Did you ever think about how much w

Did you ever think about how much we interact with international products and services on a daily basis?
As Americans we may drive to work in a car designed in Europe, assembled in South America, manufactured in Asia, and shipped by a Middle Eastern company. We may wear clothes and shoes made in China, and sometimes depending on your dining preferences eat Italian, Mexican, Caribbean, Chinese, or Greek food. And as for entertainment flat screen televisions manufactured in China, the Sony PlayStation, the Wii, the Apple iPod and iPhones have become some of the most popular gadgets in the U.S.
Our world has become so quickly global and is not slowing down. The impact of international business is invading each part of our daily lives in the home, workplace, school, and society as a whole. Technology such as, the Internet, telecommunications, and travel has played a major role in impacting American culture. We can text someone instantly and get a response back from Russia immediately. We can call someone over Skype in India and talk for free on our computer for as long as we want. Not to mention Facebook and Twitter which have become the most popular social networking tools on the planet. Communication has become a major tool to connect us to the world. If we want to travel to Africa or learn about Australia information is at our fingertips.
I remember watching the History Channel a few years ago and the theme was “Globalize Yourself”. Hmmm, “Globalize Yourself”, what is that all about? I thought it was very interesting a history television show could have a major influence on the way we think. Many of the history shows were focused on the history of gold, the booming industry of Dubai, the green innovations in energy alternatives, and of course a few apocalyptic series of natural disasters and end time predictions. History has an interesting way of repeating itself. In the beginning didn’t world cultures trade with one another for gold, spices, clothes, and food? Didn’t mankind live off the natural resources of the earth and didn’t major trade take place between Western and Eastern civilizations. Technology was not that advanced as today, but a trading system was in place and cultures interacted with buying and selling goods. Did we ever think that international business would be a vehicle for mankind to interact once again on the planet?
So I wonder what happened. Did mankind get along and survive in a global village years ago? Is history repeating itself as we interact with our current world economy? Were people upset because of the loss of jobs due to outsourcing and reduction of wages? Or did people just produce new products and services and specialize in creating new opportunities of productivity.
Isn’t it amazing how globalization is impacting our daily lives in the 21st century?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณเคยคิดเกี่ยวกับจำนวนเราโต้ตอบกับสินค้าต่างประเทศและบริการประจำวัน เป็นคนอเมริกัน เราอาจขับไปทำงานในรถยนต์ในยุโรป ประกอบในอเมริกาใต้ ผลิตในเอเชีย และจัดส่ง โดยบริษัทตะวันออกกลาง เราอาจสวมใส่เสื้อผ้า และรองเท้า ในประเทศจีน และบางครั้งขึ้นอยู่ กับลักษณะของอาหารที่รับประทานอาหารอิตาลี เม็กซิโก แคนาดา จีน หรือกรีก และสำหรับความบันเทิงจอแบนโทรทัศน์ผลิตในจีน เพลย์สเต ชันของโซนี่ จากเครื่อง Wii, Apple iPod และ iPhones ได้กลายเป็นบางส่วนของโปรแกรมเบ็ดเตล็ดที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาโลกของเราได้กลายเป็นดังนั้นทั่วโลกอย่างรวดเร็ว