ความเป็นมาในปี ค.ศ. 1946 JUSE หรือ

ความเป็นมา

ในปี ค.ศ. 1946 JUSE หรือ Union of Japanese Scientists and Engineers ได้ถูกก่อตั้งขึ้นพร้อม ๆ กับการจัดตั้งกลุ่ม Quality Control Research Group ขึ้น เพื่อค้นคว้าให้การศึกษาและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการควบคุม คุณภาพทั่วทั้งประเทศ โดยมีจุดหมายเพื่อลบภาพพจน์สินค้าคุณภาพต่ำ ราคาถูก ออกจากสินค้าที่ "Made in Japan" และเพิ่มพลังการส่งออกไปพร้อม ๆ กัน

หลังจากนั้นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็คือ Japanese Industrial Standards (JIS) marking system ได้ถูกกำหนดเป็นกฏหมายในปี ค.ศ. 1950 พร้อม ๆ กับการเชื้อเชิญ Dr. W. E. Deming มาเปิดสัมมนาทาง QC ให้แก่ผู้บริหารระดับต่าง ๆ และวิศวกรในประเทศ นับเป็นการจุดประกายของการตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพ อันตามมาด้วยการก่อตั้งรางวัล Deming Prize อันมีชื่อเสียง เพื่อมอบให้แก่โรงงานซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาคุณภาพดีเด่นของประเทศ

ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 Dr. J. M. Juran ได้ ถูกเชิญมายังประเทศญี่ปุ่น เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริหารระดับสูงภายในองค์กรในการนำเทคนิค เหล่านี้มาใช้งาน โดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุก ๆ คน นับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและรวบรวมเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมคุรภาพ รวม 7 ชนิด ที่เรียกว่า QC 7 Tools มาใช้

เครื่องมือควบคุมคุณภาพทั้ง 7 ชนิดนี้ ตั้งชื่อตามนักรบในตำนานของชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ "บงเค " (Ben-ke) ผู้ซึ่งมีอาวุธอันร้ายกาจแตกต่างกัน 7 ชนิด พกอยู่ที่หลัง และสามารถเลือกดึงมาใช้สยบคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือร้ายกาจคนแล้วคนเล่า สำหรับเครื่องมือทั้ง 7 ชนิด สามารถแจกแจงได้ดังนี้

1. ผังแสดงเหตุและผล (Cause-and-Effect Diagram) หรือผังก้างปลา (Fishbone Diagram) บางครั้งเรียกว่า Ishikawa Diagram ซึ่งเรียกตามชื่อของ Dr.Kaoru Ishikawa ผู้ซึ่งเริ่มนำผังนี้มาใช้ในปี ค.ศ. 1953 เป็นผังที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะ ทางคุณภาพกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

2. แผนภูมิพาเรโต (Pareto Diagram) เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุของความบกพร่องกับปริมาณความสูญเสียที่เกิดขึ้น

3. กราฟ (Graphs) คือภาพลายเส้น แท่ง วงกลม หรือจุดเพื่อใช้แสดงค่าของข้อมูลว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูล หรือแสดงองค์ประกอบต่าง ๆ

4. แผ่นตรวจสอบ (Checksheet) คือแบบฟอร์มที่มีการออกแบบช่องว่างต่าง ๆ ไว้เพื่อใช้บันทึกข้อมูลได้ง่าย และสะดวก

5. ฮีสโตแกรม (Histogram) เป็นกราฟแท่งที่ใช้สรุปการอนุมาน (Inference) ข้อมูลเพื่อที่จะใช้สรุปสถานภาพของกลุ่มข้อมูลนั้น

6. ผังการกระจาย (Scatter Diagram) คือ ผังที่ใช้แสดงค่าของข้อมูลที่เกิดจากความสัมพันธ์ของตัวแปรสองตัวว่ามีแนวโน้มไปในทางใด เพื่อที่จะใช้หาความสัมพันธ์ที่แท้จริง

7. แผนภูมิวบคุม (Control Chart) คือแผนภูมิที่มีการเขียนขอบเขตที่ยอมรับได้ของคุณลักษณะตามข้อกำหนดทางเทคนิค (Specification) เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการควบคุมกระบวนการผลิต โดยการติดตามและตรวจจับข้อมูลที่ออกนอกขอบเขต (Control limit)



เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง (The 7 New QC Tools)

เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง (The 7 New QC Tools) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวางแผน และป้องกันปัญหา เพื่อให้ได้นโยบาย และมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจน เป็นรูปธรรม เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่างประกอบด้วย

1) แผนภูมิการจัดกลุ่มความคิด (Affinity Diagram) เป็น เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระดมและรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายของคน ที่เป็นสมาชิกในกลุ่มมาจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่ หรือกลุ่มตามลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน หรือมีความหมายที่คล้ายคลึงกัน เพื่อที่จะได้นำกลุ่มความคิดเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป

2) แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (Relation Diagram) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับแก้ไขเรื่องยุ่งยากโดยการคลี่คลายการเชื่อม โยงกันอย่างมีเหตุผล (Logical connection) ระหว่าง สาเหตุ และผลที่ เกิดขึ้น ซึ่งเกี่ยวข้องกัน (หรือ วัตถุประสงค์ และกลยุทธ์ที่จะบรรลุ ความสำเร็จในเรื่องนี้) รูปแบบของแผนผังความสัมพันธ์หลัก ๆ มีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ แบบรวม ศูนย์ แบบมีทิศทาง แบบแสดงความสัมพันธ์ และแบบตามการประ ยุกต์ใช้

3) แผนภูมิต้นไม้ตัดสินใจ (Tree Diagram) ใช้เพื่อหาแนวทางแก้ไข/ป้องกัน ในรูปของแผนงาน/แนวทางหรือวิธีการ โดยตอบคำถามว่า “ทำอย่างไร” เพื่อมุ่งสู่วัตถุประสงค์/เป้าหมายที่อยากเป็น โดยการมุ่งเน้นไปที่ต้นตอหรือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา จากแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (Relation Diagram

4) แผนภูมิเมตริกซ์ (Matrix Diagram) เป็น เครื่องมือที่ช่วยหาความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์/เป้าหมาย และแผนงาน/มาตรการ/วิธีการ ที่ได้จากการเสนอแนะขึ้นว่าแนวทางใดน่าจะมีความเป็นไปได้ มีความคุ้มค่า และส่งผลกระทบให้บรรลุถึงเป้าหมายได้ก่อน โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด อย่างเต็มประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล

5) แผนภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเมตริกซ์ (Matrix Data Analysis Chart) เครื่องมือที่ใช้เปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark) จาก มุมมองของลูกค้าและเทียบกับคู่แข่งที่เป็นผู้นำในด้านสินค้า หรือบริการคล้ายๆกับองค์กรของเรา วิธีนี้จะทำให้เห็นภาพว่าองค์กรเราอยู่ในตำแหน่งใด (Positioning) เพื่อมองกลยุทธ์ในการบริหารจัดการที่เหมาะสมต่อไปอย่างถูกทิศทาง

6) แผนภาพทางเลือกตัดสินใจ เพื่อบริหารความเสี่ยง (Process Decision Program Chart) เป็น เครื่องมือที่ใช้ช่วยหาแนวทางซึ่งอาจเป็นแผนงาน/มาตรการ/วิธีการ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปสรรคที่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์/เป้าหมายที่กำหนดไว้ เมื่อทราบถึงทุกอุปสรรคในกระบวนการก็สามารถหาแนวทางในการขจัดอุปสรรคทุก ประเภทที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต คล้ายกับการมีแผนปฏิบัติการฉุกเฉินรองรับไว้เผื่อสำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือ ความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำให้องค์กรมีความมั่นใจต่อการเผชิญ

7) แผนภูมิลูกศร (Arrow Diagram) เป็นการวางแผนงานที่มีการกำหนดกิจกรรม ผู้รับผิดชอบ ระยะเวลา และลำดับก่อนหลังของแต่ละกิจกรรมว่ากิจกรรมใดควรทำก่อน-หลัง เพื่อที่จะบริหารโครงการหรือแผนงานให้บรรลุเป้าหมายได้ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
ความสำคัญของเครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง (The 7 New QC Tools)

เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง หรือเครื่องมือสำหรับการบริหาร 7 อย่าง (The 7 Management Tools) เป็นเครื่องมือที่ทางประเทศญี่ปุ่นพัฒนาเพิ่มเติมมาจากเครื่องมือคุณภาพ 7 อย่าง (The 7 QC Tools) ให้ มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริหารระดับหัวหน้า/ผู้จัดการ แผนก/ฝ่ายขึ้นไป ใช้ช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่เป

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความเป็นมาในปีค.ศ. 1946 JUSE หรือสหภาพของวิศวกรและนักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นได้ถูกก่อตั้งขึ้นพร้อมๆ กับการจัดตั้งกลุ่ม กลุ่มควบคุมคุณภาพวิจัยขึ้นเพื่อค้นคว้าให้การศึกษาและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการควบคุมคุณภาพทั่วทั้งประเทศโดยมีจุดหมายเพื่อลบภาพพจน์สินค้าคุณภาพต่ำราคาถูกออกจากสินค้าที่ "จากญี่ปุ่น" และเพิ่มพลังการส่งออกไปพร้อมๆ กันหลังจากนั้นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นซึ่งก็คือญี่ปุ่นอุตสาหกรรมมาตรฐาน (JIS) เครื่องระบบได้ถูกกำหนดเป็นกฏหมายในปีค.ศ. 1950 พร้อมๆ กับการเชื้อเชิญๆ Dr. W. E. Deming มาเปิดสัมมนาทาง QC ให้แก่ผู้บริหารระดับต่างและวิศวกรในประเทศนับเป็นการจุดประกายของการตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพอันตามมาด้วยการก่อตั้งรางวัลรางวัล Deming อันมีชื่อเสียงเพื่อมอบให้แก่โรงงานซึ่งมีความก้าวหน้าในการพัฒนาคุณภาพดีเด่นของประเทศต่อมาในปีค.ศ. 1954 Dr. J. M. รู้สึกได้ถูกเชิญมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริหารระดับสูงภายในองค์กรในการนำเทคนิคเหล่านี้มาใช้งานโดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกๆ คนนับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาและรวบรวมเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมคุรภาพรวม 7 สิ่งที่เรียกว่า QC 7 เครื่องมือมาใช้เครื่องมือควบคุมคุณภาพทั้ง 7 ชนิดนี้ตั้งชื่อตามนักรบในตำนานของชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ "บงเค" (เบน-ke) ผู้ซึ่งมีอาวุธอันร้ายกาจแตกต่างกัน 7 สิ่งพกอยู่ที่หลังและสามารถเลือกดึงมาใช้สยบคู่ต่อสู้ที่มีฝีมือร้ายกาจคนแล้วคนเล่าสำหรับเครื่องมือทั้ง 7 สิ่งสามารถแจกแจงได้ดังนี้1. ผังแสดงเหตุและผล (แผนภาพสาเหตุ และผล) หรือผังก้างปลา (แผนภาพก้าง) บางครั้งเรียกว่าอิไดอะแกรมซึ่งเรียกตามชื่อของ Dr.Kaoru อิผู้ซึ่งเริ่มนำผังนี้มาใช้ในปีค.ศ. 1953 เป็นผังที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะทางคุณภาพกับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง2. เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุของความบกพร่องกับปริมาณความสูญเสียที่เกิดขึ้นแผนภูมิพาเรโต (Pareto ไดอะแกรม)3. กราฟ (กราฟ) คือภาพลายเส้นแท่งวงกลมหรือจุดเพื่อใช้แสดงค่าของข้อมูลว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลหรือแสดงองค์ประกอบต่างๆ4. ๆ แผ่นตรวจสอบ (Checksheet) คือแบบฟอร์มที่มีการออกแบบช่องว่างต่างไว้เพื่อใช้บันทึกข้อมูลได้ง่ายและสะดวก5. ข้อมูลเพื่อที่จะใช้สรุปสถานภาพของกลุ่มข้อมูลนั้นเป็นกราฟแท่งที่ใช้สรุปการอนุมาน (ข้อ) ฮีสโตแกรม (ฮิสโตแกรม)6. ผังการกระจาย (กระจายไดอะแกรม) คือผังที่ใช้แสดงค่าของข้อมูลที่เกิดจากความสัมพันธ์ของตัวแปรสองตัวว่ามีแนวโน้มไปในทางใดเพื่อที่จะใช้หาความสัมพันธ์ที่แท้จริง7. แผนภูมิวบคุม (แผนภูมิควบคุม) คือแผนภูมิที่มีการเขียนขอบเขตที่ยอมรับได้ของคุณลักษณะตามข้อกำหนดทางเทคนิค (สเปค) เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการควบคุมกระบวนการผลิตโดยการติดตามและตรวจจับข้อมูลที่ออกนอกขอบเขต (ควบคุมจำกัด) เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 เชิงแบบอย่างทาง (7 QC เครื่องมือใหม่)เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 เชิงแบบอย่างทาง (7 ใหม่ QC