Encryption StrengthThree important

Encryption Strength
Three important factors determine the strength of any encryption
1 Key length
2 Key management policies
3 Nature of the encryption algorithm
Longer keys provide stronger encryption by reducing the number of repeating blocks of ciphertext. This makes it harder to spot patterns in the ciphertext that reflect patterns in the original plaintext. For example, the is one of the most common three-letter words in English. Each character in English is represented by an 8-bit code. Thus, a 24-bit encryption key would create ciphertext in blocks that represent thee consecutive characters. Such a short key is weak because it provides an opportunity to identify commonly recurring block of ciphertext like to represent common words, thereby enabling the analyst to "break" the encryption code.
The procedures used to store and manage the encryption key are also important. Indeed, this is often the most vulnerable aspect of encryption system. No matter how strong an encryption algorithm is, if the keys have been compromised, the encryption can be easily broken. Encryption keys should not be stored on the computer that uses them. It is also important to store a coppy of keys in a secure location (a process referred to as key escrow) so that in the event an employee leaves the organization for any reason, the data can be decrypted.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความแรงของการเข้ารหัส
สามปัจจัยที่สำคัญตรวจสอบความแข็งแรงของการเข้ารหัสใด ๆ
1 ความยาวคีย์
2 นโยบายการจัดการคีย์ที่
3 ลักษณะของขั้นตอนวิธีการเข้ารหัส
คีย์อีกต่อไปให้การเข้ารหัสที่เข้มงวดโดยการลดจำนวนของการทำซ้ำบล็อกของ ciphertext นี้จะทำให้มันยากที่จะจุดรูปแบบใน ciphertext ที่สะท้อนให้เห็นถึงรูปแบบใน plaintext เดิม ยกตัวอย่างเช่นการเป็นหนึ่งในที่พบมากที่สุดคำสามตัวอักษรในภาษาอังกฤษ ตัวอักษรในภาษาอังกฤษแต่ละครั้งจะถูกแทนด้วยรหัส 8 บิต ดังนั้นคีย์การเข้ารหัสลับ 24 บิตจะสร้าง ciphertext ในบล็อกที่เป็นตัวแทนของเจ้าตัวละครที่ต่อเนื่องกัน ดังกล่าวที่สำคัญในระยะสั้นจะอ่อนแอเพราะมันมีโอกาสที่จะระบุโดยทั่วไปที่เกิดขึ้นบล็อกของ ciphertext ชอบที่จะเป็นตัวแทนของคำทั่วไปจึงทำให้นักวิเคราะห์ที่จะ "หยุด" รหัสการเข้ารหัส.
วิธีการที่ใช้ในการจัดเก็บและจัดการคีย์การเข้ารหัสลับยังมีความสำคัญ แท้จริงนี้มักจะเป็นด้านที่เปราะบางที่สุดของระบบการเข้ารหัส ไม่ว่าวิธีการเข้ารหัสที่แข็งแกร่งคือถ้ากุญแจที่มีการบุกรุก, การเข้ารหัสที่สามารถหักได้อย่างง่ายดาย คีย์การเข้ารหัสลับไม่ควรเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้พวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะเก็บ coppy ของคีย์ในสถานที่ที่ปลอดภัย (กระบวนการที่เรียกว่าโครว์เป็นสำคัญ) เพื่อให้ในกรณีที่ลูกจ้างออกจากองค์กรด้วยเหตุผลใด ๆ ข้อมูลที่สามารถถอดรหัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรงการเข้ารหัสสามปัจจัยที่สำคัญตรวจสอบความแรงของการเข้ารหัสคีย์ความยาว
1
2
3 ที่สำคัญนโยบายการจัดการธรรมชาติของขั้นตอนวิธีการเข้ารหัสลับคีย์การเข้ารหัสที่แข็งแกร่งโดย
อีกต่อไป ให้ลดจำนวนซ้ำของบล็อกไซเฟอร์เท็กซ์ . นี้ทำให้ยากที่จะจุดในรูปแบบผนังที่สะท้อนให้เห็นถึงลวดลายอักขระต้นฉบับ ตัวอย่างเช่นเป็นหนึ่งที่พบมากที่สุดสามคำตัวอักษรในภาษาอังกฤษ ตัวละครแต่ละตัวในภาษาอังกฤษจะแทนด้วยรหัส 8 บิต . ดังนั้น , 24 บิตการเข้ารหัสคีย์จะสร้างผนังในบล็อกของเจ้าตัว ) เช่นคีย์สั้นอ่อนแอเพราะมีโอกาสที่จะระบุโดยทั่วไปที่เกิดขึ้นในบล็อกของผนังเหมือนเป็นตัวแทนของคำทั่วไปจึงช่วยให้นักวิเคราะห์ที่จะ " หยุด " เข้ารหัสโค้ด
วิธีการที่ใช้ในการจัดเก็บและการจัดการคีย์เข้ารหัส ก็สำคัญเหมือนกัน แน่นอน , นี้มักจะเป็นลักษณะที่เปราะบางที่สุดของระบบการเข้ารหัส ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนวิธีการเข้ารหัสแข็งแรงแค่ไหน ถ้าคีย์มีการบุกรุก , เข้ารหัสสามารถหักได้อย่างง่ายดายกุญแจการเข้ารหัสที่ไม่ควรเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ที่ใช้พวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะเก็บก๊อปปี้ของคีย์ในสถานที่ที่ปลอดภัย ( กระบวนการที่เรียกว่าคีย์สัญญา ) ดังนั้นในกรณีที่พนักงานลาออกจากองค์กรสำหรับเหตุผลใด ๆ ข้อมูลที่สามารถถอดรหัส