และไม่ช้าลง ผลกระทบของธุรกิจระหว่างประเทศเป็นบุกรุกแต่ละส่วนของชีวิตประจำวันในบ้าน ทำงาน โรงเรียน และสังคมโดยรวม เทคโนโลยีเช่น อินเตอร์เน็ต โทรคมนาคม การท่องเที่ยวได้เล่นบทบาทสำคัญในผลกระทบต่อวัฒนธรรมอเมริกัน เราสามารถข้อความคนทันที และได้รับการตอบรับกลับมาจากรัสเซียทันที เราสามารถเรียกคนผ่าน Skype ในอินเดีย และพูดคุยฟรีบนคอมพิวเตอร์ของเราตราบใดที่เราต้องการ ไม่ต้องพูดถึง Facebook และ Twitter ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือเครือข่ายสังคมนิยมมากที่สุดในโลก สื่อสารได้กลายเป็น เครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อโลก ถ้าเราต้องการเดินทางไปแอฟริกา หรือเรียนรู้เกี่ยวกับ ข้อมูลของออสเตรเลียเป็นที่ปลายนิ้วของเราผมจำได้ว่า ดูช่องประวัติศาสตร์กี่ปีที่ผ่านมา และมีรูปแบบ "Globalize ตัวเอง" Hmmm, "Globalize ตัวเอง" คืออะไรที่เกี่ยวกับทั้งหมดหรือไม่ ฉันคิดว่า มันน่าสนใจมากโทรทัศน์ประวัติแสดงได้มีอิทธิพลสำคัญทางเราคิดว่า แสดงประวัติมากมายที่เน้นประวัติของทอง อุตสาหกรรมเฟื่องฟูของดูไบ นวัตกรรมสีเขียวในพลังงานทางเลือก และแน่นอนว่ากี่พยากรณ์ชุดของภัยธรรมชาติและการคาดคะเนเวลาสิ้นสุด ประวัติศาสตร์ทางที่น่าสนใจของการทำซ้ำตัวเองได้ ในการเริ่มต้น ไม่ได้วัฒนธรรมโลกลงทุน ด้วยกันสำหรับทอง เครื่องเทศ เสื้อผ้า อาหาร และ ไม่มนุษย์อาศัยออกจากทรัพยากรธรรมชาติของโลก และไม่ได้ที่ทำทางการค้าที่สำคัญระหว่างอารยธรรมตะวันตกและตะวันออก เทคโนโลยีไม่ที่ขั้นสูงเช่นวันนี้ แต่ระบบซื้อขายได้ในสถานที่ และวัฒนธรรมอาจ มีการซื้อ และขายสินค้า ไม่ได้เราเคยคิดว่า ธุรกิจจะมียานพาหนะสำหรับมนุษย์ในการทำงานอีกครั้งในโลกจึง ไม่ทราบว่า เกิดอะไรขึ้น มนุษย์ไม่ได้เกลียว และอยู่รอดในหมู่บ้านทั่วโลกปีที่ผ่านมา เป็นประวัติซ้ำตัวเองเป็นเราโต้ตอบกับเศรษฐกิจโลกปัจจุบันหรือไม่ มีคนอารมณ์เสียเนื่องจากการสูญเสียงานเนื่องจากผู้รับเหมาช่วงและการลดค่าจ้างหรือไม่ หรือไม่คนเพียงผลิตผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ และเชี่ยวชาญในการสร้างโอกาสใหม่ของประสิทธิภาพ ไม่ได้มันน่าพิศวงว่าโลกาภิวัตน์มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราในศตวรรษที่ 21

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณเคยคิดเกี่ยวกับวิธีการมากที่เราโต้ตอบกับผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศและบริการในชีวิตประจำวัน?
ในฐานะที่เป็นชาวอเมริกันที่เราอาจจะขับรถไปทำงานในรถได้รับการออกแบบในยุโรปประกอบในอเมริกาใต้ที่ผลิตในเอเชียและการจัดส่งโดย บริษัท ตะวันออกกลาง เราอาจจะสวมใส่เสื้อผ้าและรองเท้าที่ทำในประเทศจีนและบางครั้งก็ขึ้นอยู่กับความชอบรับประทานอาหารของคุณกินอาหารอิตาเลียน, เม็กซิกัน, แคริบเบียน, จีน, หรืออาหารกรีก และเป็นความบันเทิงโทรทัศน์จอแบนที่ผลิตในประเทศจีน, Sony PlayStation, Wii, แอปเปิ้ลไอพอดและไอโฟนได้กลายเป็นบางส่วนของแกดเจ็ตที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โลกของเราได้กลายเป็นอย่างรวดเร็วทั่วโลกและไม่ได้ชะลอตัวลง ผลกระทบของธุรกิจระหว่างประเทศที่บุกรุกแต่ละส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราในบ้านที่ทำงานโรงเรียนและสังคมโดยรวม เทคโนโลยีเช่นอินเทอร์เน็ต, การสื่อสารโทรคมนาคมและการเดินทางที่มีบทบาทสำคัญในการส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมของชาวอเมริกัน เราสามารถข้อความคนทันทีและได้รับการตอบกลับจากรัสเซียทันที เราสามารถเรียกคนมากกว่า Skype ในอินเดียและพูดคุยฟรีในคอมพิวเตอร์ของเราให้นานที่สุดเท่าที่เราต้องการ ไม่พูดถึง Facebook และ Twitter ซึ่งได้กลายเป็นที่นิยมมากที่สุดเครื่องมือเครือข่ายสังคมบนโลก การสื่อสารได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเชื่อมต่อเราไปทั่วโลก ถ้าเราต้องการที่จะเดินทางไปแอฟริกาหรือเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลออสเตรเลียอยู่ที่ปลายนิ้วของเรา.