เครื่องมือ) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวางแผนและป้องกันปัญหาเพื่อให้ได้นโยบายและมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่างประกอบด้วย1) แผนภูมิการจัดกลุ่มความคิด (ไดอะแกรมความสัมพันธ์) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระดมและรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายของคนที่เป็นสมาชิกในกลุ่มมาจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่หรือกลุ่มตามลักษณะที่มีความเกี่ยวข้องซึ่งกันและกันหรือมีความหมายที่คล้ายคลึงกันเพื่อที่จะได้นำกลุ่มความคิดเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป2) แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (ไดอะแกรมความสัมพันธ์) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับแก้ไขเรื่องยุ่งยากโดยการคลี่คลายการเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล (การเชื่อมต่อแบบลอจิคัล) ระหว่างสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกัน (หรือวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ที่จะบรรลุความสำเร็จในเรื่องนี้) รูปแบบของแผนผังความสัมพันธ์หลักๆ มีอยู่ 4 คำประกอบได้แก่แบบรวมศูนย์แบบมีทิศทางแบบแสดงความสัมพันธ์และแบบตามการประยุกต์ใช้3) แผนภูมิต้นไม้ตัดสินใจ (ทรีไดอะแกรม) โดยตอบคำถามว่าในรูปของแผนงาน/แนวทางหรือวิธีการใช้เพื่อหาแนวทางแก้ไข/ป้องกัน "ทำอย่างไร" โดยการมุ่งเน้นไปที่ต้นตอหรือสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาเพื่อมุ่งสู่วัตถุประสงค์/เป้าหมายที่อยากเป็นจากแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (ไดอะแกรมความสัมพันธ์4) แผนภูมิเมตริกซ์ (เมตริกซ์ไดอะแกรม) เป็นเครื่องมือที่ช่วยหาความสัมพันธ์ของวัตถุประสงค์/เป้าหมายมาตรการ/และแผนงาน/วิธีการที่ได้จากการเสนอแนะขึ้นว่าแนวทางใดน่าจะมีความเป็นไปได้มีความคุ้มค่าและส่งผลกระทบให้บรรลุถึงเป้าหมายได้ก่อนโดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดอย่างเต็มประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล5) แผนภาพการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเมตริกซ์ (แผนภูมิวิเคราะห์เมตริกซ์ข้อมูล) เครื่องมือที่ใช้เปรียบเทียบสมรรถนะ (Benchmark) จากมุมมองของลูกค้าและเทียบกับคู่แข่งที่เป็นผู้นำในด้านสินค้าเพื่อมองกลยุทธ์ในการบริหารจัดการที่เหมาะสมต่อไปอย่างถูกทิศทางหรือบริการคล้ายๆกับองค์กรของเราวิธีนี้จะทำให้เห็นภาพว่าองค์กรเราอยู่ในตำแหน่งใด (ตำแหน่ง)6 แผนภาพทางเลือกตัดสินใจเพื่อบริหารความเสี่ยง (แผนภูมิโปรแกรมกระบวนการตัดสินใจ) เป็นโดยมุ่งเน้นไปยังอุปสรรคที่น่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นในกระบวนการทำงานเครื่องมือที่ใช้ช่วยหาแนวทางซึ่งอาจเป็นแผนงาน/มาตรการ/วิธีการเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์/เป้าหมายที่กำหนดไว้เมื่อทราบถึงทุกอุปสรรคในกระบวนการก็สามารถหาแนวทางในการขจัดอุปสรรคทุกประเภทที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตคล้ายกับการมีแผนปฏิบัติการฉุกเฉินรองรับไว้เผื่อสำหรับการเปลี่ยนแปลงหรือความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาทำให้องค์กรมีความมั่นใจต่อการเผชิญ7) แผนภูมิลูกศร (แผนภาพลูกศร) เป็นการวางแผนงานที่มีการกำหนดกิจกรรมผู้รับผิดชอบระยะเวลาและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลำดับก่อนหลังของแต่ละกิจกรรมว่ากิจกรรมใดควรทำก่อนหลังเพื่อที่จะบริหารโครงการหรือแผนงานให้บรรลุเป้าหมายได้ในระยะเวลาที่กำหนดไว้ความสำคัญของเครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 เชิงแบบอย่างทาง (7 QC เครื่องมือใหม่)เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 เชิงแบบอย่างทางหรือเครื่องมือสำหรับการบริหาร 7 เชิงแบบอย่างทาง (7 เครื่องมือการจัดการ) เป็นเครื่องมือที่ทางประเทศญี่ปุ่นพัฒนาเพิ่มเติมมาจากเครื่องมือคุณภาพ 7 เชิงแบบอย่างทาง (7 QC เครื่องมือ) ให้มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์สำหรับผู้บริหารระดับหัวหน้า/ผู้จัดการแผนก/ฝ่ายขึ้นไปใช้ช่วยในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่เป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความเป็นมาในปี ค.