Introduction:World Health Organizat

Introduction:
World Health Organization reported that 16% of the disabling hearing loss in adults is
attributable to occupational noise exposure [1]. The association between noise and noise-induced
hearing loss (NIHL) has been known since the 18th century. NIHL remains among the 10 leading
occupational diseases [2]. Noise-induced hearing loss usually progresses unnoticed until it begins
to interfere with communication, posing a serious safety hazard and a decrease in the quality of
life [3].The following categories are widely applied because they correspond to regulatory limits in
developed (usually 85 dB (A)) and many developing (usually 90 dB (A)) countries for 8-hour day:
Minimum noise exposure: 90 dB (A). [4]. Noise induced hearing loss is an irreversible and incurable
disease [5]. Noise exposure can create permanent threshold shifts (PTS); temporary threshold
shifts (TTS), permanent or temporary tinnitus and other physical side effects such as high blood
pressure. These types of hearing damage are often referred to as noise induced hearing loss
(NIHL) [6]. Noise induced hearing loss ranging from an average hearing threshold across 500,
1000, and 2000Hz of 25 dB or for OSHA [7].The higher frequencies are more commonly the first
to be damaged by the hazardous noise. Hazardous noise is generally any noise that is above 85
dBA [6].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทนำ:องค์การอนามัยโลกรายงานว่า 16% ของการสูญเสียการได้ยินปิดในผู้ใหญ่นของแสงเสียงอาชีว [1] ความสัมพันธ์ระหว่างเสียง และ เกิดเสียงรบกวนยิน (NIHL) ได้รับทราบตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 NIHL ยังคงอยู่ในหมู่ 10 ที่นำอาชีวโรค [2] เกิดเสียงได้ยินสูญเสียมักจะคืบใหญ่จนกว่าจะเริ่มต้นจะรบกวนการสื่อสาร วางตัวเป็นอันตรายร้ายแรงด้านความปลอดภัยและการลดลงของคุณภาพของชีวิต [3] ประเภทต่อไปนี้จะใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากพวกเขาสอดคล้องกับข้อจำกัดด้านกฎระเบียบในพัฒนา (ปกติ 85 dB (A)) และ (ปกติ 90 dB (A)) พัฒนาหลายประเทศ 8 ชั่วโมงวัน:สัญญาณรบกวนน้อยแสง: < 85 dB (A) แสงเสียงสูงปานกลาง: 85−90 dB (A), สัญญาณรบกวนสูงแสง: > 90 dB (A) [4] . เสียงรบกวนที่เหนี่ยวนำยินเป็นกลับไม่ได้ และรักษาไม่หายโรค [5] เสียงแสงสามารถสร้างขีดจำกัดถาวรกะ (PTS); เขตแดนชั่วคราวกะ (TTS), หูอื้อถาวร หรือชั่วคราว และผลข้างเคียงทางกายภาพอื่น ๆ เช่นเลือดสูงความกดดัน ชนิดของความเสียหายได้ยินเหล่านี้มักเรียกว่ายินเสียงรบกวนที่เหนี่ยวนำให้เกิด(NIHL) [6] ยินตั้งแต่เขตแดนการได้ยินเฉลี่ยระหว่าง 500 เกิดเสียงรบกวน1000 และ 2000Hz ของ 25 dB หรือ OSHA [7] ความถี่สูงมากกว่าปกติเป็นครั้งแรกการเสียหายจากเสียงอันตราย สัญญาณรบกวนที่เป็นอันตรายโดยทั่วไปสัญญาณรบกวนใด ๆ ที่อยู่เหนือ 85dBA [6].