ผมจำได้ว่าดูประวัติศาสตร์ช่องทางไม่กี่ปีที่ผ่านมาและรูปแบบคือ "Globalize ตัวเอง" อืม "Globalize ตัวเอง" สิ่งนั่นคือทั้งหมดที่เกี่ยวกับ? ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากรายการโทรทัศน์ประวัติศาสตร์อาจมีอิทธิพลสำคัญในวิธีที่เราคิด หลายของประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่ากำลังจดจ่ออยู่กับประวัติศาสตร์ของทองอุตสาหกรรมเฟื่องฟูของดูไบนวัตกรรมสีเขียวในพลังงานทางเลือกและแน่นอนชุดสันทรายน้อยของภัยพิบัติทางธรรมชาติและการคาดการณ์เวลาสิ้นสุด ประวัติศาสตร์มีวิธีที่น่าสนใจของการทำซ้ำตัวเอง ในการเริ่มต้นไม่ได้ค้าวัฒนธรรมโลกกับอีกคนหนึ่งสำหรับทอง, เครื่องเทศ, เสื้อผ้า, และอาหาร? ไม่ต้อนรับมนุษยชาติอยู่นอกทรัพยากรธรรมชาติของโลกและไม่ได้ค้าที่สำคัญเกิดขึ้นระหว่างอารยธรรมตะวันตกและตะวันออก เทคโนโลยีไม่ได้ว่าสูงขึ้นในวันนี้ แต่ระบบการซื้อขายอยู่ในสถานที่และวัฒนธรรมที่มีความสัมพันธ์กับการซื้อและขายสินค้า เราไม่เคยคิดว่าธุรกิจระหว่างประเทศจะเป็นยานพาหนะสำหรับมนุษย์ในการโต้ตอบอีกครั้งในโลก?
ดังนั้นผมจึงสงสัยว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่มนุษยชาติได้รับพร้อมและอยู่รอดในหมู่บ้านปีที่ผ่านมาทั่วโลกหรือไม่ ประวัติความเป็นมาทำซ้ำตัวเองในขณะที่เรามีปฏิสัมพันธ์กับเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันของเรา? เป็นคนอารมณ์เสียเนื่องจากการสูญเสียของงานที่เกิดจากการจ้างและการลดลงของค่าจ้างหรือไม่ หรือว่าคนที่เพิ่งผลิตสินค้าและบริการใหม่ ๆ และมีความเชี่ยวชาญในการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในการผลิต.
มันไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกระแสโลกาภิวัตน์เป็นชีวิตประจำวันของเราในศตวรรษที่ 21?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณเคยคิดเกี่ยวกับวิธีที่เราโต้ตอบกับสินค้าระหว่างประเทศและบริการบนพื้นฐานทุกวัน
เป็นอเมริกัน เราอาจจะขับรถไปทำงานในรถออกแบบในยุโรปประกอบในทวีปอเมริกาใต้ ที่ผลิตในเอเชีย และจัดส่งโดย บริษัท กลางตะวันออก เราอาจจะสวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่ผลิตในประเทศจีน และบางครั้งขึ้นอยู่กับความชอบกินร้านอาหารอิตาลี , เม็กซิกัน , แคริบเบียน , จีน ,หรืออาหารกรีก และสำหรับความบันเทิงโทรทัศน์จอแบนที่ผลิตในประเทศจีน , Sony PlayStation , Wii , iPod แอปเปิ้ลและไอโฟนได้กลายเป็นบางส่วนของแกดเจ็ตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
โลกของเราได้กลายเป็นอย่างรวดเร็วทั่วโลกและไม่ชะลอตัวลง ผลกระทบของธุรกิจระหว่างประเทศเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราแต่ละคนบุกรุกในบ้าน ที่ทำงาน โรงเรียนและสังคมโดยรวม เทคโนโลยี เช่น อินเทอร์เน็ต โทรคมนาคม และการท่องเที่ยว ได้มีบทบาทในส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมอเมริกัน เราสามารถข้อความที่ใครบางคนได้ทันทีและได้รับการตอบสนองกลับมาจากรัสเซียทันที เราสามารถเรียกคนผ่าน Skype ในอินเดียและพูดคุยฟรีบนคอมพิวเตอร์ของเราได้นานเท่าที่เราต้องการไม่ต้องพูดถึง Facebook และ Twitter ซึ่งได้กลายเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเครือข่ายทางสังคมบนโลก การสื่อสารได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะเชื่อมต่อเรากับโลก ถ้าเราต้องการเดินทางไปแอฟริกา หรือเรียนรู้เกี่ยวกับข้อมูลออสเตรเลียอยู่ที่ปลายนิ้วของเรา .
ผมจำได้ดูช่องทางประวัติศาสตร์ไม่กี่ปีที่ผ่านมาและชุดรูปแบบคือ " พรรคกระยาจกเอง " อืม " พรรคกระยาจกเอง "มันคืออะไรทั้งหมดเกี่ยวกับ ? ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมากเป็นประวัติศาสตร์โทรทัศน์แสดงสามารถมีอิทธิพลหลักในวิธีที่เราคิด แสดงมากของประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของทอง , อุตสาหกรรมเฟื่องฟูของดูไบ , นวัตกรรมสีเขียวในพลังงานทางเลือก และแน่นอนชุดสันทรายน้อยของภัยพิบัติทางธรรมชาติและสิ้นสุดเวลาคาดคะเนเป็นวิธีที่น่าสนใจของประวัติศาสตร์ซ้ำตัวเอง ในการเริ่มต้นไม่ได้วัฒนธรรมโลกการค้ากับคนอื่นเพื่อทองคำ เครื่องเทศ เสื้อผ้า และอาหาร ไม่มีมนุษย์อาศัยอยู่จากทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน และไม่ได้สำคัญทางการค้าเกิดขึ้นระหว่างตะวันตกและอารยธรรมตะวันออก เทคโนโลยีไม่ก้าวหน้า และวันนี้แต่ระบบการซื้อขายอยู่ในสถานที่ และ วัฒนธรรม เรื่องการซื้อและขายสินค้า เราเคยคิดว่าธุรกิจระหว่างประเทศจะเป็นยานพาหนะสำหรับมนุษย์ที่จะโต้ตอบอีกครั้งบนโลกเหรอ
ดังนั้นฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น พวกมนุษย์ได้ และเอาตัวรอดในหมู่บ้านปีทั่วโลกมาแล้ว เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำตัวเองเมื่อเราโต้ตอบกับโลกเศรษฐกิจของเราในปัจจุบัน ?คนอารมณ์เสียเพราะการสูญเสียของงานเนื่องจาก Outsourcing และการจ้าง ? หรือแค่คนผลิตสินค้าใหม่ และบริการ และความเชี่ยวชาญในการสร้างโอกาสใหม่ของการเพิ่มผลผลิต
มันน่าพิศวงวิธีโลกาภิวัตน์มีผลต่อชีวิตประจำวันของเราในศตวรรษที่ 21 ?