ศ. 1946 JUSE หรือสหภาพญี่ปุ่นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรได้ถูกก่อตั้งขึ้นพร้อม ๆ กับการจัดตั้งกลุ่มคุณภาพกลุ่มวิจัยการควบคุมขึ้น คุณภาพทั่วทั้งประเทศ ราคาถูกออกจากสินค้าที่ "Made in Japan" และเพิ่มพลังการส่งออกไปพร้อม ๆ ซึ่งก็คือมาตรฐานอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (JIS) ระบบการทำเครื่องหมายได้ถูกกำหนดเป็นกฏหมายในปี ค.ศ. 1950 พร้อม ๆ กับการเชื้อเชิญเราดร. เดมิงมาเปิดสัมมนาทางโรงงานให้แก่ผู้บริหารระดับต่าง ๆ และวิศวกรในประเทศ อันตามมาด้วยการก่อตั้งรางวัล Deming Prize อันมีชื่อเสียง ค.ศ. 1954 ดร. JM Juran ได้ถูกเชิญมายังประเทศญี่ปุ่น เหล่านี้มาใช้งานโดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุก ๆ คน รวม 7 ชนิดที่เรียกว่า QC 7 Tools มาใช้เครื่องมือควบคุมคุณภาพทั้ง 7 ชนิดนี้ "บงเค" (เบนคี) 7 ชนิดพกอยู่ที่หลัง สำหรับเครื่องมือทั้ง 7 ชนิดสามารถแจกแจงได้ดังนี้1 ผังแสดงเหตุและผล (สาเหตุและผลกระทบแผนภาพ) หรือผังก้างปลา (แผนภาพก้างปลา) บางครั้งเรียกว่าอิชิกาวะแผนภาพซึ่งเรียกตามชื่อของ Dr.Kaoru อิชิกาวะผู้ซึ่งเริ่มนำผังนี้มาใช้ในปี ค.ศ. 1953 ทางคุณภาพกับปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง2 แผนภูมิพาเรโต (Pareto Diagram) กราฟ (กราฟ) คือภาพลายเส้นแท่งวงกลม หรือแสดงองค์ประกอบต่าง ๆ4 แผ่นตรวจสอบ (Checksheet) ๆ ไว้เพื่อใช้บันทึกข้อมูลได้ง่ายและสะดวก5 ฮีสโตแกรม (Histogram) เป็นกราฟแท่งที่ใช้สรุปการอนุมาน (อนุมาน) ผังการกระจาย (Scatter Diagram) คือ แผนภูมิวบคุม (แผนภูมิควบคุม) (Specification) (จำกัด Control) เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง (7 QC Tools ใหม่) เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง (7 QC Tools ใหม่) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวางแผนและป้องกันปัญหาเพื่อให้ได้นโยบายและมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเครื่องมือ คุณภาพใหม่ 7 อย่างประกอบด้วย1) แผนภูมิการจัดกลุ่มความคิด (Affinity Diagram) เป็น หรือมีความหมายที่คล้ายคลึงกัน แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (Relation Diagram) โยงกันอย่างมีเหตุผล (การเชื่อมต่อตรรกะ) ระหว่างสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกัน (หรือวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ที่จะบรรลุความสำเร็จในเรื่องนี้) รูปแบบของแผนผังความสัมพันธ์หลัก ๆ มีอยู่ 4 แบบ ได้แก่ แบบรวมศูนย์แบบ มีทิศทางแบบแสดงความสัมพันธ์และแบบตามการประยุกต์ใช้3) แผนภูมิต้นไม้ตัดสินใจ (ต้นไม้ Diagram) ใช้เพื่อหาแนวทางแก้ไข / ป้องกันในรูปของแผนงาน / แนวทางหรือวิธีการโดยตอบคำถามว่า "ทำอย่างไร" จากแผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ (Relation Diagram 4) แผนภูมิเมตริกซ์ (Matrix Diagram) เป็น และแผนงาน / มาตรการ / วิธีการ มีความคุ้มค่า โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ จำกัด อย่างเต็มประสิทธิภาพ / ประสิทธิผล5) (เมทริกซ์การวิเคราะห์ข้อมูลแผนภูมิ) (Benchmark) จาก หรือบริการคล้าย ๆ กับองค์กรของเรา (Positioning) แผนภาพทางเลือกตัดสินใจเพื่อบริหารความเสี่ยง (กระบวนการตัดสินใจโปรแกรมแผนภูมิ) เป็น ประเภทที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต แผนภูมิลูกศร (Arrow Diagram) ผู้รับผิดชอบระยะเวลา 7 อย่าง (7 QC Tools ใหม่) เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่างหรือเครื่องมือสำหรับการบริหาร 7 อย่าง (7 เครื่องมือการบริหารจัดการ) 7 อย่าง (7 QC Tools) ให้ แผนก / ฝ่ายขึ้นไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเป็นมา