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ:
องค์การอนามัยโลกรายงานว่า 16% ของการสูญเสียการได้ยินการปิดใช้งานในผู้ใหญ่ที่เป็น
ผลพวงของการสัมผัสเสียงประกอบอาชีพ [1] ความสัมพันธ์ระหว่างเสียงรบกวนและเสียงรบกวนที่เกิด
สูญเสียการได้ยิน (กลุ่มหูเสื่อม) ได้รับการรู้จักกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 กลุ่มหูเสื่อมยังคงอยู่ในหมู่ที่ 10 ชั้นนำ
โรคจากการทำงาน [2] สูญเสียการได้ยินเสียงรบกวนที่เกิดมักจะดำเนินไปโดยไม่มีใครสังเกตจนกว่าจะเริ่ม
เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการสื่อสารการวางตัวเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยอย่างจริงจังและการลดลงของคุณภาพของการ
ชีวิต [3] ประเภทต่อไปได้โดยเริ่มต้นถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายเพราะพวกเขาสอดคล้องกับข้อ จำกัด ในการกำกับดูแล
การพัฒนา (ปกติ 85 dB (A)) และอีกหลายการพัฒนา (ปกติ 90 dB (A)) ประเทศสำหรับวัน 8 ชั่วโมง:
การเปิดรับขั้นต่ำรบกวน: <85 dB (A) การสัมผัสเสียงสูงปานกลาง: 85-90 dB (A), เสียงสูง
การสัมผัส :> 90 dB (A) [4] สูญเสียการได้ยินเสียงรบกวนเหนี่ยวนำให้เกิดเป็นกลับไม่ได้และไม่มีทางรักษา
โรค [5] การสัมผัสเสียงรบกวนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงเกณฑ์ถาวร (PTS); ชั่วคราวเกณฑ์
กะ (TTS) หูอื้อถาวรหรือชั่วคราวและผลข้างเคียงทางกายภาพอื่น ๆ เช่นเลือดสูง
ความดัน ประเภทนี้อันตรายต่อการได้ยินมักจะหมายถึงการสูญเสียการได้ยินเสียงเหนี่ยวนำ
(กลุ่มหูเสื่อม) [6] เสียงรบกวนการสูญเสียเหนี่ยวนำให้เกิดการได้ยินตั้งแต่ได้ยินเกณฑ์เฉลี่ยทั่ว 500,
1000 และ 2000Hz 25 เดซิเบลหรือ OSHA [7] ได้โดยเริ่มต้นที่มีความถี่สูงมากกว่าปกติเป็นครั้งแรก
ที่จะได้รับความเสียหายจากเสียงที่เป็นอันตราย เสียงที่เป็นอันตรายโดยทั่วไปคือเสียงใด ๆ ที่อยู่เหนือ 85
dBA [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ :องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ร้อยละ 16 ของการสูญเสียการได้ยินในผู้ใหญ่ คือ ปิดการใช้งานจากการสัมผัสเสียงดัง [ 1 ] ความสัมพันธ์ระหว่างเสียงและเสียง )การสูญเสียการได้ยิน ( เหตุ ) เป็นที่รู้จักกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 เสียงยังคงหมู่ 10 ชั้นนําโรค [ 2 ] การสูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียงดังมักจะดำเนินไปจนเริ่มสังเกตรบกวนการสื่อสารวางตัวอันตรายร้ายแรงด้านความปลอดภัย และลดคุณภาพของชีวิต [ 3 ] . ประเภทต่อไปนี้ มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะสอดคล้องกับที่กฎหมายกำหนดในพัฒนา ( ปกติ 85 dB ( A ) และพัฒนาหลาย ( ปกติ 90 dB ( A ) ) ประเทศ 8 วันการสัมผัสเสียงดังน้อยที่สุด : < 85 dB ( A ) , แสงเสียงสูงปานกลาง 85 − 90 dB ( A ) , เสียงสูงเปิดรับ : > 90 dB ( A ) [ 4 ] การสูญเสียการได้ยินเนื่องจากเสียงดังเป็นและไม่ได้รักษาไม่หายโรค [ 5 ] การสัมผัสเสียงดังสามารถสร้างกะเกณฑ์ถาวร ( PTS ) ; ธรณีประตูชั่วคราวกะ ( TTS ) ถาวรหรือชั่วคราวแพทย์เฉพาะทางและผลกระทบด้านกายภาพอื่น ๆ เช่น ในเลือดสูงความดัน เหล่านี้ประเภทของความเสียหายการได้ยินมักจะเรียกว่าเสียงดังจากการสูญเสียการได้ยิน( เสียง ) [ 6 ] เสียงดังจากการได้ยินการสูญเสียการได้ยินตั้งแต่เฉลี่ยทั่วประเทศ 500 ,1000 และ 2000hz 25 dB หรือ OSHA [ 7 ] . ความถี่สูงมักเป็นมากขึ้นได้รับความเสียหาย โดยเสียงที่เป็นอันตราย เสียงที่เป็นอันตรายโดยทั่วไปใด ๆที่เกิน 85 เสียง5 [ 6 ]