Modern political theories about cit

Modern political theories about citizenship
– liberalism, communitarianism, and
republicanism – have grown out of these trajectories
and roughly correspond to these
three types of states. Liberalism puts a
strong emphasis on the individual, and most
rights involve liberties that adhere to each
and every person. Concomitantly, communitarianism
emphasizes the community (or the society or the nation), whose primary
concern is with the cohesive and just
functioning of society. Republican theories
in both their conservative and radical
variants put emphasis on both individual
and group rights and emphasize the role of
conflict and contest in the expansion or construction
of such rights. Not all theories or
theorists, however, neatly fit into these
types. At any rate, in many democracies in
the postwar era the debate and struggles
over citizenship rights and obligations have
been waged over either the expansion or the
protection of rights. Most prominent have
been the expansion of civil rights such as
medical and sexual control over the body;
political rights such as rights to naturalize,
to aboriginal self-government or social
movement or protest rights; and social rights
such as old age pensions, unemployment
insurance, health and education, job placement
programs, affirmative action for
minorities, collective bargaining, and wage
earner and union investment funds. The protection
of civil rights such as the rights of
aliens to immigrate, political rights such as
minority rights to equal and fair treatment,
and social rights such as welfare or participation
rights such as job security and workers’
compensation have occupied governmental
agendas. These debates and struggles have
been mostly waged via the nation-state as
both the source and appeal of authority.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีการเมืองสมัยใหม่เกี่ยวกับสัญชาติ-ปอด communitarianism และrepublicanism – มีการเติบโตจากทีมเหล่านี้และสอดคล้องกับประมาณการเหล่านี้สามชนิดของอเมริกา ทำให้ปอดมีแต่ละบุคคล และส่วนใหญ่มุ่งเน้นสิทธิเสรีภาพที่ยึดติดแต่ละที่เกี่ยวข้องกับและทุกคน Concomitantly, communitarianismเน้นสังคม (หรือสังคม หรือประเทศ), หลักที่มีความกังวลคือ มีความเหนียว และเพียงทำงานของสังคม ทฤษฎีสาธารณรัฐในการอนุรักษ์และอนุมูลอิสระตัวแปรที่เน้นไปที่บุคคลทั้งสองและกลุ่มสิทธิ และเน้นบทบาทของความขัดแย้งและการแข่งขันในการขยายหรือก่อสร้างสิทธิดังกล่าว ทฤษฎีทั้งหมด หรือทฤษฎี อย่างไรก็ตาม อย่างลงตัวเหล่านี้ชนิด อัตราใด ๆ ในระบอบประชาธิปไตยมากในในยุคสมัยหลังสงครามการถกเถียงและต่อสู้เป็นสิทธิและหน้าที่ได้การต่อสู้ผ่านทั้งการขยายหรือการป้องกันสิทธิ โดดเด่นที่สุดมีการขยายตัวของสิทธิมนุษยชนเช่นควบคุมทางการแพทย์ และทางเพศร่างกายสิทธิทางการเมืองเช่นสิทธิในการ naturalizeself-government สงวนหรือสังคมเคลื่อนไหวหรือการปฏิเสธสิทธิ และสิทธิทางสังคมเช่นอายุอายุชีพ ว่างงานประกันภัย สุขภาพ และการ ศึกษา จัดหางานโปรแกรม การยืนยันสิทธิประโยชน์สำหรับชนกลุ่มน้อย เจรจา และค่าจ้างเงินลงทุนสหภาพและมี การป้องกันของสิทธิพลเมืองเช่นสิทธิของมนุษย์ต่างดาวที่อพยพ สิทธิ์ทางการเมืองเช่นสิทธิเท่าเทียมกัน และเป็นธรรมรักษา ชนกลุ่มน้อยและสิทธิทางสังคมเช่นสวัสดิการหรือมีส่วนร่วมสิทธิเช่นแรงงานและความค่าตอบแทนมีการครอบครองรัฐวาระการประชุม อภิปรายและการต่อสู้เหล่านี้ได้การต่อสู้ส่วนใหญ่ผ่าน nation-state เป็นแหล่งที่มาและการอุทธรณ์ของผู้มีอำนาจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โมเดิร์นทฤษฎีทางการเมืองเกี่ยวกับการเป็นพลเมือง
