต่างกัน. นั่นคือเหตุผลที่เข้าใจภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น โดยไม่ต้องมีคำศัพท์ที่มีขนาดใหญ่และจำนวนมากของการปฏิบัติที่คุณอยู่ในปัญหาร้ายแรง ทุกอย่างจะเสียงเหมือนยาวหนึ่งคำแปลก. มันง่ายที่จะสร้างคำศัพท์ภาษาอังกฤษของคุณด้วยการเขียนในขณะที่อ่านคุณมีเวลามากเท่าที่คุณต้องการ คุณสามารถหยุดและมองขึ้นคำยากในพจนานุกรม คุณสามารถตรงความสนใจของคุณไปยังส่วนต่างๆของประโยค คุณสามารถอีกครั้งอ่านประโยคที่หลาย ๆ ครั้งตามที่คุณต้องการ ด้วยการฟังนี้จะลำบาก หยุดและ rewinding บันทึกจะไม่สะดวกและบางครั้งก็เป็นไปไม่ได้ (โทรทัศน์ที่ถ่ายทอดสด, โรงภาพยนตร์, คนที่มีชีวิตอยู่). ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการสะกดคำ ถ้าคุณต้องการที่จะมองขึ้นคำในพจนานุกรมที่คุณต้องรู้ว่าสิ่งที่เป็นคำที่ ในหนังสือเป็นคำที่พิมพ์เพียงแค่บนหน้าเว็บ ในคำพูดของคุณอาจไม่ทราบว่าคำที่ไม่รู้จักเริ่มต้นและวิธีการที่จะสะกด ตัวอย่างเช่นถ้าคุณได้ยินอะไรแบบนี้ (/ ɪnækt /) คือมัน inact, ตราหรือบางทีอาจจะกระทำได้หรือไม่ คุณควรมองตาม I, E หรือในพจนานุกรมของคุณ?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" พอคุณ เอานี่ไปนะจ๊ะ  coupling ปิด
youllbeableto   Flex  ที่ universaljointin   onedirection

แต่ไม่ อื่นเพราะคนน้อยทำให้การหยุดระหว่างพูด เมื่อคุณไม่เข้าใจอะไร มันมักจะเสียงเหมือน สาย ยาว ของ เสียง คุณมีความคิดไม่กี่คำที่คุณได้ยิน แม้ว่าจะมีบางอย่างที่คุณรู้คุณอาจจะรู้จักพวกเขาเพราะพวกเขาอาจจะจมปลักอยู่กับคำอื่น ๆ

ไม่มีด่วนการแก้ไขปัญหานี้ คุณเพียงแค่ต้องรู้คำและวลี ( และการออกเสียงของพวกเขา ) ถ้าคุณรู้ว่าคำทั้งหมดในประโยคที่คุณอาจจะรู้จักพวกเขาเมื่อคุณได้ยินพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะติดกาวเข้าด้วยกัน ผมบอกว่าอาจจะ เพราะอาจจะมีปัญหาอื่น ๆ :

- ในขณะที่คุณสามารถอ่านประโยคอย่างช้าๆ ตามที่คุณต้องการ คุณสามารถที่จะฟังอย่างช้าๆ ตามที่คุณต้องการ ลําโพงบางพูดค่อนข้างเร็ว ซึ่งสามารถเป็นสิ่งที่ท้าทาย
- ในขณะที่การสะกดเป็นเหมือนกันทั่วโลก มีความแตกต่างในการออกเสียงระหว่างส่วนต่างๆของโลกที่พูดภาษาอังกฤษ . ลําโพงบางมีสำเนียงแปลกๆ
เฉพาะทางจริงที่จะเรียนรู้ที่จะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว หรือ สำเนียงการพูด คือการใช้จ่ายมากเวลาฟังลำโพงที่แตกต่างกันมาก

นั่นคือเหตุผลที่เข้าใจภาษาอังกฤษเป็นเรื่องยากสำหรับผู้เริ่มต้น ไม่มีคำศัพท์ขนาดใหญ่และจำนวนมากของการปฏิบัติ ท่านจะเดือดร้อน ทุกอย่างจะเสียงเหมือนเป็นคำที่แปลก

มันง่ายที่จะสร้างคำศัพท์ของคุณด้วยการเขียนภาษาอังกฤษ
ในขณะที่อ่าน คุณมีเวลามากเท่าที่ต้องการ คุณสามารถหยุดและมองขึ้นไปเป็นคำยากในพจนานุกรม คุณสามารถโดยตรงความสนใจของคุณไปยังส่วนต่างๆ ของประโยค คุณสามารถจะอ่านประโยคหลาย ๆครั้งตามที่คุณต้องการ ด้วยการฟัง นี้คือปัญหา การหยุดและกรอกลับบันทึกจะถูกละเลยและบางครั้งเป็นไปไม่ได้ ( Live TV , โรงภาพยนตร์ , คนที่อยู่ )