I think that Trust A and C could re

I think that Trust A and C could refer to objects. For instance, people rely on their watches which is a form of Trust A. If the watch allows them to arrive on time to appointments, they could develop the epistemic attitude that the watch is electronically or mechanically sound, exemplifying Trust C. The watch, however, could not be judged to be morally trustworthy, as in Trust B, because the watch has no moral will. This dimension of trust is necessary in the development of a normative understanding of trust.Trust B is intertwined with Trust A and Trust C in actual practice. When Dr X or Nurse X is trusted with the care of a patient, he/she is required to use judgment when he/she is
using his/her knowledge and abilities. This judgment has a moral dimension because the well-being of the patient should be primary.
Johns [1996], Meize-Grochowski [1984], and SneIson [1992]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผมคิดว่า ความน่าเชื่อถือ A และ C อาจหมายถึงวัตถุ ตัวอย่าง คนใช้นาฬิกาของพวกเขาซึ่งเป็นรูปแบบของความน่าเชื่อถือ ถ้านาฬิกาช่วยให้พวกเขามาถึงในเวลานัดหมาย พวกเขาสามารถพัฒนาทัศนคติ epistemic ว่านาฬิกากลไก หรือทางอิเล็กทรอนิกส์เสียง exemplifying ค.ความน่าเชื่อถือ นาฬิกา อย่างไรก็ตาม อาจไม่ตัดสินให้ถือคุณธรรม ใน B เชื่อถือ เนื่องจากนาฬิกาจะไม่แรง ความน่าเชื่อถือขนาดนี้เป็นความจำเป็นในการพัฒนาความเข้าใจ normative ของความน่าเชื่อถือบริษัท B จะเจอกับความน่าเชื่อถือ A และ C ที่เชื่อถือในทางปฏิบัติจริง เมื่อดร. X หรือ X พยาบาลเชื่อถือกับการดูแลผู้ป่วย เขาจะต้องใช้วิจารณญาณเมื่อจะใช้ความรู้และความสามารถเขา/เธอ คำพิพากษานี้มีมิติทางศีลธรรมเนื่องจากควรมีหลักดีของผู้ป่วยจอห์น [1996], Meize-Grochowski [1984], และ SneIson [1992]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผมคิดว่าเชื่อถือ A และ C อาจจะหมายถึงวัตถุ ยกตัวอย่างเช่นคนที่พึ่งพานาฬิกาของพวกเขาซึ่งเป็นรูปแบบของความน่าเชื่อถือ A. ถ้านาฬิกาช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในเวลาที่จะนัดหมายพวกเขาสามารถพัฒนาทัศนคติ epistemic ว่านาฬิกาเป็นทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางกลไกเสียงตัวอย่าง Trust C. นาฬิกา, แต่ไม่ได้รับการตัดสินให้เป็นที่น่าเชื่อถือทางศีลธรรมในขณะที่เชื่อถือ B เพราะดูจะไม่มีทางศีลธรรม มิติของความไว้วางใจนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาความเข้าใจเชิงบรรทัดฐานของ trust.Trust B เป็นพันด้วยความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือ C ในการปฏิบัติจริง เมื่อดร X หรือ X พยาบาลเป็นที่เชื่อถือได้ด้วยการดูแลของผู้ป่วย, เขา / เธอจะต้องใช้ดุลยพินิจเมื่อเขา / เธอจะ
ใช้ / ความรู้และความสามารถของเขาและเธอ คำพิพากษานี้มีมิติทางศีลธรรมเพราะเป็นอยู่ที่ดีของผู้ป่วยที่ควรจะเป็นหลัก.
จอห์น [1996], Meize-Grochowski [1984] และ SneIson [1992]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันคิดว่าจะเชื่อใจและ C สามารถอ้างถึงวัตถุ ตัวอย่าง คนพึ่งนาฬิกาของพวกเขาซึ่งเป็นรูปแบบของความไว้วางใจ . ถ้าชมช่วยให้พวกเขามาถึงในเวลาที่นัดหมาย พวกเขาได้พัฒนาความสัมพันธ์ ทัศนคติที่เป็นนาฬิกา ทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือเสียงโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างเชื่อ C ดู อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถตัดสินได้ ศีลธรรมที่น่าเชื่อถือ เช่น ไว้ใจ Bเพราะดูไม่มีศีลธรรมจะ มิติของความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่จำเป็นในการพัฒนาความเข้าใจเกี่ยวกับความเชื่อใจ ไว้ใจ B เป็นพันกับไว้ใจและเชื่อใจ C ในการปฏิบัติจริง เมื่อ ดร. X หรือพยาบาล x ได้รับความไว้วางใจกับการดูแลของผู้ป่วยที่เขา / เธอจะต้องใช้วิจารณญาณเมื่อเขา / เธอ
ใช้ของเขา / เธอ ความรู้ และความสามารถการตัดสินใจนี้มีมิติทางจริยธรรม เพราะความเป็นอยู่ของผู้ป่วยควรเป็นหลัก .
จอห์น [ 1996 ] อุ grochowski [ 1984 ] และ sneison [ 1992 ]