AbstractBackground, aim and scope A

Abstract
Background, aim and scope After China and India, Thailand
is considered another emerging market for fuel ethanol
in Asia. At present, ethanol in the country is mainly a
fermentation/distillery product of cane molasses, although
cassava and cane juice are considered other potential raw
materials for the fuel. This study aims to evaluate the
environmental impacts of substituting conventional gasoline
(CG) with molasses-based gasohol in Thailand.
Materials and methods The life cycle assessment (LCA)
procedure carried out follows three interrelated phases:
inventory analysis, characterization and interpretation. The
functional unit for the comparison is 1 l gasoline equivalent
consumed by a new passenger car to travel a specific
distance.
Results The results of the study show that molasses-based
ethanol (MoE) in the form of 10% blend with gasoline
(E10), along its whole life cycle, consumes less fossil
energy (5.3%), less petroleum (8.1%) and provides a
similar impact on acidification compared to CG. The fuel,
however, has inferior performance in other categories (e.g.
global warming potential, nutrient enrichment and photochemical
ozone creation potential) indicated by increased
impacts over CG.
Discussion In most cases, higher impacts from the upstream
of molasses-based ethanol tend to govern its net life
cycle impacts relative to CG. This makes the fuel blend less
environmentally friendly than CG for the specific conditions
considered. However, as discussed later, this
situation can be improved by appropriate changes in energy
carriers.
Conclusions The LCA procedure helps identify the key
areas in the MoE production cycle where changes are
required to improve environmental performance. Specifically,
they are: (1) use of coal as energy source for ethanol
conversion, (2) discharge of distillery spent wash into an
anaerobic pond, and (3) open burning of cane trash in sugar
cane production.
Recommendations and perspectives Measures to improve
the overall life cycle energy and environmental impacts of
MoE are: (1) substituting biomass for fossil fuels in ethanol
conversion, (2) capturing CH4 from distillery spent wash
and using it as an energy supply, and (3) utilizing cane trash
for energy instead of open burning in fields.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อพื้นหลัง จุดมุ่งหมาย และขอบเขตหลังจากจีน และ อินเดีย ไทยถือเป็นตลาดเกิดใหม่อื่น ๆ สำหรับเชื้อเพลิงเอทานอลในเอเชีย ปัจจุบัน เอทานอลในประเทศส่วนใหญ่เป็นการผลิตภัณฑ์หมักดอง/โรงต้มกลั่นของกากน้ำตาลเท้า แม้ว่ามันสำปะหลังและไม้น้ำจะพิจารณาศักยภาพอื่น ๆ วัตถุดิบวัสดุสำหรับเชื้อเพลิง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแทนน้ำมันธรรมดา(CG) กับแกสโซฮอล์ที่ใช้กากน้ำตาลในประเทศไทยวัสดุและวิธีการประเมินวงจรชีวิต(ผลิตภัณฑ์ LCA)ขั้นตอนดำเนินการดังต่อไปนี้เกี่ยวข้องระยะสาม:การวิเคราะห์สินค้าคงคลัง จำแนก และตีความ ที่หน่วยงานสำหรับการเปรียบเทียบจะเท่ากับน้ำมัน 1 lใช้รถโดยสารใหม่เพื่อการเดินทางห่างจากที่พักผลผลการศึกษาแสดงว่าใช้กากน้ำตาลเอทานอล (หมอ) ในรูปแบบของ 10% ผสมกับน้ำมันเบนซิน(E10), วงจรทั้งชีวิต ใช้น้อยซากดึกดำบรรพ์พลังงาน (5.3%), น้อยกว่าปิโตรเลียม (8.1%) และมีการผลกระทบที่คล้ายกับยูเทียบกับ CG เชื้อเพลิงอย่างไรก็ตาม มีประสิทธิภาพน้อยในประเภทอื่น ๆ (เช่นโลกร้อนเกิด ธาตุอาหารในบ่อ และ photochemicalสร้างโอโซนอาจ) ตามเพิ่มผลกระทบมากกว่า CGอภิปรายในกรณีส่วนใหญ่ สูงผลกระทบจากการขั้นต้นน้ำของเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลมักจะ ควบคุมชีวิตสุทธิผลกระทบรอบสัมพันธ์กับ CG ทำเชื้อเพลิงผสมน้อยสิ่งแวดล้อมกว่า CG สำหรับเงื่อนไขเฉพาะถือว่า