สามารถค . ศ .1946 จูเซค็อคสหภาพนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรญี่ปุ่นได้ถูกก่อตั้งขึ้นพร้อมจะกับการจัดตั้งกลุ่มควบคุมคุณภาพกลุ่มงานวิจัยขึ้นเพื่อค้นคว้าให้การศึกษาและเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องระบบการควบคุมคุณภาพทั่วทั้งประเทศราคาถูกออกจากสินค้าที่ " ในญี่ปุ่น " ไม่มีและเพิ่มพลังการส่งออกไปพร้อม
'
หลังจากนั้นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่นซึ่งก็คืออุตสาหกรรมมาตรฐานญี่ปุ่น ( JIS ) เครื่องหมายคได้ถูกกำหนดเป็นกฏหมายในปีระบบ ศ . 1950 พร้อมจะกับการเชื้อเชิญดร. W . E .เดมมิ่งมาเปิดสัมมนาทาง QC ให้แก่ผู้บริหารระดับต่างจะและวิศวกรในประเทศนับเป็นการจุดประกายของการตระหนักถึงการพัฒนาคุณภาพอันตามมาด้วยการก่อตั้งรางวัลความมั่นใจอันมีชื่อเสียง
ต่อมาในปีค . ศ . 1954 ดร. ม.จูรันได้ถูกเชิญมายังประเทศญี่ปุ่นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้บริหารระดับสูงภายในองค์กรในการนำเทคนิคเหล่านี้มาใช้งานโดยได้รับความร่วมมือจากพนักงานทุกจะคนรวม 7 ชนิดที่เรียกว่า QC 7 Tools มาใช้

เครื่องมือควบคุมคุณภาพทั้ง 7 ชนิดนี้ตั้งชื่อตามนักรบในตำนานของชาวญี่ปุ่นที่ชื่อ " บงเค " ( เบน Ke ) ผู้ซึ่งมีอาวุธอันร้ายกาจแตกต่างกัน 7 ชนิดพกอยู่ที่หลังสำหรับเครื่องมือทั้ง 7 ชนิดสามารถแจกแจงได้ดังนี้

1 ผังแสดงเหตุและผล ( อาร์ซี ) หรือผังก้างปลา ( แผนผังก้างปลาบางครั้งเรียกว่าอิชิคะวะแผนผังซึ่งเรียกตามชื่อของดร. คาโอรุอิชิผู้ซึ่งเริ่มนำผังนี้มาใช้ในปีค . ศ .1953 เป็นผังที่แสดงความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะทางคุณภาพกับปัจจัยต่างจะที่เกี่ยวข้อง

2แผนภูมิพาเรโต ( Pareto Diagram ) เป็นแผนภูมิที่ใช้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุของความบกพร่องกับปริมาณความสูญเสียที่เกิดขึ้น

3กราฟ ( กราฟ ) คือภาพลายเส้นแท่งวงกลมหรือจุดเพื่อใช้แสดงค่าของข้อมูลว่าความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลหรือแสดงองค์ประกอบต่างไม่มี

4 .แผ่นตรวจสอบ ( เช็คชีท ) คือแบบฟอร์มที่มีการออกแบบช่องว่างต่างจะไว้เพื่อใช้บันทึกข้อมูลได้ง่ายและสะดวก

5ฮีสโตแกรม ( Histogram ) เป็นกราฟแท่งที่ใช้สรุปการอนุมาน ( อนุมาน ) ข้อมูลเพื่อที่จะใช้สรุปสถานภาพของกลุ่มข้อมูลนั้น

6ผังการกระจาย ( แผนภาพการกระจาย ) ความผังที่ใช้แสดงค่าของข้อมูลที่เกิดจากความสัมพันธ์ของตัวแปรสองตัวว่ามีแนวโน้มไปในทางใดเพื่อที่จะใช้หาความสัมพันธ์ที่แท้จริง

7แผนภูมิวบคุม ( แผนภูมิควบคุมคือแผนภูมิที่มีการเขียนขอบเขตที่ยอมรับได้ของคุณลักษณะตามข้อกำหนดทางเทคนิค ( สเปค ) เพื่อนำไปเป็นแนวทางในการควบคุมกระบวนการผลิตโดยการติดตามและตรวจจับข้อมูลที่ออกนอกขอบเขต ( ขีดจำกัดควบคุม )



เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง ( เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 )

เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่าง ( เครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 ) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับวางแผนและป้องกันปัญหาเพื่อให้ได้นโยบายและมาตรการเชิงรุกที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมเครื่องมือคุณภาพใหม่ 7 อย่างประกอบด้วย

1 ) แผนภูมิการจัดกลุ่มความคิด ( Affinity Diagram ) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระดมและรวบรวมความคิดที่กระจัดกระจายของคนที่เป็นสมาชิกในกลุ่มมาจัดเรียงให้เป็นหมวดหมู่หรือมีความหมายที่คล้ายคลึงกันเพื่อที่จะได้นำกลุ่มความคิดเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ต่อไป

2 ) แผนภูมิแสดงความสัมพันธ์ ( แผนภาพความสัมพันธ์ ) เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับแก้ไขเรื่องยุ่งยากโดยการคลี่คลายการเชื่อมโยงกันอย่างมีเหตุผล ( การเชื่อมต่อเชิงตรรกะ ) ระหว่างสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวข้องกัน ( วัตถุประสงค์ค็อคความสำเร็จในเรื่องนี้ ) รูปแบบของแผนผังความสัมพันธ์หลักจะมีอยู่ 4 แบบได้แก่แบบรวมศูนย์แบบมีทิศทางแบบแสดงความสัมพันธ์และแบบตามการประยุกต์ใช้

3 ) แผนภูมิต้นไม้ตัดสินใจ ( แผนผังต้นไม้ใช้เพื่อหาแนวทางแก้ไข / ป้องกันในรูปของแผนงาน / แนวทางหรือวิธีการโดยตอบคำถามว่า " ทำอย่างไร " เพื่อมุ่งสู่วัตถุประสงค์ / เป้าหมายที่อยากเป็น