หุ้นกู้จำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้คือ
1. จำแนกตามวันที่ ๆ ถึงกำหนดการชำระ
1.1 Term bonds คือ ประเภทที่กำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ ครั้งเดียวทั้งหมด เช่น ไถ่ถอนเมื่อครบกำหนด 4 ปี ในวันที่ 31 ธันวาคม 2547
1.2 Serial bonds คือ ประเภทที่กำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้เป็นงวด ๆ เช่น ไถ่ถอนครั้งที่ 1 เมื่อครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2545 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2457
2. จำแนกตามหลักประกัน
2.1 Secured bonds คือ หุ้นกู้ที่มีหลักประกันเป็นสินทรัพย์เฉพาะอย่าง เช่น ที่ดินโฉนดเลขที่ 4536 แขวงพญาไท กรุงเทพมหานคร
2.2 Unsecured bonds คือ หุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันอื่นใด นอกจากสินทรัพย์ทั่วไปของบริษัท เช่น อาคาร ยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ ซึ่งต้องเฉลี่ยทรัพย์ร่วมกับเจ้าหนี้รายอื่น
3. จำแนกตามลักษณะการออกหุ้นกู้
3.1 หุ้นกู้ที่จดทะเบียนทั้งต้นเงินและดอกเบี้ย บริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะระบุชื่อผู้ถือหุ้นลงในสมุดทะเบียนของบริษัท การโอนหุ้นเปลี่ยนชื่อและสิทธิ์ในการรับดอกเบี้ยจะต้องจดทะเบียนโอนกับบริษัทผู้ออกหุ้นกู้
3.2 หุ้นกู้ที่จดทะเบียนเฉพาะต้นเงิน การโอนหุ้นกู้เปลี่ยนมือจะต้องจดทะเบียนกับบริษัท
3.3 หุ้นกู้ชนิดที่ไม่ต้องจดทะเบียนการโอน การโอนหุ้นกู้เพื่อเปลี่ยนมือก็เพียงแต่ได้ส่งมอบใบหุ้นโดยไม่ต้องสลักหลัง
การลงทุนในหุ้นกู้ของผู้ลงทุนรายบุคคล จะต้องติดต่อซื้อขายผ่านดีลเลอร์ค้าตราสารหนี้ ซึ่งส่วนใหญ่คือธนาคารพาณิชย์ กับบริษัทหลักทรัพย์รวม 46 รายที่เป็นสมาชิกศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย (TBDC) ซึ่งสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์ ของ TBDC คือ http://www.thaibdc.or.th/
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังเปิดให้มีการซื้อขายตราสารหนี้สำหรับรายย่อยผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ด้วยสำหรับหุ้นกู้บางบริษัทฯ แต่ไม่ค่อยแอคตีฟนักในปัจจุบัน แต่ในอนาคตคงจะดีขึ้นเพราะรัฐบาลมีนโยบายรวมศูนย์การซื้อขายไปไว้ที่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนใหญ่การลงทุนในหุ้นกู้มักเป็นการซื้อขายกันระหว่างลูกค้าสถาบัน เพราะหุ้นกู้โดยทั่วไปจะดีลกันเป็นวงเงินใหญ่ๆ 10 ล้านขึ้นไป การซื้อขายออเดอร์เล็กๆมักทำยากและราคาไม่ดี ผู้ลงทุนทั่วไปจึงมักลงทุนในหุ้นกู้ผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกู้แทนการลงทุนโดยตรง เพราะไม่ต้องใช้เงินมากแล้วก็มีสภาพคล่อง รวมทั้งไม่ต้องเสียภาษี
ข้อดีของการออกหุ้นกู้เมื่อเทียบกับการออกหุ้น
ความแตกต่างระหว่างหุ้นสองประเภทนี้จะเห็นได้ชัดตอนที่เลิกบริษัท คือ ผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิ์มาเรียกคืนเงินของตนเองก่อน เพราะว่าเป็นเงินกู้ยืม แต่ผู้ถือหุ้นสามัญ จะเป็นรายสุดท้ายที่จะได้เงินคืน หรืออาจไม่ได้คืนเลยก็ได้ ถ้าบริษัทไม่มีจ่าย เพราะว่าเป็นเจ้าของ
การออกหุ้นกู้มีข้อดีเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นทุน (หุ้นสามัญ) คือ
1. ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมไม่เสียสิทธิในการบริหารงาน เนื่องจากผู้ถือหุ้นกู้มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของกิจการ
2. เงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นสามัญได้รับไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่าย เพื่อประหยัดภาษีได้ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายจากการออกหุ้นกู้ นำมากหักเป็นค่าใช้จ่าย ทำให้กิจการเสียภาษีเงินได้น้อยลง
3. ถ้ากิจการสามารถนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ไปบริหารงานแล้ว ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้แล้ว จะทำให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญสูงขึ้น
4. ดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ โดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่าเงินปันผลที่กิจการได้จ่ายให้แก่ ผู้ถือหุ้นสามัญ
การบัญชีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นกู้เพื่อลงทุนระยะยาว
การนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นกู้ไปปรับปรุง หักกับดอกเบี้ยรับนั้นเรียกว่า Premium amortization
การนำส่วนต่ำหรือส่วนลดมูลค่าหุ้นกู้ไปปรับปรุงเพิ่มดอกเบี้ยนั้นเรียกว่า Discount accumulation
การคำนวณ Premium amortization และ Discount accumulation นั้น มีวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้
1. วิธีเส้นตรง (Straight lime method)
2. วิธีดอกเบี้ยทบต้น (Compound interest method)
เงินลงทุนระยะยาว หุ้นกู้
การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนระยะยาวของหุ้นกู้
หลักการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนระยะยาวของหุ้นกู้มีหลักปฏิบัติดังนี้
1. ซื้อหุ้นกู้ในวันที่จ่ายดอกเบี้ย
ตัวอย่าง กิจการซื้อหุ้นกู้ 10 %ในวันที่ 1 มกราคม 25×1 จำนวน 1,000 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 100 บาทในราคาหุ้นละ 105 บาทกำหนดจ่ายดอกเบี้ยปีละครั้งคือทุกวันที่ 1 มกราคม ของทุกปี จะบันทึกโดย
เดบิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ 105,000
เครดิต เงินสด 105,000
คำนวณราคาทุน
ซื้อหุ้น 1,000 × 100 = 10,0000 (100,000 × 105/100 ) = 105,000
2. ซื้อหุ้นกู้ในระหว่างงวดการจ่ายดอกเบี้ย
ตัวอย่าง กิจการซื้อหุ้นกู้ 10 % ในวันที่ 1 มีนาคม 25×1 จำนวน 1,000 บาท ในราคาหุ้นละ 102 บาทกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี กิจการจะบันทึก
เดบิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ 102,000
ดอกเบี้ยรับ (ดอกเบี้ยค้างรับ) 1,667
เครดิต เงินสด 103,667
หากต่อมากิจการได้รับดอกเบี้ยจะบันทึก
เดบิต เงินสด 10,000
เครดิต ดอกเบี้ยรับ 10,000
หรือ
เดบิต เงินสด 10,000
เครดิต ดอกเบี้ยค้างรับ 1,667
ดอกเบี้ยรับ 8,333
การบันทึกบัญชีการปรับมูลค่าของเงินลงทุนระยะยาวในวันสิ้นงวด
เงินลงทุนระยะยาวไม่ว่าจะเป็นคราสารหนี้และตราสารทุนที่อยู่ในความต้องการ
ของตลาดหรือเงินลงทุนทั่วไปมูลค่าของเงินลงทุนอาจเปลี่ยนไปตามสภาวะตลาดทุน กิจการต้องรับรู้มูลค่าที่เปลี่ยนแปลงไปเช่น เงินลงทุนในตราสารหนี้ต้องแสดงด้วยราคายุติธรรมกิจการจะต้องตัดส่วนต่ำหรือส่วนเกินทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเพื่อให้ราคาหุ้นกู้เป็นราคาปัจจุบันโดยจะใช้วิธีตัดจำหน่ายตามวิธีอัตราดอกเบี้ยแท้จริง
3. ในวันสิ้นงวดบัญชีต่อมาหากเงินลงทุน-หุ้นกู้มีราคาลดลง หรือเพิ่มขึ้นมูลค่ายุติธรรมต่ำกว่าราคาตามบัญชีจะบันทึกโดย
เดบิต รายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx
เครดิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ xxx
หากราคายุติธรรมสูงกว่าราคาตามบัญชีจะบันทึกโดย
เดบิต หลักทรัพย์เผื่อขาย- หุ้นกู้ xxx
เครดิต รายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx
4. ในวันสิ้นงวดต่อมา หากขายเงินลงทุนจะบันทึกโดย
เดบิต เงินสด xxx
เครดิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ xxx
รายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx
รายการกำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน xxx
5. การโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน (ห
หุ้นกู้จำแนกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้คือ 1. จำแนกตามวันที่ถึงกำหนดการชำระๆ 1.1 ระยะขายหุ้นกู้คือประเภทที่กำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ครั้งเดียวทั้งหมดเช่นไถ่ถอนเมื่อครบกำหนด 4 ปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2547 1.2 พันธบัตรประจำคือประเภทที่กำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้เป็นงวดๆ เช่นไถ่ถอนครั้งที่ 1 เมื่อครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2545 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 24572. จำแนกตามหลักประกัน 2.1 ปลอดภัยพันธบัตรคือหุ้นกู้ที่มีหลักประกันเป็นสินทรัพย์เฉพาะอย่างเช่นที่ดินโฉนดเลขที่ 4536 แขวงพญาไทกรุงเทพมหานคร 2.2 มีพันธบัตรคือหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันอื่นใดนอกจากสินทรัพย์ทั่วไปของบริษัทเช่นอาคารยานพาหนะวัสดุอุปกรณ์ซึ่งต้องเฉลี่ยทรัพย์ร่วมกับเจ้าหนี้รายอื่น 3. จำแนกตามลักษณะการออกหุ้นกู้ 3.1 หุ้นกู้ที่จดทะเบียนทั้งต้นเงินและดอกเบี้ยบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะระบุชื่อผู้ถือหุ้นลงในสมุดทะเบียนของบริษัทการโอนหุ้นเปลี่ยนชื่อและสิทธิ์ในการรับดอกเบี้ยจะต้องจดทะเบียนโอนกับบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ 3.2 หุ้นกู้ที่จดทะเบียนเฉพาะต้นเงินการโอนหุ้นกู้เปลี่ยนมือจะต้องจดทะเบียนกับบริษัท การโอนหุ้นกู้เพื่อเปลี่ยนมือก็เพียงแต่ได้ส่งมอบใบหุ้นโดยไม่ต้องสลักหลัง 3.3 หุ้นกู้ชนิดที่ไม่ต้องจดทะเบียนการโอนการลงทุนในหุ้นกู้ของผู้ลงทุนรายบุคคลจะต้องติดต่อซื้อขายผ่านดีลเลอร์ค้าตราสารหนี้ซึ่งส่วนใหญ่คือธนาคารพาณิชย์กับบริษัทหลักทรัพย์รวมรายที่เป็นสมาชิกศูนย์ซื้อขายตราสารหนี้ไทย 46 (TBDC) ซึ่งสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซด์นั้น ๆ TBDC คือ http://www.thaibdc.or.th/ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยังเปิดให้มีการซื้อขายตราสารหนี้สำหรับรายย่อยผ่านระบบอิเลคทรอนิคส์ด้วยสำหรับหุ้นกู้บางบริษัทฯ แต่ไม่ค่อยแอคตีฟนักในปัจจุบัน แต่ในอนาคตคงจะดีขึ้นเพราะรัฐบาลมีนโยบายรวมศูนย์การซื้อขายไปไว้ที่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ส่วนใหญ่การลงทุนในหุ้นกู้มักเป็นการซื้อขายกันระหว่างลูกค้าสถาบัน เพราะหุ้นกู้โดยทั่วไปจะดีลกันเป็นวงเงินใหญ่ๆ 10 ล้านขึ้นไป การซื้อขายออเดอร์เล็กๆมักทำยากและราคาไม่ดี ผู้ลงทุนทั่วไปจึงมักลงทุนในหุ้นกู้ผ่านกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นกู้แทนการลงทุนโดยตรง เพราะไม่ต้องใช้เงินมากแล้วก็มีสภาพคล่อง รวมทั้งไม่ต้องเสียภาษีข้อดีของการออกหุ้นกู้เมื่อเทียบกับการออกหุ้นความแตกต่างระหว่างหุ้นสองประเภทนี้จะเห็นได้ชัดตอนที่เลิกบริษัทคือผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิ์มาเรียกคืนเงินของตนเองก่อนเพราะว่าเป็นเงินกู้ยืมแต่ผู้ถือหุ้นสามัญจะเป็นรายสุดท้ายที่จะได้เงินคืนหรืออาจไม่ได้คืนเลยก็ได้ถ้าบริษัทไม่มีจ่ายเพราะว่าเป็นเจ้าของคือการออกหุ้นกู้มีข้อดีเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นทุน (หุ้นสามัญ)1. ผู้ถือหุ้นสามัญเดิมไม่เสียสิทธิในการบริหารงานเนื่องจากผู้ถือหุ้นกู้มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของกิจการ2. เงินปันผลที่ผู้ถือหุ้นสามัญได้รับไม่สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อประหยัดภาษีได้ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายจากการออกหุ้นกู้นำมากหักเป็นค่าใช้จ่ายทำให้กิจการเสียภาษีเงินได้น้อยลง3. ถ้ากิจการสามารถนำเงินที่ได้รับจากการออกหุ้นกู้ไปบริหารงานแล้วให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้แล้วจะทำให้กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญสูงขึ้น4. ดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้โดยทั่วไปแล้วจะต่ำกว่าเงินปันผลที่กิจการได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญการบัญชีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นกู้เพื่อลงทุนระยะยาว ตัดจำหน่ายพรีเมี่ยมหักกับดอกเบี้ยรับนั้นเรียกว่าการนำส่วนเกินมูลค่าหุ้นกู้ไปปรับปรุง การนำส่วนต่ำหรือส่วนลดมูลค่าหุ้นกู้ไปปรับปรุงเพิ่มดอกเบี้ยนั้นเรียกว่าส่วนลดสะสมการคำนวณพรีเมี่ยมตัดจำหน่ายและส่วนลดสะสมนั้นมีวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้1. วิธีเส้นตรง (มะนาวตรงวิธี)2. วิธีดอกเบี้ยทบต้น (วิธีดอกเบี้ยทบต้น)เงินลงทุนระยะยาวหุ้นกู้ การบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนระยะยาวของหุ้นกู้หลักการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับเงินลงทุนระยะยาวของหุ้นกู้มีหลักปฏิบัติดังนี้1. ซื้อหุ้นกู้ในวันที่จ่ายดอกเบี้ย ตัวอย่างกิจการซื้อหุ้นกู้ 10% ในวันที่ 1 มกราคม 25 × 1 จำนวน 1000 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 100 บาทในราคาหุ้นละ 105 บาทกำหนดจ่ายดอกเบี้ยปีละครั้งคือทุกวันที่ 1 มกราคมของทุกปีจะบันทึกโดยเดบิตหลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ 105,000เครดิตเงินสด 105,000คำนวณราคาทุน ซื้อหุ้น 1000 × 100 = 10,0000 (100000 × 105/100) = 105,0002. ซื้อหุ้นกู้ในระหว่างงวดการจ่ายดอกเบี้ยตัวอย่างกิจการซื้อหุ้นกู้ 10% ในวันที่ 1 มีนาคม 25 × 1 จำนวน 1000 บาทในราคาหุ้นละ 102 บาทกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีกิจการจะบันทึกเดบิตหลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ 102,000 ดอกเบี้ยรับ (ดอกเบี้ยค้างรับ) 1,667 เครดิตเงินสด 103,667หากต่อมากิจการได้รับดอกเบี้ยจะบันทึกเดบิตเงินสด 10000 เครดิตดอกเบี้ยรับ 10000ออกเป็นเดบิตเงินสด 10000 เครดิตดอกเบี้ยค้างรับ 1,667 ดอกเบี้ยรับ 8,333การบันทึกบัญชีการปรับมูลค่าของเงินลงทุนระยะยาวในวันสิ้นงวดเงินลงทุนระยะยาวไม่ว่าจะเป็นคราสารหนี้และตราสารทุนที่อยู่ในความต้องการของตลาดหรือเงินลงทุนทั่วไปมูลค่าของเงินลงทุนอาจเปลี่ยนไปตามสภาวะตลาดทุน กิจการต้องรับรู้มูลค่าที่เปลี่ยนแปลงไปเช่น เงินลงทุนในตราสารหนี้ต้องแสดงด้วยราคายุติธรรมกิจการจะต้องตัดส่วนต่ำหรือส่วนเกินทุนจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเพื่อให้ราคาหุ้นกู้เป็นราคาปัจจุบันโดยจะใช้วิธีตัดจำหน่ายตามวิธีอัตราดอกเบี้ยแท้จริง3. ในวันสิ้นงวดบัญชีต่อมาหากเงินลงทุน-หุ้นกู้มีราคาลดลง หรือเพิ่มขึ้นมูลค่ายุติธรรมต่ำกว่าราคาตามบัญชีจะบันทึกโดยเดบิต รายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น xxxเครดิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ xxx
หากราคายุติธรรมสูงกว่าราคาตามบัญชีจะบันทึกโดย
เดบิต หลักทรัพย์เผื่อขาย- หุ้นกู้ xxx
เครดิต รายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx
4. ในวันสิ้นงวดต่อมา หากขายเงินลงทุนจะบันทึกโดย
เดบิต เงินสด xxx
เครดิต หลักทรัพย์เผื่อขาย-หุ้นกู้ xxx
รายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx
รายการกำไรที่เกิดขึ้นจากการจำหน่ายเงินลงทุน xxx
5. การโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน (ห
การแปล กรุณารอสักครู่..