อย่างไรก็ตาม เป็นการกล่าวถึงในภายหลัง นี้สถานการณ์สามารถปรับปรุงตามการเปลี่ยนแปลงพลังงานที่เหมาะสมสายการบินตอนบทสรุปของ LCA ช่วยในการระบุคีย์ในการผลิตหมอรอบที่มีการเปลี่ยนแปลงต้องปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะมี: (1) การใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานสำหรับเอทานอลแปลง ปล่อยออก (2) ของโรงกลั่นสุราใช้เวลาล้างเป็นการบ่อที่ไม่ใช้ออกซิเจน และ (3) เปิดเผาถังขยะเท้าในน้ำตาลเท้าที่ผลิตมาตรการข้อเสนอแนะและมุมมองในการปรับปรุงวงจรชีวิตโดยรวมพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของหมอมี: (1) แทนชีวมวลสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลในเอทานอลแปลง, (2) จับ CH4 จากโรงต้มกลั่นที่ใช้ล้างและใช้เป็นการจัดหาพลังงาน และ (3) ใช้ถังขยะเท้าพลังงานแทนที่จะเขียนในฟิลด์เปิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อพื้นหลังจุดมุ่งหมายและขอบเขตหลังจากที่จีนและอินเดียไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเอทานอลในเอเชีย ปัจจุบันเอทานอลในประเทศเป็นส่วนใหญ่สินค้าที่หมัก / โรงกลั่นของกากน้ำตาลอ้อยแม้ว่ามันสำปะหลังอ้อยและน้ำผลไม้ได้รับการพิจารณาอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นดิบวัสดุสำหรับน้ำมันเชื้อเพลิง การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแทนน้ำมันเบนซินธรรมดา(CG) กับโซฮอล์ที่ใช้กากน้ำตาลในประเทศไทย. วัสดุและวิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) ขั้นตอนการดำเนินการดังต่อไปนี้ขั้นตอนที่สามความสัมพันธ์: การวิเคราะห์ลักษณะสินค้าคงคลังและการตีความ หน่วยการทำงานสำหรับการเปรียบเทียบเป็น 1 ลิตรเทียบเท่าน้ำมันเบนซินบริโภคโดยรถโดยสารใหม่ในการเดินทางที่เฉพาะเจาะจงระยะ. ผลการผลการศึกษาพบว่ากากน้ำตาลที่ใช้เอทานอล (MOE) ในรูปแบบของการผสมผสาน 10% กับเบนซิน (E10) พร้อมทั้งวงจรชีวิตของมันกินน้อยฟอสซิลพลังงาน(5.3%), น้ำมันน้อยกว่า (8.1%) และมีผลกระทบที่คล้ายกันในกรดเมื่อเทียบกับการกำกับดูแลกิจการ น้ำมันเชื้อเพลิง, แต่มีประสิทธิภาพการทำงานที่ด้อยกว่าในประเภทอื่น ๆ (เช่นที่อาจเกิดภาวะโลกร้อนการเพิ่มคุณค่าสารอาหารและแสงสร้างโอโซนที่มีศักยภาพ) ระบุโดยเพิ่มขึ้นส่งผลกระทบมากกว่า CG. อภิปรายในกรณีส่วนใหญ่ผลกระทบที่เพิ่มขึ้นจากต้นน้ำของเอทานอลกากน้ำตาลที่ใช้มีแนวโน้มที่จะควบคุมชีวิตสุทธิผลกระทบต่อวงจรเทียบกับการกำกับดูแลกิจการ นี้จะทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า CG สำหรับเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงการพิจารณา อย่างไรก็ตามในขณะที่กล่าวถึงในภายหลังนี้สถานการณ์ได้ดีขึ้นโดยการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมในการใช้พลังงานให้บริการ. สรุปขั้นตอน LCA ช่วยระบุคีย์พื้นที่ในวงจรการผลิตกระทรวงศึกษาธิการที่มีการเปลี่ยนแปลงจะต้องใช้ในการปรับปรุงการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะพวกเขาคือ (1) การใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานเอทานอลแปลง(2) ออกจากโรงกลั่นใช้เวลาซักลงในบ่อเพาะกายและ(3) การเผาไหม้เปิดถังขยะอ้อยน้ำตาลในการผลิตอ้อย. มาตรการข้อเสนอแนะและมุมมองที่จะ ปรับปรุงพลังงานวงจรชีวิตโดยรวมและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของกระทรวงศึกษาธิการคือ(1) แทนชีวมวลเชื้อเพลิงฟอสซิลในเอทานอลแปลง(2) จับ CH4 จากโรงกลั่นใช้เวลาซักและใช้เป็นแหล่งจ่ายพลังงานและ(3) การใช้ถังขยะอ้อยสำหรับพลังงานแทนการเผาไหม้ในสาขาที่เปิดให้บริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังนามธรรม
, จุดมุ่งหมาย และขอบเขต หลังจากที่จีนและอินเดีย ไทย
ถือเป็นอีกเชื้อเพลิงเอทานอล
สำหรับตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย ปัจจุบัน เอทานอลในประเทศส่วนใหญ่
/ น้ำหมักผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังและกากน้ำตาล ถึงแม้ว่า
น้ำอ้อยดิบ
ถือว่าที่มีศักยภาพอื่น ๆวัสดุเชื้อเพลิง การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของแทน
เบนซินธรรมดา ( CG ) กับกากน้ำตาลที่ใช้แก๊สโซฮอล์ในประเทศไทย .