- เสรีนิยม Communitarianism และ
ปับ - มีการเติบโตจากไบร์ทเหล่านี้
และประมาณสอดคล้องกับเหล่านี้
สามประเภทของรัฐ เสรีนิยมทำให้
ความสำคัญอย่างมากในแต่ละบุคคลและส่วนใหญ่
สิทธิเสรีภาพเกี่ยวข้องกับการที่เป็นไปตามแต่ละ
และทุกคน ร่วมกัน, Communitarianism
เน้นชุมชน (หรือสังคมหรือประเทศ) ซึ่งหลัก
ความกังวลอยู่กับเหนียวและเพียงแค่
ทำงานของสังคม ทฤษฎีรีพับลิกัน
ทั้งในเชิงอนุรักษ์นิยมและรุนแรงของพวกเขา
สายพันธุ์ให้ความสำคัญกับบุคคลทั้งสอง
สิทธิและกลุ่มและเน้นบทบาทของ
ความขัดแย้งและการประกวดในการขยายหรือการก่อสร้าง
ของสิทธิดังกล่าว ไม่ทฤษฎีหรือ
ทฤษฎี แต่อย่างเรียบร้อยพอดีกับเหล่านี้
ประเภท ในอัตราใด ๆ ในระบอบประชาธิปไตยจำนวนมากใน
ยุคหลังการอภิปรายและการต่อสู้
สิทธิพลเมืองและหน้าที่ได้
รับการยืดเยื้อกว่าทั้งการขยายตัวหรือ
การคุ้มครองสิทธิ ที่โดดเด่นที่สุดได้
รับการขยายตัวของสิทธิมนุษยชนเช่น
การควบคุมทางการแพทย์และทางเพศทั่วร่างกาย;
สิทธิทางการเมืองเช่นสิทธิในสัญชาติ,
การอะบอริจิปกครองตนเองหรือสังคม
หรือการเคลื่อนไหวประท้วงสิทธิ และสิทธิทางสังคม
เช่นเงินบำนาญอายุการว่างงาน
ประกันสุขภาพและการศึกษา, ตำแหน่งงาน
โปรแกรมการดำเนินการยืนยันสำหรับ
ชนกลุ่มน้อย, การเจรจาต่อรองและค่าจ้าง
รายได้และกองทุนรวมที่ลงทุนยูเนี่ยน การคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชนเช่นสิทธิของ
มนุษย์ต่างดาวที่จะอพยพสิทธิทางการเมืองเช่น
สิทธิของชนกลุ่มน้อยที่จะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม
และสิทธิทางสังคมเช่นสวัสดิการหรือการเข้าร่วม
สิทธิเช่นการรักษาความปลอดภัยในการทำงานและแรงงาน
ชดเชยได้ครอบครองของรัฐบาล
วาระการประชุม การอภิปรายและการต่อสู้เหล่านี้ได้
รับการเข้าร่วมส่วนใหญ่ผ่านทางรัฐชาติเป็น
ทั้งแหล่งที่มาและการอุทธรณ์ของผู้มีอำนาจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเมืองสมัยใหม่ทฤษฎีเกี่ยวกับความเป็นพลเมืองและ communitarianism และเสรีนิยมภากร–ได้เติบโตขึ้นจากวิถีเหล่านี้และประมาณสอดคล้องกับเหล่านี้สามประเภทของสหรัฐอเมริกา ใส่เป็นเสรีนิยมเน้นที่ตัวบุคคล และมากที่สุดสิทธิเกี่ยวกับเสรีภาพที่ยึดติดแต่ละและทุกๆคน เป็นทีม communitarianism ,เน้นชุมชนหรือสังคมหรือประเทศ ) ซึ่งมีหลักกังวลกับเหนียวและการทำงานของสังคม ทฤษฎีรีพับลิกันทั้งในการอนุรักษ์ และรุนแรงโดยเน้นทั้งบุคคลและสิทธิของกลุ่ม และเน้นบทบาทของความขัดแย้งและการแข่งขันในการขยายหรือก่อสร้างสิทธิเช่น ไม่ใช่ทฤษฎี หรือนักทฤษฎี แต่เรียบร้อยพอดีกับเหล่านี้ประเภท ในอัตราใดในประเทศมากมายในยุคหลังการอภิปราย และ การต่อสู้สิทธิความเป็นพลเมืองและความรับผิดชอบได้ถูกรุมเร้าด้วยการขยายตัวหรือมากกว่าการคุ้มครองสิทธิ โดดเด่นที่สุดมีการขยายตัวของสิทธิมนุษยชนเช่นแพทย์ควบคุมร่างกายทางเพศและสิทธิทางการเมือง เช่น สิทธิในการแปลงสัญชาติ ,ในแบบดั้งเดิม หรือสังคมเคลื่อนไหวหรือสิทธิในการประท้วง และสิทธิทางสังคมเช่นบำเหน็จบำนาญชราภาพ การว่างงานประกัน สุขภาพ และการศึกษา การอาชีพโปรแกรมการยืนยันสำหรับชนกลุ่มน้อย การเจรจาต่อรอง และค่าจ้างรายได้ และการลงทุนกองทุนของสหภาพ การป้องกันของสิทธิ เช่น สิทธิของคนต่างด้าวที่จะอพยพ สิทธิทางการเมือง เช่นสิทธิของเสียงข้างน้อยจะเท่ากัน และการรักษาที่ยุติธรรมและสิทธิทางสังคม เช่น สวัสดิการ หรือการมีส่วนร่วมสิทธิ เช่น งานและคนงานค่าตอบแทนที่ได้ครอบครองของรัฐวาระการประชุม . การอภิปรายและการต่อสู้มีการต่อสู้ผ่านทางรัฐชาติเป็นส่วนใหญ่ทั้งแหล่งที่มาและการอุทธรณ์ของผู้มีอำนาจ