As more Europeans arrived, there wa

As more Europeans arrived, there was a fight for the land with the native American Indians. By the end of to reservations. A lot of their children were taken away to boarding schools and these children were taught to speak English. By the end of the twentieth century more than half of the Native Americans in the US were living in cities. They gave up speaking their old tribal languages disappeared and with them their culture.
Some American Indian languages are still used today but they are usually spoken by the older members of the tribes who still live on the reservations. In North America there are 150-170 languages that have at least one speaker and many of these languages have under a hundred speakers.
One ancient language which is spoken by the Northern Paiute tribe has more than two hundred speakers. This means when the elders of the tribe get together, they still speak it. But for most of the younger members of the tribe, the everyday language is English.
But the good news is that some of these people are keeping their culture and language alive. They are also receiving help from the National Geographic Society’s Enduring Voices Project. The aim of the project is to help languages around the world which are dying out. Linguists and experts meet these ‘last speakers’. The team interview them and they are recorded with video, pictures and audio. They also tell old storied which are written down in English so people can learn more about the culture
Recording the language and culture is only part of the project. The next stage is to pass on the language to the next generation. Some children pick up some of the language from their parents or grandparents but many tribes also offer courses in the language. The Salish tribe is an excellent example of how schools can help. The tribe lives in the Flathead Reservation in Montana. Their language is currently spoken by about 50 people who are aged over 75 years. No one under 50 speaks the language. So now, the local people have set up a school. It has 30 students aged two to twelve during the day and there are also courses for adults in the evening. It is schools and projects like these which – hopefully – might save language for the future.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหมือนชาวยุโรปมากขึ้น มีการต่อสู้สำหรับที่ดินกับอินเดียอเมริกันพื้นเมือง ในตอนท้ายของการจอง จำนวนมากของเด็กถูกนำออกไปโรงเรียนประจำ และเด็กเหล่านี้ได้รับการสอนการพูดภาษาอังกฤษ ในตอนท้ายของศตวรรษยี่สิบ กว่าครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกาอาศัยอยู่ในเมือง เขาให้พูดภาษาชนเผ่าของพวกเขาเก่าหายตัวไป และด้วยวัฒนธรรมของพวกเขาบางภาษาอเมริกันอินเดียนยังคงใช้วันนี้ แต่พวกเขามักจะพูด โดยสมาชิกเก่าของชนเผ่าที่ยังคง อาศัยอยู่ในการจอง ในอเมริกาเหนือ มีภาษา 150-170 ที่มีลำโพงน้อยหนึ่ง และภาษาเหล่านี้มีใต้ลำโพงร้อยภาษาโบราณหนึ่งซึ่งพูด โดยชาว Paiute เหนือมีลำโพงมากกว่าสองร้อย หมายถึงเมื่อผู้เฒ่าผู้แก่ของชนเผ่าได้รับร่วมกัน พวกเขายังคงพูดก็ แต่สำหรับส่วนมากของสมาชิกอายุน้อยของชนเผ่า ภาษาในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษแต่ข่าวดีคือ ว่า บางส่วนของคนเหล่านี้จะรักษาวัฒนธรรมและภาษามีชีวิต นอกจากนี้พวกเขายังได้รับความช่วยเหลือจากสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติยืนยงเสียงโครงการ เป้าหมายของโครงการคือการ ช่วยภาษาทั่วโลกซึ่งกำลังตายออก นักภาษาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญตรงกับลำโพงนี้' ล่าสุด' ทีมงานสัมภาษณ์พวกเขา และพวกเขาจะถูกบันทึกไว้กับวิดีโอ รูปภาพ และเสียง พวกเขายังบอกชั้นเก่าซึ่งเขียนลงในอังกฤษเพื่อให้ท่านสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมภาษาและวัฒนธรรมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการ ขั้นต่อไปคือการ ผ่านภาษาในรุ่นต่อไป เด็กบางคนรับบางภาษาจากพ่อแม่ หรือปู่ย่าตายายแต่หลายชนเผ่ายังมีหลักสูตรภาษา Salish เผ่าเป็นตัวอย่างของวิธีการที่โรงเรียนสามารถช่วย ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในสำรอง Flathead ในมอนตานา ในปัจจุบันมีพูดภาษาของพวกเขา โดยประมาณ 50 คนที่มีอายุมากกว่า 75 ปี ไม่มีใครเกิน 50 พูดภาษา ตอนนี้ คนในท้องถิ่นได้ตั้งโรงเรียน มีนักเรียน 30 อายุ 2 ถึง 12 ในระหว่างวัน และยังมีหลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่ในช่วงเย็น โรงเรียนและโครงการเหล่านี้ซึ่ง –หวัง – อาจบันทึกภาษาในอนาคต ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นชาวยุโรปเข้ามา มีการต่อสู้เพื่อแผ่นดินกับชาวอเมริกันอินเดียน ในตอนท้ายของการจอง มากของเด็กของพวกเขาถูกจับตัวไปให้โรงเรียนและเด็กเหล่านี้ถูกสอนให้พูดภาษาอังกฤษ ในตอนท้ายของศตวรรษที่ยี่สิบกว่าครึ่งหนึ่งของคนอเมริกันพื้นเมืองในสหรัฐอเมริกาอยู่ในเมือง พวกเขาให้ขึ้นพูดภาษาชนเผ่าเก่าหายไปพร้อมกับวัฒนธรรมของพวกเขาภาษาอินเดียบางอเมริกันยังคงใช้วันนี้ แต่พวกเขามักจะพูดโดยสมาชิกเก่าของตระกูลที่ยังมีชีวิตอยู่ในการจอง ในทวีปอเมริกาเหนือมี 150-170 ภาษาที่มีอย่างน้อยหนึ่งของผู้พูดภาษาเหล่านี้มีหลายภายใต้ร้อยลําโพงหนึ่ง ภาษาเก่าแก่โบราณที่พูดโดยภาคเหนือยุตเผ่ามีมากกว่าสองร้อยลําโพง ซึ่งหมายความว่าเมื่อผู้อาวุโสของเผ่าอยู่ด้วยกัน พวกเขาก็ยังคงพูดมัน แต่สำหรับส่วนใหญ่ของสมาชิกที่มีอายุน้อยกว่าของตระกูล ภาษาในชีวิตประจำวันเป็นภาษาอังกฤษแต่ข่าวดีก็คือว่าบางส่วนของคนเหล่านี้จะรักษาวัฒนธรรมของพวกเขาและภาษามีชีวิต พวกเขาจะยังได้รับความช่วยเหลือจาก National Geographic Society อดทนโครงการเสียง เป้าหมายของโครงการคือการช่วยให้ภาษาทั่วโลกซึ่งกำลังจะตายออก นักภาษาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านการตอบสนองเหล่านี้สุดท้ายของผู้พูด สัมภาษณ์ทีมงานของพวกเขาและพวกเขาจะถูกบันทึกวีดีโอ ภาพ และเสียง พวกเขายังบอกเก่า เรื่องราวที่เขียนในภาษาอังกฤษเพื่อให้ผู้คนสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวัฒนธรรมบันทึกภาษาและวัฒนธรรมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของโครงการ ขั้นตอนต่อไปคือส่งภาษารุ่นต่อไป เด็กบางคนเอาของภาษาจากพ่อแม่ หรือปู่ ย่า ตา ยาย แต่หลายเผ่ายังเสนอหลักสูตรภาษา เผ่าซาลิชเป็นตัวอย่างที่ดีของวิธีการที่โรงเรียนจะช่วยได้ ชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในแบนจองในมอนทาน่า ภาษาของพวกเขากำลังพูดเกี่ยวกับ 50 คน ที่มีอายุเกิน 75 ปี ไม่มีคนอายุต่ำกว่า 50 พูดภาษา ดังนั้น ตอนนี้ คนในท้องถิ่นได้ตั้งโรงเรียน มี 30 คนอายุ 2 ถึง 12 ในระหว่างวันและยังมีหลักสูตรสำหรับผู้ใหญ่ในตอนเย็น มันคือโรงเรียนและโครงการเหล่านี้ซึ่ง–หวังว่า–อาจบันทึกภาษาเพื่ออนาคต