วัสดุและวิธีการในการประเมินวัฏจักรชีวิตผลิตภัณฑ์ ( LCA )
ขั้นตอนดำเนินการต่อไปนี้สามขั้นตอนที่สัมพันธ์กัน :
การวิเคราะห์สินค้าคงคลัง , การตรวจสอบและการตีความ
หน่วยการทำงานสำหรับการเปรียบเทียบคือ เบนซิน 1 ลิตรเทียบเท่า
บริโภคโดยรถยนต์นั่งใหม่ เพื่อการเดินทางที่เฉพาะเจาะจง
ระยะทาง
ผลลัพธ์ ผลการศึกษาพบว่า เอทานอลจากกากน้ำตาล
( โมเอะ ) ในรูปแบบของ 10 % ผสมกับเบนซิน
( PCC7942 ) ตามวงจรชีวิตของมันทั้งหมด ใช้พลังงานฟอสซิล
น้อย ( 5.3% ) และน้อย ( 8.1% ) และมีผลกระทบกับ
คล้ายกรด CG . เชื้อเพลิง
แต่มีการด้อยประสิทธิภาพในประเภทอื่น ๆ ( เช่น
ภาวะโลกร้อนที่มีศักยภาพการเสริมสารอาหารและเคมี
โอโซนศักยภาพสร้าง ) แสดงโดยเพิ่มขึ้น
ผลกระทบมากกว่า CG .
อภิปรายในกรณีส่วนใหญ่สูงกว่าผลกระทบจากต้นน้ำ
กากน้ำตาลเอทานอลจากวัฏจักรของชีวิตมีแนวโน้มที่จะควบคุมผลกระทบ
สุทธิเทียบกับ CG . นี้จะทำให้ส่วนผสมของเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่า CG น้อย

สำหรับเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจงพิจารณา อย่างไรก็ตาม เท่าที่หารือในภายหลัง นี้
สถานการณ์ที่สามารถปรับปรุงโดยการเปลี่ยนแปลงที่เหมาะสมในผู้ให้บริการพลังงาน
.
สรุปขั้นตอน LCA ช่วยระบุพื้นที่ที่สำคัญในการผลิตวงจรที่โมเอะ

ต้องเปลี่ยนแปลงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม โดย
พวกเขาจะ : ( 1 ) การใช้ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการเปลี่ยนเอทานอล
, ( 2 ) การไหลของน้ำที่ใช้ล้างบ่อบำบัดเป็น
,และ ( 3 ) การเผาขยะเปิดของอ้อยในการผลิตอ้อย
.
แนะนำและมุมมองมาตรการปรับปรุง
รวมวงจรชีวิตพลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ
โมเอะคือ ( 1 ) การเปลี่ยนชีวมวลสำหรับเชื้อเพลิงฟอสซิลในแปลงอ้อย
( 2 ) จับร่างจากน้ำที่ใช้ล้าง
และใช้มันเป็น การจัดหาพลังงาน และ ( 3 ) การใช้อ้อย
ถังขยะพลังงานแทนการเผาในที่โล่งในเขต