หุ้นกู้จำแนกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้คือ
1 จำแนกตามวันที่ ๆ ถึงกำหนดการชำระ
1.1 พันธบัตรระยะคือประเภทที่กำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ครั้งเดียวทั้งหมดเช่นไถ่ถอนเมื่อครบกำหนด 4 ปีในวันที่ 31 ธันวาคม 2547
1.2 พันธบัตรอนุกรมคือ ๆ เช่นไถ่ถอนครั้งที่ 1 เมื่อครบกำหนดในวันที่ 30 มิถุนายน 2543 ครั้งที่ 2 ในวันที่ 31 ธันวาคม 2545 และครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2457
2. จำแนกตามหลักประกัน
2.1 พันธบัตรปลอดภัยคือ เช่นที่ดินโฉนดเลขที่ 4536 แขวงพญาไทกรุงเทพมหานคร
2.2 พันธบัตรไม่มีประกันคือหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันอื่นใดนอกจากสินทรัพย์ทั่วไปของ บริษัท เช่นอาคารยานพาหนะวัสดุอุปกรณ์
จำแนกตามลักษณะการออกหุ้นกู้
3.1
หุ้นกู้ที่จดทะเบียนเฉพาะต้นเงิน ซึ่งส่วนใหญ่คือธนาคารพาณิชย์กับ บริษัท หลักทรัพย์รวม 46 (TBDC) ของ TBDC คือ แต่ไม่ค่อยแอคตีฟนักในปัจจุบัน ซึ่งคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง 10 ล้านขึ้นไป คือ เพราะว่าเป็นเงินกู้ยืม แต่ผู้ถือหุ้นสามัญจะเป็นรายสุดท้ายที่จะได้เงินคืนหรืออาจไม่ได้คืนเลยก็ได้ถ้า บริษัท ไม่มีจ่าย (หุ้นสามัญ) คือ1 นำมากหักเป็นค่าใช้จ่ายทำให้กิจการเสียภาษีเงินได้น้อยลง3 ดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ หักกับดอกเบี้ยรับนั้นเรียกว่าพรีเมี่ยม การสะสมส่วนลดการคำนวณค่าตัดจำหน่ายพรีเมี่ยมและการสะสมส่วนลดนั้นมีวิธีใดวิธีหนึ่งดังนี้1 วิธีเส้นตรง (วิธีมะนาวตรง) 2 วิธีดอกเบี้ยทบต้น (วิธีดอกเบี้ยทบต้น) เงินลงทุนระยะยาว กิจการซื้อหุ้นกู้ 10% ในวันที่ 1 มกราคม 25 × 1 จำนวน 1,000 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 100 บาทในราคาหุ้นละ 105 1 มกราคมของทุกปีจะบันทึกโดยเดบิตหลักทรัพย์เผื่อขาย - หุ้นกู้ 105,000 เครดิตเงินสด 105,000 คำนวณราคาทุนซื้อหุ้น 1,000 × 100 = 10,0000 (100,000 × 105/100) = 105,000 2 กิจการซื้อหุ้นกู้ 10% ในวันที่ 1 มีนาคม 25 × 1 จำนวน 1,000 บาทในราคาหุ้นละ 102 บาทกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีกิจการจะบันทึกเดบิตหลักทรัพย์เผื่อขาย - หุ้นกู้ 102,000 ดอกเบี้ยรับ (ดอกเบี้ยค้างรับ) 1,667 เครดิตเงินสด เงินสด 10,000 เครดิตดอกเบี้ยรับ 10,000 หรือเดบิตเงินสด 10,000 เครดิตดอกเบี้ยค้างรับ 1,667 ดอกเบี้ยรับ รายการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx เครดิตหลักทรัพย์เผื่อขาย - หุ้นกู้ หลักทรัพย์เผื่อขาย - หุ้นกู้ xxx เครดิตรายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx 4 ในวันสิ้นงวดต่อมาหากขายเงินลงทุนจะบันทึกโดยเดบิตเงินสด xxx เครดิตหลักทรัพย์เผื่อขาย - หุ้นกู้ xxx รายการกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้น xxx 5 การโอนเปลี่ยนประเภทเงินลงทุน (ห
การแปล กรุณารอสักครู่..
