Wind is caused by differences in at

Wind is caused by differences in atmospheric pressure. When a difference in atmospheric pressure exists, air moves from the higher to the lower pressure area, resulting in winds of various speeds. On a rotating planet, air will also be deflected by the Coriolis effect, except exactly on the equator. Globally, the two major driving factors of large-scale wind patterns (the atmospheric circulation) are the differential heating between the equator and the poles (difference in absorption of solar energy leading to buoyancy forces) and the rotation of the planet. Outside the tropics and aloft from frictional effects of the surface, the large-scale winds tend to approach geostrophic balance. Near the Earth's surface, friction causes the wind to be slower than it would be otherwise. Surface friction also causes winds to blow more inward into low pressure areas.[1] A new, controversial theory, suggests atmospheric gradients are caused by forest induced water condensation resulting in a positive feedback cycle of forests drawing moist air from the coastline.[2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ลมเกิดจากความแตกต่างของความดันบรรยากาศ เมื่อมีความแตกต่างในความดันบรรยากาศ อากาศย้ายจากพื้นที่ความดันสูงให้ต่ำลง เกิดลมความเร็วต่าง ๆ ในโลกหมุน อากาศจะยังเป็น deflected โดยผล Coriolis ยกเว้นตรงกับเส้นศูนย์สูตร ทั่วโลก สองปัจจัยผลักดันสำคัญของลมขนาดใหญ่รูปแบบ (การหมุนเวียนอากาศ) ความร้อนส่วนที่แตกต่างระหว่างเส้นศูนย์สูตร และเสา (ความแตกต่างในการดูดซับพลังงานแสงอาทิตย์นำไปพยุงกองทัพ) และการหมุนของดาวเคราะห์ได้ นอกเขตร้อน และโรงแรมอลอฟท์จากผล frictional ของพื้นผิว ลมขนาดใหญ่มักจะดุล geostrophic วิธีการ ใกล้พื้นผิวของโลก แรงเสียดทานทำให้เกิดลมช้ากว่ามันจะเป็นอย่างอื่น แรงเสียดทานที่ผิวยังทำให้ลมเป่าเข้าข้างในเพิ่มเติมเป็นพื้นที่ความดันต่ำ[1] ทฤษฎีการแย้ง ใหม่ แนะนำการไล่ระดับสีบรรยากาศที่เกิดจากการควบแน่นน้ำป่าเกิดในวงจรป้อนกลับเชิงบวกของป่าวาดอากาศชุ่มชื่นจากชายฝั่ง[2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ลมที่เกิดจากความแตกต่างในความดันบรรยากาศ เมื่อความแตกต่างในความดันบรรยากาศที่มีอยู่ย้ายทางอากาศจากที่สูงขึ้นไปยังพื้นที่ความดันต่ำส่งผลให้ลมความเร็วต่างๆ บนดาวเคราะห์หมุนอากาศจะถูกหักเหโดยผลกระทบโบลิทาร์ยกเว้นตรงกับเส้นศูนย์สูตร ทั่วโลกทั้งสองปัจจัยสำคัญของขนาดใหญ่รูปแบบลม (การไหลเวียนของอากาศ) จะมีความร้อนที่แตกต่างกันระหว่างเส้นศูนย์สูตรและเสา (ความแตกต่างในการดูดซึมของพลังงานแสงอาทิตย์ที่นำไปสู่​​การลอยตัวกองกำลัง) และการหมุนของโลก นอกเขตร้อนและสูงขึ้นจากผลกระทบของแรงเสียดทานของพื้นผิว, ลมขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะเข้าใกล้ความสมดุล geostrophic ใกล้พื้นผิวโลกแรงเสียดทานทำให้เกิดลมที่จะช้ากว่ามันจะเป็นอย่างอื่น แรงเสียดทานพื้นผิวยังทำให้เกิดลมพัดเข้ามามากขึ้นในพื้นที่ความดันต่ำ. [1] ใหม่ทฤษฎีความขัดแย้งแสดงให้เห็นการไล่ระดับสีในชั้นบรรยากาศที่เกิดจากการเหนี่ยวนำให้เกิดการควบแน่นป่าน้ำที่เกิดขึ้นในวงจรการตอบรับเชิงบวกของการวาดภาพป่าอากาศชื้นจากชายฝั่ง. [2 ]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ลมที่เกิดจากความแตกต่างในความดันบรรยากาศ เมื่อความแตกต่างในความดันบรรยากาศอยู่ อากาศที่ย้ายจากที่สูงขึ้นเพื่อลดความดันในพื้นที่ ส่งผลให้ลมความเร็วต่าง ๆ บนโลกที่หมุน อากาศก็จะถูกเบี่ยงเบนโดยภาพลวงตา ยกเว้นตรงเส้นศูนย์สูตร ทั่วโลกหลักสองปัจจัยการขับรถรูปแบบลมขนาดใหญ่ ( การหมุนเวียนของบรรยากาศ ) เป็นค่าความร้อนระหว่างเส้นศูนย์สูตรและเสา ( ความแตกต่างในการดูดซึมของพลังงานแสงอาทิตย์ที่นำไปสู่การลอยตัวบังคับ ) และการหมุนของดาวเคราะห์ นอกเขตร้อนและ Aloft จากผลแรงเสียดทานของพื้นผิวลมขนาดใหญ่มีแนวโน้มที่จะวิธีการสมดุลยีโอสโทรฟิก .ใกล้ผิวโลก การเสียดสี ทำให้เกิดลมจะช้าลงกว่าที่มันจะเป็นอย่างอื่น แรงเสียดทานพื้นผิวยังทำให้เกิดลมพัดเพิ่มเติมเข้าในพื้นที่ความดันต่ำ [ 1 ] ทฤษฎีใหม่ แย้งว่า บรรยากาศการไล่ระดับสีที่เกิดจากป่าเกิดการควบแน่นน้ำส่งผลให้วงจรป้อนกลับเชิงบวกของป่าวาดอากาศชื้นจากชายฝั่ง [ 2 ]