The Spanish–American War (Spanish:

The Spanish–American War (Spanish: Guerra hispano-estadounidense) was a conflict in 1898 between Spain and the United States, the result of U.S. intervention in the Cuban War of Independence. U.S. attacks on Spain's Pacific possessions led to involvement in the Philippine Revolution and ultimately to the Philippine–American War.[6]

Revolts against Spanish rule had been occurring for some years in Cuba. There had been war scares before, as in the Virginius Affair in 1873. In the late 1890s, US public opinion was agitated by anti-Spanish propaganda led by journalists such as Joseph Pulitzer and William Randolph Hearst which used yellow journalism to criticize Spanish administration of Cuba. After the mysterious sinking of the US Navy battleship Maine in Havana harbor, political pressures from the Democratic Party and certain industrialists pushed the administration of Republican President William McKinley into a war he had wished to avoid.[7] Compromise was sought by Spain, but rejected by the United States which sent an ultimatum to Spain demanding it surrender control of Cuba. First Madrid, then Washington, formally declared war.[8]

Although the main issue was Cuban independence, the ten-week war was fought in both the Caribbean and the Pacific. US naval power proved decisive, allowing expeditionary forces to disembark in Cuba against a Spanish garrison already brought to its knees by nationwide Cuban insurgent attacks and further wasted by yellow fever.[9] Numerically superior Cuban, Philippine, and US forces obtained the surrender of Santiago de Cuba and Manila despite the good performance of some Spanish infantry units and fierce fighting for positions such as San Juan Hill.[10] With two obsolete Spanish squadrons sunk in Santiago de Cuba and Manila Bay and a third, more modern fleet recalled home to protect the Spanish coasts, Madrid sued for peace.[11]

The result was the 1898 Treaty of Paris, negotiated on terms favorable to the US, which allowed it temporary control of Cuba, and ceded ownership of Puerto Rico, Guam and the Philippine islands. The cession of the Philippines involved payment of $20 million ($568,880,000 today) to Spain by the US to cover infrastructure owned by Spain.[12]

The defeat and collapse of the Spanish Empire was a profound shock to Spain's national psyche, and provoked a thorough philosophical and artistic revaluation of Spanish society known as the Generation of '98.[11] The United States gained several island possessions spanning the globe and a rancorous new debate over the wisdom of expansionism.[13]

