Annual capacity or units. Performan

Annual capacity or units. Performance Evaluation Prior to 1992, each division had been treated as a profit center, with annual division profit budgets negotiated between the president and the respective division general managers At the urging of Henry Hubbard, Enager's president, Carl Randall, had decided to begin treating each division as an investment center, so as to be able to relate each division's profit to the assets the division used to generate its profits Starting in 1992, each division was measured as based on its return on assets, which was defined to be the division's net income divided by its total assets. Net income for a division was calculated by taking the division's"direct income before taxes," then subtracting the division's share of corporate administrative expenses(allocated on the basis of divisional revenues) and its share of income tax expense(the tax rate applied to the division's"direct income before taxes" after subtraction of the allocated corporate administrative expenses). Although Hubbard realized there were other ways to define a division's income, he and the president preferred this method since"it made the sum of the(divisional) parts equal to the(corporate) whole Similarly, Enager's total assets were subdivided among three divisions. Since each division operated in physically separate facilities, it was easy to attribute most assets, including

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กำลังการผลิตประจำปีหรือหน่วย แต่ละส่วนได้แล้วถือว่าเป็นศูนย์กำไรประสิทธิภาพประเมินก่อน 1992 ด้วยงบประมาณกำไรหารปีที่เจรจาระหว่างฝ่ายที่เกี่ยวข้องและประธาน ผู้จัดการทั่วไปในกลุ่มของเฮนรี Hubbard ประธานของ Enager, Carl Randall ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มการรักษาแต่ละส่วนเป็นศูนย์การลงทุน เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงแต่ละส่วนของกำไรสินทรัพย์ส่วนที่ใช้ในการสร้างกำไรของเริ่มต้นในปี 1992 แต่ละส่วนมีวัดขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของสินทรัพย์ ซึ่งได้กำหนดให้ การแบ่งกำไรสุทธิหาร ด้วยสินทรัพย์รวมของ กำไรสุทธิสำหรับส่วนที่ถูกคำนวณ โดยการนำของฝ่าย "ตรงรายได้ก่อนหักภาษี" แล้วลบการแบ่งส่วนแบ่งค่าบริหารองค์กร (การปันส่วนตามรายได้ divisional) และส่วนแบ่งของค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ (อัตราภาษีกับการแบ่ง "ตรงรายได้ก่อนหักภาษี" หลังจากลบของปันส่วนองค์กรดูแลค่าใช้จ่าย) แม้ว่า Hubbard รู้มีวิธีการกำหนดรายได้ของส่วนอื่น ๆ เขาและประธานาธิบดีต้องวิธีนี้ตั้งแต่ "มันทำให้ผลรวมของส่วน the(divisional) เท่ากับ the(corporate) ทั้งทำนอง Enager ของสินทรัพย์รวมมีปฐมภูมิระหว่างหน่วยงาน 3 เนื่องจากแต่ละส่วนดำเนินการในทางกายภาพแยกต่างหาก ไม่ต้องแสดงสินทรัพย์ที่มากที่สุด รวม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กำลังการผลิตปีหรือหน่วยงาน การประเมินผลการปฏิบัติงานก่อนที่จะปี 1992 แต่ละส่วนได้รับการรักษาเป็นศูนย์กลางกำไรที่มีงบประมาณกำไรส่วนประจำปีการเจรจาต่อรองระหว่างประธานและส่วนที่เกี่ยวข้องผู้จัดการทั่วไปที่แนะนำให้เฮนรี่ฮับบาร์ดประธาน Enager ของคาร์ลแรนดัล, ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นการรักษาแต่ละ แบ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนเพื่อที่จะสามารถที่จะเกี่ยวข้องกับผลกำไรส่วนของแต่ละคนกับสินทรัพย์ส่วนที่ใช้ในการสร้างผลกำไรที่ได้เริ่มต้นในปี 1992 ส่วนในแต่ละวัดเป็นขึ้นอยู่กับผลตอบแทนของสินทรัพย์ซึ่งได้รับการกำหนดให้เป็นสุทธิส่วนของ รายได้หารด้วยสินทรัพย์รวม รายได้สุทธิสำหรับส่วนที่คำนวณโดยการใช้ส่วนของ "รายได้โดยตรงก่อนหักภาษี" แล้วลบส่วนแบ่งส่วนของค่าใช้จ่ายในการบริหารองค์กร (จัดสรรบนพื้นฐานของรายได้จากการหาร) และส่วนแบ่งของค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ (อัตราภาษีที่นำไปใช้กับ ส่วนของ "รายได้ก่อนหักภาษีโดยตรง" หลังหักค่าใช้จ่ายในการบริหารองค์กรจัดสรร) แม้ว่าฮับบาร์ดตระหนักว่ามีวิธีการอื่น ๆ ในการกำหนดรายได้ส่วนของเขาและประธานาธิบดีที่ต้องการวิธีการตั้งแต่นี้ "มันทำให้ผลรวมของ (หาร) ส่วนเท่า ๆ กันไป (องค์กร) ทั้งในทำนองเดียวกันสินทรัพย์รวม Enager ถูกแบ่งในหมู่สามฝ่าย เนื่องจากแต่ละฝ่ายดำเนินการในสิ่งอำนวยความสะดวกทางกายภาพที่แยกจากกันมันเป็นเรื่องง่ายที่จะเชื่อสินทรัพย์มากที่สุดรวมทั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กําลังการผลิตหรือหน่วย การประเมินผลการปฏิบัติงานก่อนปี 1992 แต่ละแผนกได้ ถือว่า เป็น ศูนย์ กำไรกับกำไร งบประมาณประจำปี ส่วนการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั่วไปผู้จัดการที่เรียกร้องของเฮนรี่ ฮับบาร์ด , enager ประธาน คาร์ล แรนดัลล์ ได้ตัดสินใจที่จะเริ่มต้นการรักษาแต่ละ แผนก ศูนย์การลงทุนเพื่อสามารถเชื่อมโยงแผนกแต่ละบาท ทรัพย์สินส่วนที่ใช้ในการสร้างผลกำไรการเริ่มต้นในปี 1992 แต่ละแผนกได้ตามผลตอบแทนของสินทรัพย์ที่ถูกกำหนดไว้เป็นส่วนรายได้สุทธิหารด้วยสินทรัพย์รวมของ รายได้สุทธิสำหรับกองถูกคำนวณโดยการเป็น " กองตรงรายได้ก่อนภาษี" แล้วแบ่งกองแบ่งค่าใช้จ่ายในการบริหารองค์กร ( จัดสรรบนพื้นฐานของรายได้กองพล ) และส่วนแบ่งของค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ( อัตราภาษีที่ใช้กับ " กองตรงรายได้ก่อนภาษี " หลังจากการลบของการจัดสรรค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัท ) แม้ว่า ฮับบาร์ด ตระหนักว่ามีวิธีการอื่น ๆเพื่อกำหนดรายได้ของแผนกเขาและท่านประธานชอบวิธีนี้เพราะ " มันทำให้ผลรวมของ ( กองพล ) ส่วนเท่ากับ ( องค์กร ) ทั้งใน enager เป็นทรัพย์สินถูกแบ่งระหว่าง 3 หน่วยงาน เนื่องจากแต่ละฝ่ายดำเนินการในร่างกาย แยก เครื่อง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะ attribute ทรัพย์สินมากที่สุด ได้แก่