The war began exactly fifty-two years after the beginning of the Mexican–American War. It was one of only eleven US wars to have been formally declared by Congress.[14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สงครามสเปนอเมริกัน (สเปน: Guerra hispano estadounidense) เป็นความขัดแย้งใน 1898 ระหว่างสเปนและสหรัฐอเมริกา ผลของการแทรกแซงของสหรัฐในสงครามเอกราชคิวบา โจมตีสหรัฐฯ ทรัพย์สินแปซิฟิกของสเปนที่นำไปสู่การมีส่วนร่วมในการปฏิวัติฟิลิปปินส์และการสงครามฟิลิปปินส์สหรัฐอเมริกา [6]อย่างไรกับกฎสเปนมีการเกิดขึ้นบางปีในคิวบา เคยมี scares สงครามก่อน ในเรื่อง Virginius ใน 1873 ในปลายช่วงปี 1890 สื่อ มติมหาชนของสหรัฐฯ ถูกนั้นกระตุ้นทำ โดยโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสเปนที่นำ โดยนักข่าวโจเซฟพูลิตเซอร์และ William แรนโดล์ฟ Hearst ซึ่งใช้สีเหลืองวารสารศาสตร์วิพากษ์การจัดการภาษาสเปนของคิวบา หลังจากจมลึกลับของเรือรบของกองทัพเรือเราเมนในอ่าวฮาวานา แรงกดดันทางการเมืองจากพรรคประชาธิปไตยและบางควรผลักดันการบริหารงานของประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยม William McKinley ในสงคราม เขาได้ปรารถนาจะหลีกเลี่ยง [7] ปัญหาถูกขอ โดยสเปน แต่ถูกปฏิเสธ โดยสหรัฐอเมริกาซึ่งส่ง ultimatum สเปนเรียกร้องมันยอมจำนนของคิวบา แรกมาดริด วอชิงตันแล้ว ประกาศสงครามอย่างเป็นกิจจะลักษณะ [8]แม้ว่าปัญหาหลักคือ เอกราชคิวบา สงครามสิบสัปดาห์ถูกสู้ในแคริบเบียนและแปซิฟิก พิสูจน์เด็ดขาดพลังงาน การกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้กองกำลังอาสาลงในคิวบากับ garrison สเปนแล้วนำไปหัวเข่า โดยโจมตีพลเรือนทั่วประเทศคิวบา และเพิ่มเติม เสียไข้เหลือง [9] เรียงตามตัวเลขห้องคิวบา ฟิลิปปินส์ และเรากำลังรับยอมจำนน Santiago de Cuba และมะนิลาแม้ มีประสิทธิภาพดีของบางหน่วยทหารราบสเปนและซุปเปอร์สำหรับตำแหน่งเช่น San Juan ฮิลล์ [10] กับสองล้าสเปน squadrons จมใน อ่าวมะนิลา Santiago de Cuba และ สาม เรือสมัยใหม่ที่เรียกคืนหน้าแรกเพื่อปกป้องชายสเปน มาดริดฟ้องสำหรับความสงบสุข [11]ผล 1898 สนธิสัญญาปารีส เจรจาต่อรองเงื่อนไขอันไปยังสหรัฐอเมริกา ที่อนุญาตให้ควบคุมชั่วคราวของคิวบา รับประกันภัยเจ้าของเปอร์โตริโก กวม และหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ที่ได้ Cession ของฟิลิปปินส์เกี่ยวข้องกับการชำระเงินของ $20 ล้าน ($568,880,000 วันนี้) โดยสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานของประเทศสเปนที่ประเทศสเปน [12]พ่ายแพ้และล่มสลายของจักรวรรดิสเปนคือ ช็อตที่ลึกซึ้งจะ psyche ชาติสเปน และท่านประเมินที่ปรัชญา และศิลปะแบบอย่างของสังคมสเปนที่รู้จักกันเป็นการสร้างของ ' 98 [11] สหรัฐอเมริกาได้รับทรัพย์สินเกาะหลายรัฐทั่วโลกและการอภิปรายใหม่ rancorous ผ่านภูมิปัญญาของ expansionism [13]สงครามเริ่มตรงห้าสิบสองปีหลังจากการเริ่มต้นของสงครามเม็กซิกันอเมริกัน มันเป็นหนึ่งในสิบเอ็ดเท่าสงครามสหรัฐฯ จะได้รับการประกาศอย่างเป็นกิจจะลักษณะ โดยสภา [14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สงครามสเปนอเมริกัน (สเปน: Guerra ฮิส estadounidense) เป็นความขัดแย้งในปี 1898 ระหว่างสเปนและสหรัฐอเมริกาเป็นผลมาจากการแทรกแซงของสหรัฐอเมริกาในสงครามคิวบาอิสรภาพ การโจมตีของสหรัฐในแปซิฟิกดินแดนของสเปนนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการปฏิวัติฟิลิปปินส์และในที่สุดกับสงครามฟิลิปปินส์อเมริกัน. [6] ปฏิวัติต่อต้านการปกครองของสเปนได้รับการเกิดขึ้นมานานหลายปีในประเทศคิวบา ได้มีการทำสงครามกลัวก่อนที่จะเป็นในเรื่อง Virginius ในปี 1873 ในช่วงปลายยุค 1890 ที่ความคิดเห็นของประชาชนสหรัฐตื่นเต้นโดยการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสเปนนำโดยนักข่าวเช่นโจเซฟพูลิตเซอร์และวิลเลียมเฮิร์สต์ Randolph ซึ่งใช้สีเหลืองหนังสือพิมพ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์การบริหารงานของสเปน คิวบา. หลังจากที่จมอย่างลึกลับของกองทัพเรือสหรัฐเรือรบเมนในอ่าวฮาวานาแรงกดดันทางการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์และอุตสาหกรรมบางอย่างที่ผลักดันให้การบริหารงานของพรรครีพับลิประธานาธิบดีวิลเลียมแมกคินลีเข้าสู่สงครามที่เขาเคยอยากจะหลีกเลี่ยง. [7] ประนีประนอมได้ขอจากสเปน แต่ ปฏิเสธโดยสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งขาดไปสเปนเรียกร้องมันยอมจำนนการควบคุมของคิวบา ครั้งแรกที่มาดริดแล้ววอชิงตันดี. ประกาศอย่างเป็นทางการสงคราม [8] แม้ว่าปัญหาหลักคือความเป็นอิสระคิวบาสงครามสิบสัปดาห์คือการต่อสู้ทั้งในทะเลแคริบเบียนและแปซิฟิก สหรัฐอำนาจทางทะเลได้รับการพิสูจน์ที่ช่วยให้กองกำลังเดินทางไปขึ้นฝั่งในคิวบากับทหารสเปนเรียบร้อยแล้วนำไปที่หัวเข่าของตนโดยการโจมตีทั่วประเทศก่อความไม่สงบของคิวบาและเสียต่อไปโดยไข้เหลือง. [9] ตัวเลขที่เหนือกว่าคิวบา, ฟิลิปปินส์และกองกำลังสหรัฐที่ได้รับการยอมจำนนของ ซานติอาโกเดอคิวบาและมะนิลาแม้จะมีผลงานที่ดีของหน่วยทหารราบสเปนและการต่อสู้ที่รุนแรงสำหรับตำแหน่งเช่นซานฮวนฮิลล์. [10] ด้วยสองกองสเปนล้าสมัยจมอยู่ในซานติอาโกเดอคิวบาและอ่าวมะนิลาและสามกองเรือที่ทันสมัยมากขึ้นจำได้ว่าบ้าน เพื่อปกป้องชายฝั่งสเปน, มาดริดฟ้องเพื่อความสงบสุข. [11] ผลที่ได้คือ 1898 สนธิสัญญาปารีส, การเจรจาต่อรองในแง่ดีไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งได้รับอนุญาตควบคุมชั่วคราวของคิวบาและยกให้เป็นเจ้าของของเปอร์โตริโก, เกาะกวมและฟิลิปปินส์ เกาะ ยกของฟิลิปปินส์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน $ 20 ล้านบาท ($ 568,880,000 วันนี้) ไปสเปนโดยสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นเจ้าของโดยสเปน. [12] ความพ่ายแพ้และการล่มสลายของจักรวรรดิสเปนเป็นเรื่องน่าตกใจอย่างยิ่งต่อจิตใจชาติสเปนและเจ็บใจอย่างละเอียด การตีราคาปรัชญาและศิลปะของสังคมสเปนที่รู้จักกันเป็นรุ่นที่ 98. [11] สหรัฐอเมริกาได้รับดินแดนเกาะหลายทอดโลกและการอภิปรายใหม่เคียดแค้นมากกว่าภูมิปัญญาของ expansionism. [13] สงครามเริ่มว่าห้าสิบสองปี หลังจากการเริ่มต้นของสงครามเม็กซิกันอเมริกัน มันเป็นหนึ่งในเพียงสิบเอ็ดสงครามของสหรัฐที่จะได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการจากสภาคองเกรส. [14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สเปน - อเมริกาสงคราม ( สเปน : Guerra Hispano estadounidense ) คือความขัดแย้งใน 1898 ระหว่าง สเปน และ สหรัฐอเมริกา ผลของสหรัฐอเมริกาแทรกแซงสงครามในคิวบาของความเป็นอิสระ สหรัฐโจมตีสเปน Pacific ทรัพย์สินนำไปสู่การมีส่วนร่วมในการปฏิวัติฟิลิปปินส์และในที่สุดไปยังฟิลิปปินส์ - สงครามของอเมริกา [ 6 ]

ปฏิวัติต่อต้านการปกครองของสเปนได้เกิดขึ้นมานานหลายปี ใน คิวบา มีสงครามกลัวก่อน ในเรื่อง virginius ใน 1873 . ในอังกฤษแล้ว ความเห็นเรากระวนกระวาย โดยการโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านสเปนนำโดยนักข่าวเช่นโจเซฟ พูลิตเซอร์และวิลเลียม Randolph Hearst ซึ่งใช้นักข่าววิจารณ์สเปนการบริหารของคิวบาหลังจากการจมของเรือรบกองทัพเรือสหรัฐลึกลับเมนในฮาวานา ฮาร์เบอร์ แรงกดดันทางการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ และบางอุตสาหกรรมผลักดันการบริหารงานของประธานพรรครีพับลิ วิลเลียม แมคคินลี่ย์ ในสงคราม เขาต้องการหลีกเลี่ยง [ 7 ] ประนีประนอมถูกหาโดยสเปน แต่ถูกปฏิเสธโดยสหรัฐอเมริกาซึ่งส่งคำขาดไปสเปนต้องมันยอมแพ้ การควบคุมของคิวบาแรก มาดริด แล้วสหรัฐฯ ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ [ 8 ]

แต่ปัญหาหลักคือคิวบาประกาศสงครามสัปดาห์สิบต่อสู้ทั้งในแคริบเบียนและแปซิฟิก อำนาจทหารเรือเราพิสูจน์เด็ดขาด อนุญาตให้เดินทางมาถึงขึ้นในคิวบากับทหารสเปนแล้วเอาเข่าของ โดยทั่วประเทศคิวบาการโจมตีก่อความไม่สงบ และเพิ่มเติม สูญเสียโดยไข้เหลือง[ 9 ] ตัวเลขที่เหนือกว่าคิวบา ฟิลิปปินส์ และเรากำลังได้รับการยอมแพ้ของซันติอาโกเดอคิวบาและมะนิลา แม้จะมีสมรรถนะที่ดีของบางหน่วยทหารราบที่สเปน และการต่อสู้ที่รุนแรงสำหรับตำแหน่งเช่น San Juan Hill [ 10 ] สองล้าสมัยสเปนของกองจมในซานติอาโกเดอคิวบาและมะนิลา เบย์ และสาม เรือสมัยใหม่มากขึ้น นึกถึงบ้านเพื่อปกป้องดินแดนสเปนมาดริด ฟ้องเพื่อสันติภาพ [ 11 ]

ผลคือ 1898 สนธิสัญญากรุงปารีส เจรจาบนเงื่อนไขที่ดีกับเรา ทำให้มันควบคุมชั่วคราวของคิวบา และยกให้กรรมสิทธิ์ของเปอร์โตริโก , กวมและหมู่เกาะของฟิลิปปินส์ ส่วนการยกให้ของฟิลิปปินส์ที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินของ $ 20 ล้าน ( $ 568880000 วันนี้ ) กับสเปน โดยให้ครอบคลุมโครงสร้างพื้นฐานเป็นของสเปน [ 12 ]

ความพ่ายแพ้และการล่มสลายของอาณาจักรสเปนตกใจอย่างยิ่งต่อจิตใจแห่งชาติสเปน และกระตุ้นให้สังคม ปรัชญา และศิลปะการตีราคาของ สเปน ที่รู้จักกันเป็นรุ่น 98 . [ 11 ] สหรัฐอเมริกาได้รับหลายเกาะข้าวของครอบคลุมทั่วโลกและขมขื่นใหม่อภิปรายภูมิปัญญา expansionism [ 13 ]

สงครามเริ่มจริงๆ 4 ปีหลังจากการเริ่มต้นของเม็กซิกัน - อเมริกันสงคราม เป็นหนึ่งในสิบเอ็ดเท่านั้น เราได้ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการโดยรัฐสภา [ 14 ]